“พิชัย” ชงปี68 ทดลองใช้ “คริปโทเคอร์เรนซี” แทนเงินสดเมืองท่องเที่ยว
พิชัย รมว.คลัง เสนอไทยทดลองใช้สกุล คริปโทเคอร์เรนซี ชำระค่าสินค้าและบริการในเมืองท่องเที่ยวแทนการใช้เงินสด ดันไทยเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัล เริ่มเห็นในปี 2568 พร้อมลุ้นจีดีพีไทยโตแตะ4%
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ตนได้เสนอให้รัฐบาลเปิดให้มีการทดลอง หรือแซนบอกซ์ ใช้สกุล “คริปโทเคอร์เรนซี” แทนการใช้เงินสด เพื่อนำไปชำระค่าบริการสินค้าในพื้ที่เมืองท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามาท่องเที่ยวจำนวนมาก ทั้งนี้เพื่อไม่ให้ไทยเสียโอกาสในการพัฒนาประเทศเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจดิจิทัล โดยจะเริ่มเห็นในปี 2568 นี้ เนื่องจากมองว่าปัจจุบันนักท่องเที่ยวทั่วโลกมีการถือครองทรัยพ์สินที่เป็นคริปโทเคอร์เรนซีจำนวนมากและมูลค่าของ คริปโทเคอร์เรนซี ก็เพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลา
หากมีการดำเนินการเรื่องนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องแก้ไขกฎหมายแต่อย่างใด โดยเบื้องต้นคาดว่าจะมีโอกาสได้เห็นการดำเนินการเรื่องนี้ภายในปีนี้อย่างแน่นอน
นอกจากนี้ นายพิชัย ยังประเมินการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2568 โดยว่า เชื่อว่าเศรษฐกิจจะสามารถขยายตัวได้เกินกว่า 3% สูงกว่าปี 2567 ที่เติบโตอยู่ที่ 2.7-.2.8% และคาดว่าไตรมาส4 ปี 2567 เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้เกิน 3% ต่อปี
ไตรมาส 4 ผมมีความเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยจะเกิน 3% แน่นอน ลุ้นอยู่ว่าจะถึง 4% ไหม ทั้งปีก็ 2.7-2.8% สัญญาณการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยได้เริ่มขึ้นแล้ว ตัวเลขการบริโภคภาคเอกชน 3 ไตรมาส โตกว่า 8% การลงทุนภาคเอกชน บีโอไอ 9 เดือน สูงมากกว่ารอบ 10 ปีที่ผ่านมา ขณะที่การส่งออกก็เริ่มดีขึ้น
ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวก็ยังเป็นจุดแข็งของไทย โดยตั้งเป้าหมายว่าปีนี้จำมีจำนวนนักท่องเที่ยวราว 39.8 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่จำนวนนักท่องเที่ยว 35-36 ล้านคน นอกจากนี้ยังมีเรื่องของแรงหนุนที่จะผลักดันให้นักลงทุนต่างชาติใช้ไทยเป็นฐานการผลิตรถอีวี ธุรกิจ Wellness ธุรกิจการให้บริการคลาวด์
นอกจากนี้ภาครัฐก็มีแผนทบทวนการปฎิรูปภาษีทั้งระบบ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันภาคเอกชน และจะมีการเสนอให้มีการทำกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure fund) เพื่อระดม เงินทุนจากผู้ลงทุนทั่วไปทั้งรายย่อยและที่เป็นสถาบัน เพื่อลงทุน หรือพัฒนาในกิจการโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นประโยชน์ สาธารณะในวงกว้างของประเทศที่นอกเหนือจากการใช้งบประมาณแผ่นดิน
ส่วนแนวทางการลดาคาค่าไฟลดมาให้อยู่ในระดับต่ำกว่า 4 บาทต่อหน่วย เช่นในอดีตจากในปัจจุบันค่าไฟอยู่ที่ 4.18 บาทต่อหน่วย และรัฐบาลต้องมีการแก้ไขปัญหาราคาค่าไฟทุกๆ 4 เดือนนั้น นายพิชัยได้แสดงความเห็นด้วย แต่เรื่องนี้ขอเวลาศึกษาก่อนว่าจะสามารถปรับโครงสร้างค่าไฟฟ้าได้อย่างไร รวมทั้ง กระทรวงการคลังยังไม่ได้พิจารณาเรื่องลดภาษีอุดหนุนค่าไฟฟ้า