การตลาด MK ในยุคผู้บริหารเจน 2 กวาดเอนเกจเมนต์ลูกค้าได้เพียบ

31 มกราคม 2568

MK Restaurants หรือเอ็มเค สุกี้ กลายเป็นกระแสฮือฮาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยการเล่นใหญ่ เปลี่ยนชื่อเฉพาะกิจเป็น “MongKol” 4 สาขา ยึดความเชื่อเป็นกลยุทธ์การตลาด ทวงบัลลังก์เบอร์หนึ่งแบรนด์สุกี้ การเปลี่ยนแปลงในยุคของผู้บริหารเจน 2

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมากลายเป็นกระแสฮือฮา เมื่อแบรนด์ใหญ่อย่าง เอ็มเค สุกี้ หรือ MK Restaurants ภายใต้อาณาจักรหมื่นล้านบาท บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ก็เกาะกระแส “มูเก็ตติ้ง” ทำการตลาดที่นำเสนอในรูปแบบความเชื่อ ด้วยการเปลี่ยนชื่อร้าน 4 สาขาเป็นชื่อ “มงคล”(MongKol) ครั้งแรกในรอบ 39 ปี

ซึ่งหมายถึงความเป็นสิริมงคล โชคดี จนกลายเป็นไวรัลกวาดเอนเกจเมนต์จากลูกค้าได้อย่างมากมายแม้ว่าจะเป็นการเปลี่ยนชื่อแบบ “เฉพาะกิจ” ก็ตาม 

โดย 4 สาขา ดังกล่าว ได้แก่ สามย่านมิตรทาวน์, เซ็นทรัล เวสต์เกต, เซ็นทรัล พระราม 9 และเซ็นทรัล พระราม 3 ซึ่งจะสิ้นสุดวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้ 
 

ถึงแม้ว่า MK จะอยู่ในตลาดหลายปี แต่ทว่าการแข่งขันในตลาดสุกี้ หม้อไฟ ปัจจุบันนั้นค่อนข้างสูง นั่นจึงกลายเป็นโจทย์ใหญ่ทำให้ MK ต้องปลุกแบรนด์เพื่อแข่งขันในตลาดได้ 

หลังจากกระแส “MongKol” ได้รับการตอบรับในทิศทางที่ดี ข้อมูลบน Social Listening มีการพูดถึงแบรนด์มากกว่า 500,000 Engagements ในช่วงเวลานั้น MK จึงเดินกลยุทธ์การตลาดต่อเนื่อง เปิดตัว “หมี่หยก” ความยาว 99 เซนติเมตร สำหรับลูกค้าที่เข้าไปใช้บริการที่ร้าน 

การที่เมนูหมี่หยกความยาว 99 เซนติเมตร เป็นการยึดความเชื่อชาวจีนที่ว่า “ห้ามตัดเส้นบะหมี่เวลาทาน” เพราะยิ่งเส้นยาวเท่าไหร่ ก็หมายถึงอายุที่ยืนยาวเท่านั้น เมนูนี้จึงไม่มีการตัดแบ่ง นอกจากนั้นยังมีเมนูมงคลอีกมากมายที่ MK เปิดตัวออกมารับตรุษจีนที่ผ่านมา 

การตลาด MK ในยุคผู้บริหารเจน 2 กวาดเอนเกจเมนต์ลูกค้าได้เพียบ
 

ล่าสุดเพจ MK Restaurants สร้างกระแสให้ Content Marketing ด้วยการโพสต์ภาพ Photo Album ภาพทั้ง 5 สามารถประกอบกันเป็นขวดน้ำจิ้มสุกี้ กลายเป็นคอนเทนต์สนุกสนานบนโซเชียลมีเดีย นับเป็นสัญญาณขอทวงบัลลังก์เบอร์หนึ่งร้านสุกี้ 

การตลาด MK ในยุคผู้บริหารเจน 2 กวาดเอนเกจเมนต์ลูกค้าได้เพียบ

ความสำเร็จของแคมเปญการตลาด MK Restaurants ในครั้งนี้ ไม่เพียงสะท้อนถึงความเข้าใจเชิงลึกต่อความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ แต่ยังสามารถผสานวัฒนธรรมและความเชื่อเข้ากับกลยุทธ์ทางการตลาดได้อย่างลงตัว ส่งผลให้เกิดอิทธิพลในวงกว้าง ทั้งในด้านการเพิ่มยอดขาย การกระตุ้นเอนเกจเมนต์ และการเสริมสร้างภาพลักษณ์เชิงบวกให้กับแบรนด์

ไทม์ไลน์การปรับโฉมธุรกิจที่ผ่านมา 

ในช่วงรอบปีที่ผ่านมาเอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป มีการปรับโฉมธุรกิจและเปลี่ยนแปลงองค์กรในหลายด้าน ย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 2566 ได้เปลี่ยนแปลงโลโก้บริษัท เหลือเพียง “M” เพื่อให้สอดคล้องวิสัยทัศน์ธุรกิจที่มุ่งที่บริษัทมีหลายแบรนด์ในพอร์ตโฟลิโอ

พร้อมได้แปลงธุรกิจครอบครัว (Family Business) สู่การเป็น “มหาชน” เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) รองรับการขยายพอร์ตธุรกิจให้มากกว่า ร้านอาหารเอ็มเค สุกี้ เท่านั้น และขยายแบรนด์ในเครือหลากหลาย

ส่งไม้ต่อเจน 2 นั่งแท่นบริหาร

ต่อมาในช่วงปลายปี 2567 เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป ประกาศอย่างเป็นทางการกับการแต่งตั้ง “ทานตะวัน -ธีร์ ธีระโกเมน” ทายาทของ "ฤทธิ์ ธีระโกเมน" ผู้ก่อตั้งแบรนด์ โดยให้สองทายาท ดำรงตำแหน่งสู่ กรรมการผู้จัดการใหญ่ร่วม 2 คน โดยมีผลตั้งแต่ 1 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา พร้อมทำงานที่ต้องรายงานตรงต่อประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กับ “ฤทธิ์” อีกทาง 

สองทายาท อยู่เบื้องหลังบริษัทมาก่อน 

สำหรับทายาททั้งสอง นับว่าอยู่เบื้องหลังบริษัทมาแล้วสักพัก โดย “ทานตะวัน” จบการศึกษาปริญญาตรีเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาโทการตัดการ Imperial College London ประเทศอังกฤษ เริ่มต้นเรียนรู้งาน ตั้งแต่ปี 2559 ตำแหน่งก่อนหน้านี้คือ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาด ตลอดเส้นทางธุรกิจเก็บเกี่ยวประสบการณ์สำคัญๆ คือการเป็นผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานกลยุทธ์การตลาดระดับองค์กรให้กับบริษัทมาก่อน 

ส่วน “ธีร์” ตำแหน่งก่อนหน้านี้ คือ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานปฏิบัติการ” ประสบการณ์สำคัญอื่นๆคือ เป็นผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานดูแลกิจการสาขา ดูฝ่ายการตลาด มาก่อน ระยะเวลาทำงานเริ่มตั้งแต่ปี 2555 ด้านโปรไฟล์ ปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาโทการจัดการ Brunel University ประเทศอังกฤษ

ภาพรวมของสาขาของธุรกิจร้านอาหารในเครือ เอ็มเค มีสาขาในประเทศไทย 450 สาขา มีร้านแหลมเจริญ 45 สาขา และยาโยอิ 200 สาขา

ด้านผลประกอบการต้องพลิกฟื้นการเติบโตหลังบริษัทเผชิญยอดขาย และกำไรที่หดตัวลง ทำให้ต้องงัดอาวุธ กลยุทธ์การทำตลาด เพื่อสร้างการเติบโต โดยผลงาน 9 เดือนปี 2567 ยอดขายเอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป อยู่ที่ 11,735 ล้านบาท ลดลง 7% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และกำไรสุทธิ อยู่ที่ 1,088 ล้านบาท ลดลง 7.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อน

 

 

Thailand Web Stat