รัฐบาลคุมเข้มราคาสินค้า พิชัยสั่งติดตามใกล้ชิดช่วยลดรายจ่าย

เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2568 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า รัฐบาลมีนโยบายลดค่าครองชีพประชาชน โดยควบคุมราคาสินค้าให้เป็นไปตามมาตรฐานเดียวกัน พร้อมสั่งการให้กรมการค้าภายในและสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศตรวจสอบราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด หากพบการปรับราคาสูงขึ้นโดยไม่สมเหตุสมผล ต้องรีบดำเนินการแก้ไขทันที

จากการตรวจสอบล่าสุด กรมการค้าภายในรายงานว่า ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคส่วนใหญ่ยังคงทรงตัว โดยเฉพาะสินค้าเกษตรประเภทเนื้อสัตว์ พบว่าไข่ไก่มีปริมาณมากกว่าความต้องการ ส่งผลให้ราคาปรับลดลง โดยไข่ไก่คละหน้าฟาร์มอยู่ที่ 3.20 บาท/ฟอง และไข่ไก่เบอร์ 3 จำหน่ายปลีกอยู่ที่ 3.71 บาท/ฟอง

สำหรับไก่เนื้อ คาดว่าปีนี้จะมีการผลิตกว่า 2,072 ล้านตัว คิดเป็นเนื้อไก่รวม 3.56 ล้านตัน เพียงพอต่อความต้องการบริโภคและการส่งออก โดยปัจจุบันราคาไก่มีชีวิตหน้าฟาร์มอยู่ที่ 40-41 บาท/กก. ส่วนชิ้นส่วนไก่ เช่น น่องติดสะโพกและเนื้ออกติดหลัง ปรับลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 79.90 บาท/กก. และ 78.56 บาท/กก. ตามลำดับ

ขณะที่ราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 78.50 บาท/กก. เนื่องจากสภาพอากาศร้อนส่งผลให้สุกรโตช้า อย่างไรก็ตาม ปริมาณการผลิตยังคงเพียงพอต่อการบริโภคภายในประเทศและการส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน

ด้านสถานการณ์น้ำมันปาล์ม กระทรวงพาณิชย์ร่วมมือกับห้างค้าปลีกค้าส่งชะลอการปรับขึ้นราคา ขณะที่ผลผลิตปาล์มเริ่มออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น 20-30% ส่งผลให้สต๊อกน้ำมันปาล์มดิบเพิ่มขึ้น 10% จากเดือนก่อนหน้า คาดว่าราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดจะทยอยปรับลดลงต่อเนื่อง
 

นายพิชัยเน้นย้ำว่า กระทรวงพาณิชย์จะติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด พร้อมจัดกิจกรรม "ธงฟ้าราคาประหยัด" ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพื่อลดภาระค่าครองชีพประชาชน โดยในกรุงเทพฯ จะมีรถโมบายธงฟ้าออกจำหน่ายสินค้าจำเป็นวันละ 50 จุด

ทั้งนี้ หากพบการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าโดยไม่เป็นธรรม หรือกักตุนสินค้า ประชาชนสามารถแจ้งสายด่วนกรมการค้าภายใน โทร. 1569 ซึ่งหากตรวจสอบพบการกระทำผิด ผู้ฝ่าฝืนจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ