posttoday

คลัง เร่งมาตรการแก้หนี้ประชาชน จ่อช่วยกลุ่มหนี้ต่ำกว่าแสนบาท

20 มีนาคม 2568

พิชัย เดินหน้ามาตรการช่วยลูกหนี้ จ่อซื้อหนี้กลุ่มต่ำกว่า 1 แสน หวังปลดล็อกจาก NPL ช่วยเข้าถึงสินเชื่อใหม่ ยอมรับอาจต้องใช้งบประมาณรัฐบ้าง แต่ไม่มาก

นาย พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า หลังจากรัฐบาลมีมาตรการโครงการ คุณสู้ เราช่วย ซึ่งเป็นมาตรการครั้งแรกปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งผลดำเนินการมีลูกหนี้ร่วมโครงการถึง 50% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนที่มีหลักประกัน โดยหนี้ส่วนใหญ่ของกลุ่มนี้ เป็นหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อบริโภค ที่มีทั้งหลักประกันและไม่มีหลักประกัน

 

ดังนั้นมาตรการช่วยเหลือขั้นต่อไป จะสืบเนื่องจากการดำเนินการมาตรการคุณสู้ เราช่วย ที่พบว่า มีกลุ่มลูกหนี้รายย่อยที่มีหนี้ต่ำกว่า 100,000 บาท ซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่ในหนี้เสีย (NPL) โดยหนี้ดังกล่าวคิดเป็น 35% ของหนี้เสียรวม 1.2 ล้านล้านบาท 

 

โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยปลดล็อกหนี้กลุ่มนี้จากระบบ NPL และช่วยให้ลูกหนี้สามารถกลับมาเข้าถึงสินเชื่อใหม่ได้อีกครั้ง

ซึ่งลูกหนี้เหล่านี้ ธนาคารพาณิชย์ได้ตั้งสำรองหนี้ครบ 100% แต่ปัญหาคือธนาคารไม่สามารถติดต่อลูกหนี้ได้ ส่วนหนึ่งเพราะลูกหนี้อาจคิดว่าตนไม่มีความสามารถชำระหนี้ได้แล้ว ดังนั้น จำเป็นต้องหาทางปลดล็อกหนี้ที่มีต้นทุนต่ำและมองหาวิธีการที่เหมาะสมในการช่วยเหลือลูกหนี้กลุ่มนี้ ซึ่งจะเป็นการปรับโครงสร้างหนี้ให้สอดคล้องกับความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้แต่ละราย

เรากำลังพิจารณาวิธีการนำหนี้กลุ่มนี้ออกมาให้เหมาะสม เพราะหนี้ส่วนนี้เป็นภาระของระบบ แต่ในเชิงปฏิบัติอาจมีต้นทุนต่ำแล้ว เราจึงต้องหาทางช่วยเหลือลูกหนี้ให้กลับมาใช้ชีวิตได้ ซึ่งเราจะปรับให้เขาจ่ายได้เท่าที่มีกำลัง ยืดหยุ่น เพราะเป้าหมายอยากเห็นคนเป็นหนี้ 5 ล้านกว่าคน รวม 1.2 ล้านล้านบาท ได้รับการคลี่คลาย ให้เขากลับมายืนได้

อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะต้องใช้เวลาดำเนินการ  3-6 ยังไม่น่าจะเห็นความชัดเจน วางกรอบเริ่มดำเนินการภายใน 1-2 ปีข้างหน้า  โดยจะมีการแยกลูกหนี้ออกเป็นกลุ่ม ๆ และพิจารณาวิธีการแก้ไขที่เหมาะสมกับแต่ละกลุ่ม ผ่านความร่วมมือหลายฝ่าย ทั้ง ลูกหนี้ ธนาคาร องค์กรที่จะเข้ามาบริหาร รวมถึงการสนับสนุนของภาครัฐ ด้านงบประมาณดำเนินการ ยอมรับว่าต้องใช้งบประมาณรัฐในบางส่วน แต่ไม่มากนัก


 

 อย่าพูดว่าไม่ใช่เลย อาจใช้บ้างนิดหน่อย แต่ใช้เท่าไรไม่มีใครทราบ ขอดูโครงสร้างก่อน 


นอกจากนี้ นาย พิชัยยังได้กล่าวถึงมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยจะมีการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองให้เหลือ 0.01% ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนใน 1 เดือนข้างหน้า เพื่อกระตุ้นให้ตลาดอสังหาฯ กลับมาคึกคักและกระตุ้นการซื้อขายในตลาดอสังหาฯ อีกครั้ง

 

มาตรการเหล่านี้จะมีผลในระยะยาวในการช่วยลดภาระหนี้ของประชาชนและกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ซึ่งถือเป็นการผลักดันให้สถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเงินในประเทศเข้าสู่สภาวะที่ดีขึ้น

Thailand Web Stat