ชาตรี ศิษย์ยอดธง จากครอบครัวล้มละลายสู่มวย ONE ธุรกิจหมื่นล้าน
จากลูกคุณหนู ชีวิตพลิกผันเพราะวิกฤติต้มยำกุ้ง สู่ One Championship มวยไทยหมื่นล้าน ช่วยนักมวยมีชีวิตดี ชาตรี ศิษย์ยอดธง กับเรื่องลึกที่ไม่เคยรู้
ในวงการกีฬาการต่อสู้ ชื่อของ "ชาตรี ศิษย์ยอดธง" กลายเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ One Championship องค์กรที่นำศิลปะการต่อสู้ โดยเฉพาะมวยไทย ไปสู่สายตาคนทั้งโลก ด้วยมูลค่าธุรกิจที่สูงถึงหลักหมื่นล้านบาท แต่เส้นทางชีวิตของชาตรีไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เขาผ่านจุดสูงสุดและต่ำสุดของชีวิตมาแล้ว ก่อนจะกลายมาเป็นแรงบันดาลใจให้คนนับล้าน
ชาตรี ศิษย์ยอดธง CEO ONE Championship
วัยเด็กที่สุขสบาย และจุดพลิกผันครั้งใหญ่
ชาตรีเกิดในครอบครัวที่มั่งคั่ง พ่อของเขาเป็นนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ประสบความสำเร็จ ชีวิตวัยเด็กของชาตรีเต็มไปด้วยความสุขและความสะดวกสบาย “ตอนเด็กๆ ผมมีทุกอย่าง เพื่อนเยอะ ชีวิตง่าย” เขาย้อนความทรงจำ แต่ทุกอย่างเปลี่ยนไปในพริบตาเมื่อวิกฤติต้มยำกุ้งในปี 2540 พัดพาความมั่งคั่งของครอบครัวไปพร้อมกับการล้มละลายของธุรกิจพ่อ “จากที่เคยมีบ้านใหญ่ กลายเป็นไม่มีอะไรเลย พ่อออกจากบ้าน แม่ต้องเลี้ยงผมกับน้องชายเพียงลำพัง” ชาตรีเล่าถึงช่วงเวลาที่ชีวิตพลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือ
สังคมไทยในยุคนั้นมองครอบครัวที่ล้มละลายด้วยสายตาเหยียดหยาม โดยเฉพาะเมื่อแม่ของเขาเป็นคนญี่ปุ่น ไม่ใช่คนไทยแท้ “ไม่มีใครช่วยเราเลย เพื่อนหายหมด อนาคตมันมืดไปหมด” เขากล่าว แต่ในความมืดมิดนั้น แสงสว่างเริ่มฉายขึ้นจากสองสิ่งที่เข้ามาเปลี่ยนชีวิตเขา: มวยไทย และโอกาสจากแม่
มวยไทย: วินัยและใจสู้จากครูตุ๊ย
ตั้งแต่อายุ 9 ขวบ ชาตรีได้สัมผัสกับมวยไทยครั้งแรกเมื่อพ่อพาเขาไปดูที่สนามลุมพินี ความหลงใหลในศิลปะการต่อสู้เริ่มก่อตัว และเมื่ออายุ 13 เขาตัดสินใจฝึกมวยไทยอย่างจริงจังที่ค่ายศรียอดทองในพัทยา ภายใต้การดูแลของ "ครูตุ๊ย" ยอดธง เสนานันท์ ครูมวยชื่อดังที่ทั้งเก่งกาจและน่าเกรงขาม
“ครูตุ๊ยสอนผมหนักมาก วิ่งเช้า 12 กิโล ตีกระสอบ 5 ยก ต่อยเป้า 5 ยก มันเหนื่อย แต่ผมรักมวยไทยจนบ้าไปเลย” ชาตรีเล่าด้วยรอยยิ้ม
คำสอนของครูตุ๊ยฝังแน่นในใจเขา “ทุกคนต้องเจอช่วงลำบาก แต่คุณจะยอมแพ้หรือจะสู้เต็มที่?”
คำพูดนี้กลายเป็นเข็มทิศชีวิตในวันที่เขาต้องเผชิญความยากลำบาก มวยไทยไม่ได้ให้แค่ทักษะการต่อสู้ แต่ยังมอบวินัย ความอดทน และหัวใจนักสู้ที่เขานำติดตัวไปทุกหนแห่ง
ชาตรี ศิษย์ยอดธง จะไหว้ครูระลึกถึงครูตุ๊ยผู้ล่วงลับในทุกปีในเทศกาลไหว้ครูมวยไทย
อเมริกา: เงินก้อนสุดท้ายและความฝันใหม่
หลังครอบครัวล้มละลาย แม่ของชาตรีมองเห็นโอกาสสุดท้ายที่จะเปลี่ยนชีวิตลูกชาย เธอยืมเงินจากเพื่อนได้ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ ส่งเขาไปเรียนที่สหรัฐอเมริกา
“แม่บอกว่า อเมริกาคือดินแดนแห่งโอกาส ถ้าทำงานหนัก คุณจะหนีความจนได้” ชาตรีเล่าถึงคำแนะนำที่เปลี่ยนชะตา เขาหิ้วกระเป๋าใบเดียว บินไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ โดยมีเป้าหมายว่าจะพาแม่และน้องชายตามไปในวันที่เขายืนได้
ด้วยความมุ่งมั่นและโชคดี เขาสอบเข้าเรียนที่ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ได้ แต่ชีวิตในอเมริกาไม่ใช่เรื่องง่าย “ผมไม่มีเงินจ่ายค่าเล่าเรียน ต้องกู้ธนาคาร และหาเงินด้วยตัวเอง” ชาตรีใช้ทักษะมวยไทยที่เรียนจากครูตุ๊ยมาสอนเป็นครูฝึก และทำงานเป็นติวเตอร์ให้บริษัท Kaplan “บางวันมีเงินแค่ 4 ดอลลาร์ กินข้าววันละมื้อ ชีวิตมันลำบากมาก” เขายอมรับ แต่ความอดทนและวินัยจากมวยไทยช่วยให้เขาผ่านช่วงเวลานั้นมาได้
บัตรนักศึกษา ฮาวาร์ด ของชาตรี
จากฮาร์วาร์ดสู่ซิลิคอนวัลเลย์
การเรียนที่ฮาร์วาร์ดไม่เพียงให้ความรู้ แต่ยังมอบความมั่นใจและโอกาส “จบจากฮาร์วาร์ดทำให้หางานง่ายขึ้น” ชาตรีเล่า หลังเรียนจบ เขาย้ายไปซิลิคอนแวลเลย์เพื่อเริ่มต้นธุรกิจสตาร์ทอัพ โดยพาคุณแม่ไปด้วย “ตอนนั้นผมเช่าห้องเล็กๆ ไม่มีเงินซื้อเตียง แม่นอนบนเตียง ผมกางถุงนอนนอนพื้น” เขาย้อนถึงความทรงจำที่ทั้งลำบากและอบอุ่น
บริษัทแรกของเขาคือ Nextdoor Networks ซึ่งทำซอฟต์แวร์สำหรับองค์กร และได้รับเงินลงทุน 40 ล้านดอลลาร์จากนักลงทุนในซิลิคอนวัลเลย์ “มันโตเร็วมาก ชีวิตผมพลิกจากคนจนกลายเป็นคนรวย” ชาตรีเล่าถึงจุดเปลี่ยน แต่เมื่อความสำเร็จมาถึง เขากลับรู้สึกว่างเปล่า “ผมมีเงินเยอะ ซื้อรถ ซื้อบ้าน แต่หัวใจมันว่าง ผมเริ่มถามตัวเองว่า ชีวิตมีไว้ทำไม?”
CEO ONE Championship ระหว่างให้สัมภาษณ์ขณะเดินทางมาประเทศไทย
One Championship: มวยไทยสู่เวทีโลก
คำถามนั้นนำเขากลับสู่เอเชีย และจุดประกายให้เกิด One Championship ชาตรีผสมผสานความรู้ด้านธุรกิจจากฮาร์วาร์ดเข้ากับความรักในมวยไทยและศิลปะการต่อสู้ “ผมอยากสร้างฮีโร่ที่ให้แรงบันดาลใจกับคนทั่วโลก และช่วยนักมวยที่ลำบาก” เขากล่าวถึงวิสัยทัศน์ One Championship เริ่มต้นจากความฝันเล็กๆ แต่เติบโตอย่างรวดเร็วด้วยพลังของโซเชียลมีเดีย “ตอนนั้นเฟซบุ๊กเริ่มบูม เราใส่คอนเทนต์ลงไป มันกลายเป็นไวรัลทั่วโลก” เขาเล่าถึงจุดเปลี่ยนที่ทำให้ One Championship เป็นที่รู้จัก
ทุกวันนี้ One Championship ไม่เพียงเป็นรายการที่มีคนดูมากที่สุดรายการหนึ่งของโลก แต่ยังเปลี่ยนชีวิตนักมวยไทยนับไม่ถ้วน “นักมวยเก่าที่เคยเป็นแชมป์ แต่จบลงด้วยการขับรถตุ๊กตุ๊ก ผมอยากให้พวกเขามีชีวิตที่ดีกว่านั้น” ชาตรีกล่าวด้วยความภาคภูมิใจ
“โตขึ้นลูกต้องช่วยคน” นี่คือคำพูดของคุณแม่ ที่ชาตรี ศิษย์ยอดธงนำมาใช้ในทุกวันนี้
แรงบันดาลใจจากอดีต
เมื่อมองย้อนกลับไป ชาตรีบอกว่า ความลำบากในอดีตคือของขวัญ “ถ้าพ่อไม่ล้มละลาย ผมอาจจะเป็นแค่เด็กคนรวยธรรมดา ไม่เข้าใจความเจ็บปวดของคนจน” เขากล่าวพร้อมรอยยิ้ม ปัจจุบัน เขาคุยกับคุณแม่บ่อยครั้งถึงวันที่เคยลำบาก “เราจำได้ว่าต้องนอนพื้นด้วยกัน แต่วันนี้เรามองมันเป็นความทรงจำที่มีค่า” คำสอนของแม่ที่บอกเขาตั้งแต่ 5 ขวบว่า “โตขึ้นลูกต้องช่วยคน” ยังคงเป็นพลังขับเคลื่อนชีวิตเขา
จากเด็กที่เคยร่ำรวย กลายเป็นคนจน และกลับมาร่ำรวยอีกครั้งเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น ชาตรี ศิษย์ยอดธง ไม่ได้แค่สร้างธุรกิจหมื่นล้าน แต่ยังสร้างตำนานที่ทำให้มวยไทยกลายเป็นมรดกของโลก และเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคนที่เชื่อว่า ความฝันนั้นเป็นจริงได้ หากไม่ยอมแพ้
ชาตรี เมื่อครั้งนำโปรเจคต์ ONE ไปคุยกับ บารัค โอบามา เมื่อครั้งยะงเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯปี 2015