เจาะวิกฤตยอดขาย Tesla ร่วงเกือบครึ่ง สวนทาง BYD โตพรวดพราด
เจาะวิกฤตยอดขาย Tesla แค่เดือนเดียว ร่วงเกือบครึ่ง! ในตลาดยานยนต์ไฟฟ้ายุโรป สวนทาง BYD โตพรวดพราด สะท้อนสัญญาณอะไรในตลาด EV?
รายงานล่าสุดจาก Jato Dynamics บริษัทวิจัยตลาดยานยนต์ เผยให้เห็นถึงภาวะที่น่าจับตามองของ Tesla ในตลาดยุโรป
เมื่อยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla แบรนด์ดังจากสหรัฐอเมริการายนี้ทรุดตัวลงอย่างน่าตกใจถึง 44% ในเดือนที่ผ่านมา
โดยยอดขายรวมของ Tesla จาก 25 ประเทศในสหภาพยุโรป สหราชอาณาจักร นอร์เวย์ และสวิตเซอร์แลนด์ ไม่ถึง 16,000 คัน
ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ต่อพฤติกรรมและจุดยืนทางการเมืองของ Elon Musk ผู้บริหารระดับสูงของ Tesla ที่นับวันจะยิ่งมีความใกล้ชิดกับประธานาธิบดี Donald Trump มากขึ้น
ตัวเลขที่น่ากังวลนี้ ตอกย้ำถึงแนวโน้มที่เริ่มปรากฏให้เห็นตั้งแต่เดือนมกราคม 2025 ซึ่งยอดขายของ Tesla ในยุโรปลดลงถึง 45% เช่นกัน
ส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดของ Tesla ในเดือนกุมภาพันธ์ลดลงเหลือเพียง 9.6% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปีสำหรับเดือนนี้
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากสมาคมผู้ผลิตและผู้ค้ารถยนต์ในสหราชอาณาจักรกลับแสดงให้เห็นถึงภาพที่แตกต่าง
โดยยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้า Tesla ใหม่เพิ่มขึ้นเกือบ 21% ซึ่ง Model 3 และ Model Y ยังคงเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างสูง
สัมพันธ์ "Musk-Trump" พิษการเมือง ทำยอดขาย Tesla ร่วง?
นักวิเคราะห์และนักลงทุนกำลังจับตาจุดยืนทางการเมืองของ Elon Musk อย่างใกล้ชิด เนื่องจากส่งผลต่อภาพลักษณ์และยอดขายของ Tesla ในฐานะผู้นำตลาดรถยนต์ไฟฟ้า
ความกังวลเกิดขึ้นจากการที่ Musk แสดงบทบาทเป็นที่ปรึกษาคนใกล้ชิดของ Donald Trump และสนับสนุนพรรคการเมืองฝั่งขวาจัดในเยอรมนี
รวมถึงการแสดงความคิดเห็นที่ก่อให้เกิดความแตกแยกในสังคม ซึ่งสิ่งเหล่านี้ได้นำไปสู่กระแสต่อต้านจากผู้บริโภคบางส่วนที่กำลังพิจารณาซื้อรถยนต์ไฟฟ้าจาก Tesla
นอกจากนี้ สถานที่ซึ่งเปรียบเสมือนตัวแทนจำหน่ายรถของ Tesla ยังเผชิญกับกลุ่มผู้ประท้วงที่ไม่เห็นด้วยกับทัศนคติทางการเมืองของ Musk อยู่เนืองๆ อีกด้วย
ปรับโฉม Model Y ซ้ำเติมยอดขายร่วง
นักวิเคราะห์ชี้ว่าความผันผวนของยอดขาย Tesla ไม่ได้มีเพียงปัจจัยทางการเมืองเท่านั้น
การที่บริษัทกำลังดำเนินการปรับปรุง Model Y รถยนต์รุ่นที่ขายดีที่สุด ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ยอดขายชะลอตัวลง
Felipe Muñoz นักวิเคราะห์ระดับโลกจาก Jato Dynamics ให้ความเห็นว่า
"นอกเหนือจากบทบาททางการเมืองที่โดดเด่นของ Elon Musk และการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว"
"Tesla ยังอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนผ่านรุ่นของ Model Y โดยกำลังจะยุติการจำหน่ายรุ่นปัจจุบันเพื่อเตรียมเปิดตัวรุ่นปรับปรุงใหม่"
"บริษัทที่มีจำนวนรุ่นรถยนต์จำกัดแบบ Tesla จะเสี่ยงต่อยอดจดทะเบียนที่ลดลงจนเห็นได้ชัด หากบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงโมเดล"
Volkswagen, BMW และ BYD โกยยอดขาย
ขณะที่ Tesla กำลังเผชิญกับความท้าทาย คู่แข่งในตลาดยุโรปกลับทำผลงานได้อย่างโดดเด่น
Volkswagen รายงานยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าว่าเพิ่มขึ้นถึง 180% เกือบแตะ 20,000 คัน ในขณะที่ BMW และ Mini มียอดขายรวมกัน 19,000 คัน
ที่น่าจับตามองเป็นพิเศษคือการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของ BYD ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากจีน ซึ่งมียอดขายในยุโรปเพิ่มขึ้นถึง 94% หรือมากกว่า 4,000 คัน
นอกจากนี้ ข้อมูลล่าสุดยังเผยให้เห็นว่า BYD ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ด้วยการมียอดขายทั่วโลกทะลุ 1 แสนล้านดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา แซงหน้า Tesla ขึ้นเป็นบริษัทรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดในโลก
BYD: จากผู้ท้าชิงสู่ผู้นำตลาด EV
การก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำด้านรายได้ของ BYD ถือเป็นสัญญาณที่ชัดเจนถึงการเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าโลก
ในปี 2024 BYD มียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ไฮบริดรวมกันถึง 4.27 ล้านคัน ซึ่งใกล้เคียงกับยอดขายของ Ford ที่ 4.5 ล้านคัน
และบริษัทคาดการณ์ว่าจะสามารถขายรถยนต์ได้ราวๆ 5 - 6 ล้านคันในปีนี้ มูลค่าตลาดของ BYD ในตลาดหุ้นฮ่องกงก็เติบโตอย่างแข็งแกร่ง
โดยเพิ่มขึ้นประมาณ 50% ในปีนี้ แตกต่างจาก Tesla ที่มูลค่าตลาดลดลงอย่างมากในช่วงต้นปี 2025 แม้ว่าล่าสุดราคาหุ้นจะเริ่มฟื้นตัวบ้างแล้ว
ตลาดรถยนต์โดยรวมชะลอตัว แต่ EV ยังคงเติบโต
แม้ว่ายอดขายรถยนต์โดยรวมในตลาดยุโรป สหราชอาณาจักร นอร์เวย์ และสวิตเซอร์แลนด์ จะลดลง 3% ในเดือนกุมภาพันธ์
แต่ยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้ากลับเพิ่มขึ้นถึงหนึ่งในสี่ สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ในขณะที่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าโดยรวมยังคงเติบโต Tesla อาจต้องปรับกลยุทธ์และสร้างความสมดุลระหว่างนวัตกรรมทางเทคโนโลยี จุดยืนทางการเมืองของผู้บริหาร และความต้องการของผู้บริโภค เพื่อรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาดที่มีการแข่งขันสูงแห่งนี้