สรรหารองเลขาธิการกสทช.โทรคม ส่อปัญหา พบแค่วาระแจ้งเพื่อทราบ

การประชุม กสทช. เมื่อวันที่ 26 มีนาคม ที่ผ่านมา สำนักงาน กสทช. ได้เสนอระเบียบวาระที่ 6.2 เรื่อง การต่อระยะเวลาการปฏิบัติงานของพนักงานผู้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการ กสทช.สายงานกิจการโทรคมนาคม ให้ที่ประชุมรับทราบ และจะนำไปออกคำสั่งต่อไป

เนื่องจากนายสุทธิศักดิ์ ตันตะโยธิน รองเลขาธิการสายงานโทรคมนาคม จะครบกำหนดสัญญาจ้าง พร้อมกับ นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการ เลขาธิการ กสทช. ในวันที่ 30 เมษายน 2568 นี้ โดยประเด็นนายไตรรัตน์ ประธานกสทช. นายแพทย์สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ได้ชี้แจงถึงเหตุผลในการต่ออายุการทำงานไปจนถึงเกษียณไปแล้วก็ตาม https://www.posttoday.com/business/716278

ทว่าในกรณีรองเลขาธิการกสทช.สายโทรคมนาคมนั้น ที่ประชุมก่อนหน้านั้น เคยให้ความเห็นให้มีการเปิดรับสมัครตามกระบวนการปกติ ซึ่งท้ายที่สุดแล้วที่ประชุมก็ไม่ได้ติดขัดหากคนเดิมมาสมัครเพื่อให้การทำงานต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมฯ กรรมการ กสทช. เสียงข้างมากได้สอบถามและให้ข้อคิดเห็นว่า การแต่งตั้งรองเลขาธิการ กสทช. ตามระเบียบ กสทช. ว่าด้วยการบริหารงานบุคคล ข้อ 29 กำหนดไว้ชัดเจนว่าการบรรจุและแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการ กสทช. เป็นอำนาจของ กสทช. ที่ต้องให้ความเห็นชอบ ไม่ใช่เป็นอำนาจของสำนักงานหรือ ประธาน กสทช. ที่จะดำเนินการได้เอง 

ดังนั้นการนำมาให้ที่ประชุมฯ รับทราบ ซึ่งในประเด็นนี้สำนักงาน กสทช. ได้ชี้แจงว่าเรื่องนี้เป็นการต่อสัญญาจ้าง ไม่ใช่การแต่งตั้งรองเลขาธิการ กสทช.ใหม่ และได้ดำเนินการตามแนวทางที่ นายภูมิศิษฐ์ มหาเวสน์ศิริ อดีตรองเลขาธิการ กสทช. ที่มีการต่อสัญญาด้วยการประเมินตามหลักเกณฑ์การต่อสัญญาจ้างฯ ที่ กสทช. เคยกำหนด เมื่อประเมินผ่านจึงนำมาให้ที่ประชุม กสทช. รับทราบ 

กสทช. พล.อ.ท. ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ ได้ชี้แจงในที่ประชุมฯ ในฐานะที่เคยเป็นรองเลขาธิการ กสทช. ทราบดีว่ากรณีของรองภูมิศิษฐ์ฯ หรือแม้กระทั้งของตนเองหรือรองไตรรัตน์ฯ ก็เคยได้รับการแต่งตั้งและต่อระยะเวลาสัญญาจ้างมาแล้วเช่นกัน ซึ่งทุกครั้งจะกระทำได้ก็ต้องให้บอร์ด กสทช. เห็นชอบก่อน จากนั้นสำนักงาน กสทช. โดยเลขาธิการ กสทช. จึงจะสามารถดำเนินการ แล้วนำมาให้ กสทช. รับทราบภายหลัง 

และแม้ว่าได้มีการแก้ไขระเบียบฯ แต่อำนาจในการแต่งตั้งรองเลขาธิการฯ ตามมาตรา 29 ยังคงเช่นเดิม ดังนั้นในประเด็นนี้ จึงขอให้สำนักงาน กสทช. ไปดำเนินการให้ถูกต้องตามระเบียบฯ ซึ่งคิดว่า กรรมการฯ ทุกคนไม่น่ามีข้อขัดข้องในตัวบุคคล แต่หากกระบวนการดำเนินการผิดระเบียบฯ ย่อมส่งผลต่อคำสั่งแน่นอน 

อย่างไรก็ตามประธาน กสทช. ไม่ยอมให้สำนักงาน กสทช. นำไปดำเนินการตามที่กรรมการฯ ส่วนใหญ่เสนอ และขอให้ลงมติ จึงมีเพียงประธาน กสทช. รับทราบเพียงคนเดียว ในขณะที่ กรรมการเสียงข้างมาก 4 คนไม่รับทราบและขอให้สำนักงาน กสทช.นำเสนอให้เป็นไปตามระเบียบฯ ในขณะที่ กสทช. พล.ต.อ. ณัฐธร เพราะสุนทร งดออกเสียง และ กสทช. ต่อพงศ์ เสลานนท์ ซึ่งเดิมเข้าร่วมประชุมออนไลน์ แต่เมื่อเข้าสู่วาระนี้ ไม่สามารถติดต่อและร่วมโหวตได้