posttoday

คลังยันมีมาตรการรองรับผลกระทบ "เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์"

02 เมษายน 2568

กระทรวงการคลังมั่นใจ เตรียมมาตรการรองรับผลกระทบ "เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ คอมเพล็กซ์" ชี้ยกระดับการท่องเที่ยว ทำให้ไทยเป็นผู้นำในภูมิภาค

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2568 ได้มีมติเห็นชอบในหลักการของร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ "เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ คอมเพล็กซ์" (Entertainment Complex) ที่ผ่านการตรวจพิจารณาจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว โดยจะนำเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของสภาเพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไป

ร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ เพิ่มแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น (Man-made Destinations) ดึงดูดนักท่องเที่ยว และก่อให้เกิดการลงทุนขนาดใหญ่จากต่างประเทศ รวมทั้งส่งเสริมการจ้างงานในประเทศไทย
 

"โครงการนี้จะช่วยดึงเม็ดเงินลงทุนใหม่จากนักลงทุนที่มีประสบการณ์ในการพัฒนาสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลกแบบครบวงจร ซึ่งจะยกระดับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและทำให้ไทยเป็นผู้นำการท่องเที่ยวในภูมิภาค" นายจุลพันธ์กล่าว

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังยังเน้นย้ำว่า รัฐบาลตระหนักถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น เช่น ปัญหาทางการเงิน หนี้สิน และอาชญากรรม จึงได้เตรียมมาตรการป้องกัน แก้ไข และเยียวยา ประกอบด้วย:

-การจำกัดคุณสมบัติของผู้เข้าใช้บริการ เพื่อปกป้องเยาวชนและกลุ่มเปราะบาง
-การห้ามเชิญชวน โฆษณา ประชาสัมพันธ์ หรือจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายเกี่ยวกับกาสิโน
-การจัดตั้งสำนักงานและพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อกำกับดูแล ตรวจสอบ และติดตามการดำเนินธุรกิจอย่างใกล้ชิด

ร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ประกอบด้วย 7 หมวด 104 มาตรา โดยกำหนดให้มีคณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร ทำหน้าที่เสนอแนะนโยบาย ออกประกาศกำหนดหลักเกณฑ์ และพิจารณาออกใบอนุญาต รวมถึงจัดตั้งสำนักงานควบคุมการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร
สาระสำคัญของร่างกฎหมายระบุว่า สถานบันเทิงครบวงจรต้องประกอบด้วยธุรกิจสถานบันเทิงอย่างน้อย 4 ประเภท ร่วมกับกาสิโน เช่น ห้างสรรพสินค้า โรงแรม สถานบริการ สนามกีฬา ยอร์ชและครูซซิ่งคลับ สวนสนุก เป็นต้น โดยกาสิโนต้องมีสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 10 ของพื้นที่ทั้งหมด และต้องแยกห่างจากสถานประกอบธุรกิจอื่นอย่างชัดเจน พร้อมห้ามบุคคลอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าใช้บริการ

นอกจากนี้ ยังกำหนดให้สถานบันเทิงครบวงจรต้องจัดสรรพื้นที่สำหรับส่งเสริมสินค้า บริการ และศิลปวัฒนธรรมไทย ไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของพื้นที่ทั้งหมดอีกด้วย