ลองขับ : โปรตอนSAGA ได้แค่นี้ก็ดีแล้ว
ลองขับโปรตอน ซาก้า รถเล็กเครื่องพันสามจากค่ายเสือเหลืองมาเลเซีย กับราคาค่าตัวไม่ถึง 4 แสนบาท
ลองขับโปรตอน ซาก้า รถเล็กเครื่องพันสามจากค่ายเสือเหลืองมาเลเซีย กับราคาค่าตัวไม่ถึง 4 แสนบาท
โดย...นิธิ ท้วมประถม
ในบรรดารถยนต์ที่ราคาไม่เกิน 4 แสนบาท เครื่องยนต์ 1.3 ลิตร ในตลาดเมืองไทยมีให้เลือกเพียง 2 ยี่ห้อ คือ นิสสัน มาร์ช รถอีโคคาร์รุ่นแรกของประเทศไทย และโปรตอน SAGA (ซาก้า) รถยนต์จากแดนเสือเหลือง มาเลเซีย ซึ่งบริษัท พระนคร โอโตเซลส์ เป็นผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่าย
โปรตอน ซาก้า น่าสนใจไม่น้อยทีเดียว กับราคาค่าตัวที่ไม่ถึง 4 แสนบาท กับความเป็นรถซีดาน 4 ประตู เครื่องยนต์เบนซิน 1.3 ลิตร จะเพียงพอต่อการใช้งานหรือไม่
รูปร่างหน้าตาของโปรตอน ซาก้านั้น เมื่อมีโอกาสได้ยืนมองแบบเต็มๆ ตา ต้องบอกว่าไม่ขี้เหร่เลย ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นรถที่ราคาไม่เกิน 4 แสนบาท ดูดีใช้ได้ เป็นการดูดีแบบ “เรียบๆ” ไม่ได้หวือหวาอะไรนะครับ ถ้าหวังจะมีรถยนต์ที่มีการออกแบบที่ทันสมัย เฉี่ยวตามแฟชั่น มองข้ามซาก้าไปได้เลย
อยากเห็นภายในเสียแล้ว กดรีโมต เปิดล็อกประตู แต่ต้องระวังนิดนะครับ เพราะปุ่มเล็กเหลือเกิน แถมกุญแจก็ดูตัวแกร็นๆ เล็กๆ เหมือนกุญแจโดนอดอาหารยังไงไม่รู้
ปลดล็อกประตู เปิดเข้าไปในห้องโดยสาร สิ่งแรกที่ต้องยอมรับ คือ ความกว้างขวางภายในห้องโดยสารที่กว้างไม่น้อยทีเดียว ทั้งผู้โดยสารตอนหน้าและตอนหลัง แบบไม่ต้องกังวลว่าจะชวนเพื่อนอีกสัก 3-4 คน โดยสารไปพร้อมๆ กันได้อย่างไม่มีปัญหาครับ
ส่วนอุปกรณ์ภายในห้องโดยสารนั้น ต้องยอมรับว่าค่อนข้างจะดูราคาประหยัดไปเสียหน่อย ทั้งแผงข้างประตู ปุ่มควบคุมที่เป็นพลาสติกต่างๆ คอนโซลกลางผมว่าดูป๊อกแป๊กไปหน่อย ไม่ค่อยมีราคาค่างวดหากเทียบกับรถญี่ปุ่นด้วยแล้วละก็ แพ้หลุดลุ่ยเลยครับ
บิดกุญแจสตาร์ตเครื่องยนต์ เลื่อนเกียร์อัตโนมัติ เหยียบคันเร่ง เจ้าโปรตอน ซาก้า ค่อยๆ เคลื่อนตัวออกอย่างช้าๆ แต่หนักแน่น และหนักจริงๆ ด้วย กับน้ำหนักของพวงมาลัยที่ต้องหมุนเพื่อพาตัวรถออกจากที่จอด
ต้องใช้กำลังแขนพอสมควรกับการหมุนพวงมาลัย ที่ผมว่าเป็นปัญหาสำหรับสาวๆ หรือวัยรุ่นที่กำลังแขนไม่แข็งแรง จะรู้สึกว่าไม่สนุกกับการขับรถคันนี้เลยครับ เมื่อพวงมาลัยทำให้การขับในลักษณะมุดซ้าย มุดขวา หรือการเข้าจอดในที่แคบๆ ไม่ค่อยคล่องตัวเท่าไหร่นัก
ส่วนอุปกรณ์อำนวยความสะดวกนั้นมีมาให้เพียบพร้อมแบบผ่านได้เลย ไม่ว่าจะเป็นพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน สามารถปรับเปลี่ยนวิทยุได้ตามใจชอบ กระจกไฟฟ้าปรับด้วยไฟฟ้า วิทยุซีดี เล่นเอ็มพี 3 ได้ มีช่อง AUX ให้อีก เรียกว่าแอร์เย็น ดนตรีเพราะได้เลย แต่เสียอย่างคือปุ่มปรับเครื่องเสียงทั้งที่ตัววิทยุกับที่พวงมาลัยนั้นยังคงคอนเซปต์ความเล็กอยู่เหมือนเดิม เหมือนต้องการให้ใช้เล็บ “จิก” ยังไงไม่รู้
มาดูในส่วนของเครื่องยนต์กันบ้างครับ เครื่องยนต์ของซาก้านั้นใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.3 ลิตร ให้แรงม้า 70 แรงม้าที่รอบเครื่องยนต์ 6,000 รอบต่อนาที ส่วนแรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 120 นิวตันเมตรที่รอบเครื่องยนต์ 4,000 รอบต่อนาที เติมน้ำมัน อี20 ได้ด้วย
บอกตามตรงกันเลยว่าเครื่องยนต์ตัวนี้หากใครต้องการความสนุกในการขับ หรือความปรู๊ดปร๊าดเวลาเร่งแซง มองข้ามไปได้เลย อย่าไปขับให้เสียอารมณ์ แต่หากขับแบบไปเรื่อยๆ หากต้องการเร่งแซงเหยียบคันเร่งให้มิด รถก็พุ่งไปได้ในระดับหนึ่ง แต่ต้องแลกกับเสียงเครื่องยนต์ที่กระหึ่มเข้ามาในห้องโดยสารไม่น้อยทีเดียว
รวมถึงการขับด้วยความเร็วสูงก็ต้องลองคุณภาพความดังของเครื่องเสียง เพื่อให้กลบเสียงเครื่องกับเสียงลมที่ค่อนข้างดังมากไปหน่อย
เอาเป็นว่าเครื่องยนต์ขนาด 1.3 ลิตรตัวนี้ ไม่ค่อยให้กำลังอะไรมากมายนัก การเร่งแซงต้องลุ้นกันบ้างอยู่เหมือนกัน แต่หากขับในพื้นที่การจราจรที่หนาแน่นแบบไปไหนไปกันก็ไม่มีปัญหา บนทางด่วนโล่งๆ ก็ขับเร็วได้ ไม่ต้องไปซิ่งให้หนักใจ
หนักใจที่คนขับนะครับ ผมต้องเหยียบคันเร่งหนักตลอด เมื่อยเท้าดีไม่น้อยทีเดียว
ความเร็วของซาก้าที่ผมใช้อยู่ในช่วงที่ลองขับนั้น ผมขับเร็วเกิน 120 กม./ชม. อยู่ไม่กี่นาทีครับ ไม่ใช่ว่าเครื่องไปไม่ไหวนะ แต่รำคาญเสียงเครื่องยนต์มากกว่า หากลากไปจริงๆ ผมว่าความเร็วปลายน่าจะอยู่ที่ 140 กม./ชม. ซึ่งพอเพียงกับการใช้งานแล้ว
ช่วงล่างของซาก้าที่หนึบดีมากครับ หนึบแบบถ้าใส่เครื่องที่แรงกว่านี้ยังเอาอยู่เลย กับช่วงหน้าแบบแม็กเฟอร์สันสตรัต พร้อมเหล็กกันโคลง ส่วนกันสะเทือนหลังเป็นทอร์ชันบีม ใส่กันแบบเต็มๆ ในทุกโค้งไปได้แบบฉิวๆ แม้ว่าล้อจะใช้เพียงแค่ 14 นิ้ว ก็พอเพียงที่จะเกาะถนนแล้ว
จะว่าไปแล้วต้องยอมรับกับช่วงล่างของโปรตอนที่หนึบทุกรุ่น ไว้ใจได้ แต่ยังคาใจกับเครื่องยนต์ของโปรตอนที่ไม่ค่อยตอบสนองการใช้งานของผมเท่าไหร่
สรุปแล้วหากถามผมว่าชอบ โปรตอน ซาก้า หรือเปล่า ต้องบอกว่าอยู่ที่ผู้ใช้จะพอใจกับสิ่งที่ซาก้าให้มาหรือเปล่า เช่น ห้องโดยสารขนาดใหญ่ พื้นที่เก็บสัมภาระเบ้อเริ่มเทิ่ม เครื่องยนต์กำลังน้อยนิด ถ้าติดฟิล์มทึบ ขับเรื่อยๆ เปิดซีดีเพลงโปรดดังๆ หน่อย ก็พอหลบแดด หลบฝน ไปถึงที่หมายได้อย่างเท่ๆ เหมือนกัน
ก็ไม่ถึง 4 แสน อย่าคิดมาก ได้แค่นี้ก็ดีแล้วครับ