ทุนรัสเซียบุกสวนน้ำ ทุ่ม900ล.หวังคืนทุน 7 ปี

ประเทศไทยหนึ่งในประเทศเขตร้อน แม้จะเกิดหนาวผิดฤดูในช่วง 23 วันที่ผ่านมา แต่ฤดูร้อนกับกิจกรรมรับเปิดเทอมยังเป็นสิ่งที่กลุ่มครอบครัวรอคอย

ทำให้ธุรกิจสวนสนุกเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ไทยถือเป็นจุดหมายด้านการท่องเที่ยวที่ยังได้รับความนิยมในภูมิภาคนี้ จึงเป็นโอกาสให้ผู้ประกอบธุรกิจสวนสนุกรายใหม่ๆ เข้ามาลงทุน

ล่าสุด บริษัท ไซเบอรสโค โซโลโต้ กลุ่มทุนจากรัสเซีย ได้ลงทุนโครงการสวนน้ำรามายณะ พัทยา (RAMAYANA Pattaya Water Park) มูลค่ากว่า 900 ล้านบาท โดยได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) มีบริษัท มาโฮนีดีเอ็มซี เป็นผู้บริหาร ขณะที่ บริษัท ไวท์ วอเตอร์ เวสท์ อินดัสทรีส์ ประเทศแคนาดา เป็นผู้ออกแบบ

อลัน มาโฮนี กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาโฮนีดีเอ็มซี กล่าวว่า แนวโน้มธุรกิจประเภทสวนน้ำในภูมิภาคเอเชียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถือว่ามีอัตราการเติบโตที่ดี ในสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 8-9% ต่อปี ขณะที่ธุรกิจสวนสนุกจากอเมริกา มีอัตราการเติบโตไม่สูงมากนักราว 2% ต่อปี อย่างสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ ที่ฮ่องกง อัตราการเติบโตอยู่ที่ประมาณ 3% ต่อปี

ปัจจุบัน สวนน้ำใหญ่ๆ ในเอเชีย อาทิ สวนน้ำ Chimelong เมืองกว่างโจว ในประเทศจีน และซันเวย์ ลากูน ประเทศมาเลเซีย ที่มีขนาด 1.4 แสนตารางเมตร แต่สำหรับโครงการสวนน้ำรามายณะ พัทยา จะมีขนาด 1.6 แสนตารางเมตร เมื่อก่อสร้างเสร็จจะเป็นสวนน้ำที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยจำนวนเครื่องเล่นมากกว่า 50 ชิ้น

สนนราคาบัตรเข้าสวนน้ำสำหรับผู้ใหญ่ 900 บาท เด็ก 450 บาท และคิดราคาพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเป็นกลุ่ม เบื้องต้นคาดว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวจากกรุงเทพฯ 60% อีก 40% เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวและครอบครัวที่อาศัยในเมืองพัทยา

“ประเทศไทย ถือเป็นประเทศที่น่าลงทุนมากสำหรับธุรกิจสวนน้ำ เพราะเป็นเมืองร้อน ขณะเดียวกันเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ยังได้รับความนิยม โดยเฉพาะจากประเทศรัสเซีย และพัทยา ถือเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ชาวรัสเซียชอบเดินทางมาท่องเที่ยว โครงการนี้จึงตอบสนองทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้เป็นอย่างดี”

ทั้งนี้ การก่อสร้างโครงการสวนน้ำรามายณะ พัทยา จะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการได้ในเดือน ต.ค. 2555 โดยคาดว่าจะมีจำนวนผู้ใช้บริการไม่ต่ำกว่า 8 แสนคนต่อปี และมีรายได้ปีแรกราว 500 ล้านบาท และสามารถคืนทุนได้ภายใน 7 ปี

นอกจากโครงการลงทุนสวนน้ำขนาดใหญ่ในประเทศไทยแล้ว ในช่วงปิดเทอมหน้าร้อนนี้ ผู้ประกอบการหลายรายได้นำเข้าสวนสนุกเคลื่อนที่เข้ามาสร้างสีสันบรรยากาศให้ช่วงปิดเทอมนี้ได้คึกคักและเป็นโอกาสในการสร้างธุรกิจสวนสนุกให้เติบโตในประเทศไทย

เควิน ยู ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อภิรมย์ อินเตอร์เนชั่นแนล เจ้าของโปรเจกต์ สวนสนุกซูเปอร์ไจแอนต์ เปิดเผยว่า วันที่ 16 เม.ย.นี้ ถือเป็นฤกษ์ดีในการเปิดให้บริการสวนสนุกเคลื่อนที่ยักษ์ระดับโลก “ซูเปอร์ไจแอนต์ เอเชียทัวร์ 2011” แก่นักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและชาวต่างชาติที่ชื่นชอบความตื่นเต้น เร้าใจ และความสนุกสนานของเครื่องเล่นมากกว่า 40 ชนิด ที่มาพร้อมความบันเทิงหลากหลายจากเกม คอนเสิร์ต และการประกวดต่างๆ ซึ่งจัดขึ้นบนพื้นที่กว่า 40 ไร่ บริเวณริมทะเลสาบเมืองทองธานี

ภายในสวนสนุกจะแบ่งออกเป็น 2 โซน ได้แก่ โซนเครื่องเล่น ซึ่งนำเข้าจากประเทศเยอรมนี สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ และอังกฤษ รวมกว่า 40 ชนิด มูลค่ากว่า 4,800 ล้านบาท โดยกว่า 40% หรือประมาณ 20 ชนิด เป็นเครื่องเล่นประเภทเอ็กซ์ตรีม อาทิ Freak Out เครื่องเหวี่ยงขนาดยักษ์ Drop Tower หอคอยความสูงกว่า 65 เมตร Super Giant Wild Mouse โรลเลอร์ คอสเตอร์เคลื่อนที่ยักษ์

ส่วนอีกโซน เป็นเกมต่างๆ รวมกว่า 50 ชนิด ที่จะมาประลองฝีมือพร้อมรับตุ๊กตาลิขสิทธิ์ อาทิ สนูปปี การ์ฟิลด์ วินนี เดอะ พูห์ มิกกีเมาส์ สคูปีดู คุกกี มอนสเตอร์ รวมกว่า 1 แสนตัว และกิจกรรมความบันเทิง ทั้งคอนเสิร์ต การแสดงจากเหล่าศิลปินชั้นนำ การประกวดคอสเพลย์ ประกวดเต้นคัพเวอร์แดนซ์ ประกวดเต้นบีบอย รวมทั้งการแสดงต่างๆ

ขณะที่ บริษัท บีอีซี-เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ร่วมกับโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน รีสอร์ท เครื่องดื่มโค้ก และเทศบาลเมืองหัวหิน ร่วมกับ เฟรจ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ (Freij Entertainment) จัดสวนสนุกเคลื่อนที่ระดับโลก “หัวหิน แกรนด์ คาร์นิวัล” ณ สนามเซ็นเท็นเนียลปาร์ค อินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน รีสอร์ท ตลอดเดือน เม.ย.นี้ เพื่อต้อนรับช่วงปิดเทอมและทำให้การเดินทางท่องเที่ยวมีอรรถรสมากยิ่งขึ้น

แม้ปัญหาการเมืองที่ผ่านมา จะทำให้สีสันบรรยากาศ ความสนุกหายไป แต่ปีนี้กลับมาคึกคักยิ่งขึ้น ด้วยโครงการสวนสนุกต่างๆ ที่ผู้ประกอบการนำเข้ามาทั้งแบบชั่วคราว และแบบถาวร เชื่อว่าจะเข้ามาช่วยเสริมบรรยากาศการท่องเที่ยวของประเทศให้คึกคักยิ่งขึ้น และเป็นการตอกย้ำว่าไทยยังเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก m