ลองขับ : MINI Countryman เมื่อเจ้าตัวเล็กอยากลุย

21 เมษายน 2554

ลองขับ คันทรีแมน เมื่อมินิ แปลงร่างเป็นตัวลุย ด้วยระบบการขับเคลื่อน 4 ล้อที่มาพร้อมกับเครื่อง1.6ยัดเทอร์โบปั่นแรงม้าได้ที่184ตัว

ลองขับ คันทรีแมน เมื่อมินิ แปลงร่างเป็นตัวลุย ด้วยระบบการขับเคลื่อน 4 ล้อที่มาพร้อมกับเครื่อง1.6ยัดเทอร์โบปั่นแรงม้าได้ที่184ตัว

โดย...นิธิ ท้วมประถม

กลายเป็นเป้าสายตาอีกแล้วครับ กับการขับรถที่แปลกตาไปตามท้องถนนเมืองไทย เพราะผมนั่งอยู่หลังพวงมาลัย MINI Countryman (มินิ คันทรีแมน) มินิรุ่นใหญ่ที่สุดของรถยนต์มินิ

คันทรีแมน เป็นสมาชิกรุ่นล่าสุดของ มินิ ประเทศไทย ที่นำเข้ามาเพื่อตอบสนองลูกค้าที่ชอบความเป็นมินิ แต่ต้องการความใหญ่โตของห้องโดยสาร รวมถึงต้องการใช้งานมินิให้ “แมน” มากกว่าที่จะเพียงแค่ขับโฉบเฉี่ยวอยู่ย่านกลางเมือง

เจ้า คันทรีแมน นี้เป็นรถมินิ 4 ประตู ขนาด 4 ที่นั่ง ขับเคลื่อน 4 ล้อ เต็มรูปแบบ อยู่ในกลุ่มที่เรียกว่า Crossover หรือรถยนต์นั่งขับเคลื่อน 4 ล้อ เรียกได้ว่า มินิ ขอลุยเสียที หลังจากรูปทรงของมินิที่ผ่านมานั้นเป็นแฟชั่น คาร์ เสียมากทั้งที่สมรรถนะสุดยอดทีเดียว เพราะ มินิ คันทรีแมน ดูบึกบึนจริงๆ ทั้งจากขนาดที่ใหญ่ที่สุดในบรรดามินิทั้งหมด และหน้าตาที่ดุแปลกตา โดยเฉพาะกระจังหน้าที่ยื่นออกมาเหมือนปลาฉลาม แต่ก็เท่ไปอีกแบบ แถมยังดูเหมือนตีโป่งรอบคัน ยิ่งทำให้ดูใหญ่ขึ้นไปอีก

ด้วยความยาว 4,110 มิลลิเมตร ยาวกว่ารุ่นมินิ คูเปอร์ เอส คลับแมน 149 มิลลิเมตร กว้าง 1,789 มิลลิเมตร และสูง 1,561 มิลลิเมตร คิดดูแล้วกันครับว่าใหญ่ขนาดไหน

ภายในคันทรีแมนยังคงสไตล์ความเป็นมินิไว้อย่างเหนียวแน่น จากมาตรวัดความเร็วขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงกลางแดชบอร์ด มาตรวัดความเร็วยังปรับเปลี่ยนเป็นจอแสดงผลต่างๆ ทั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายในรถ ทั้งเครื่องเสียงและระบบควบคุมต่างๆ
ตำแหน่งที่นั่งคนขับของคันทรีแมนจะสูงกว่ามินิทั่วไป เพราะเป็นรถ Crossroad ทำให้มุมมองในการขับขี่อยู่ในเกณฑ์ที่ดี เวลาขับรถไปจอดใกล้ๆ รถบรรทุกหรือรถเมล์ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะเห็นแต่ล้อรถ หรือดูต่ำต้อยเตี้ยกว่าเด็กแว้นที่ขี่มอเตอร์ไซค์อยู่ข้างๆ ทำให้ทัศนวิสัยในการขับขี่นั้นค่อนข้างดีทีเดียว

ลองขับ : MINI Countryman  เมื่อเจ้าตัวเล็กอยากลุย

พวงมาลัยหนังแท้แบบมัลติฟังก์ชันเหมือนกับมินิ คูเปอร์ เอส กระชับมือดีทีเดียว ขนาดพวงมาลัยใหญ่กำลังดี ดูสปอร์ตดีครับ เบาะหนังสปอร์ตทั้ง 4 ที่นั่ง กระชับตัวคนขับ แต่ด้านหลังผมกลับไม่ค่อยชอบการออกแบบเบาะนั่ง ที่แยกผู้โดยสารตอนหลังออกจากกัน เพราะทำให้ดูแคบ แม้ข้อดีของการแยกเบาะนั่งด้านหลังเป็นอิสระคือเลื่อนเดินหน้าถอยหลังและเอนพนักได้ เพื่อให้นั่งสบายขึ้น
แต่ผมก็ไม่ชอบอยู่ดี กับ Center Rail Storage รางรูปตัว U ยาวตั้งแต่ส่วนที่นั่งด้านหน้าไปถึงส่วนที่นั่งด้านหลังที่มีไว้สำหรับวางของ โดยมี “คลิบล็อก” ที่เลื่อนไปมาตามขนาดของที่วาง แม้จะถือว่าเก๋ ในการออกแบบ แต่เมื่อใช้จริงแล้วเจ้าคลิบกลับไม่สามารถล็อกได้ตามต้องการ เวลาเบรกแรงๆ ของจากในรางไหลถึงข้างหน้าทีเดียว

หันมาส่วนของสมรรถนะกันหน่อยครับ หลายๆ คนคงอยากจะรู้ว่า เมื่อมินิเกิดอยากลุยแล้วจะเป็นอย่างไร

มินิ คันทรีแมน มีเครื่องยนต์ให้เลือก 2 เครื่องยนต์ คือเครื่องยนต์เทอร์โบ กับเครื่องยนต์ธรรมดา โดยเครื่องยนต์เทอร์โบจะอยู่ในตระกูล S ซึ่งทั้งสองรุ่นนี้มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อเหมือนกัน

รุ่นที่ผมขับเป็นรุ่นเทอร์โบ คือ คันทรีแมน S เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.6 ลิตร ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีระบบอัดอากาศ Twin-scroll Turbo ที่ทำงานร่วมกับระบบวาล์วแปรผัน วาล์วโทรนิก

ม้าหนุ่มๆ 184 ตัวที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดที่ 240 นิวตันเมตร ที่รอบเครื่องยนต์ 1,600-5,000 รอบต่อนาทีนั้น แม้ดูตัวเลขว่ามากเอาการ แต่เมื่อใช้งานจริงผมว่าตื้อไปหน่อย แต่ตัวถังขนาดนั้น ใส่เบาะไป 4 ตัว ออปชันเพียบ ล้อเบ้อเริ่ม ขับเคลื่อน 4 ล้ออีกต่างหาก เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร ได้ขนาดนี้ก็เยี่ยมแล้ว

การออกตัวอืดไปนิด แต่หากออกตัวไปได้ที่ความเร็วประมาณ 40 กิโลเมตรไปแล้ว รอบเครื่องยนต์แตะไปที่ 2,000 รอบต่อนาที คราวนี้ละได้เจอกับอัตราเร่งแบบ “หลังติดเบาะ” ตามสไตล์มินิ คูเปอร์ S

ลองขับ : MINI Countryman  เมื่อเจ้าตัวเล็กอยากลุย

แม้ขนาดของรถจะค่อนข้างใหญ่ แต่ความคล่องตัวมีอยู่สูงไม่น้อย พวงมาลัยยังแม่นยำอยู่มากครับ ไม่ทิ้งความเป็นรถโกคาร์ต หากชอบรถพวงมาลัยไวๆ ละก็ไม่ผิดหวัง แต่ต้องแลกกับความหนักของพวงมาลัยที่ไม่มีช่วงฟรีใดๆ ของพวงมาลัยให้ขับแบบชิล ชิล
การเร่งแซง ถ้าเป็นช่วงที่รอบเครื่องยนต์ที่เกิน 2,000 รอบ ก็ไม่มีปัญหาครับ ความเร็วกระชากขึ้นมาได้ แต่หากรอบเครื่องต่ำกว่านั้นแล้วต้องการเร่งแซงก็ต้องรอรอบกันนิด หากไม่ทันใจก็ปรับระบบเกียร์เป็นเกียร์ธรรมดา คราวนี้อะไรก็ฉุดไม่อยู่แล้วครับ

ระบบช่วงล่างไม่ต้องไปหวังความนุ่มนวลมากนัก มินิ ก็คือ มินิ หากต้องการรถที่ขับสนุก ตอบสนองการขับขี่แบบหนักๆ เข้าโค้งหนักๆ ไม่ต้องกังวลเรื่องการทรงตัว ขับถูกหลักละก็มีร้อยใส่ร้อยได้เลย ช่วงล่างกระเด้งเป็นเรื่องธรรมดา แต่ก็ดีกว่ารุ่นปกติมากทีเดียว
ความสบายของ มินิ คันทรีแมน นี้กลับอยู่ที่อุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้าไบซีนอน ที่ปรับมุมส่องสว่างตามการหักเลี้ยวของ|พวงมาลัย ที่เรียกว่า Adaptive Headlights ช่วยเรื่องความปลอดภัยยามขับขี่กลางคืนได้เป็นอย่างดี

ส่วนใครที่หูชั้นเทพ ไม่น่าจะผิดหวังกับเครื่องเสียงของ Harman Kardon 10 ลำโพง พร้อมระบบบลูทูธเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือและไฟล์เพลงจากไอโฟนและแบล็คเบอร์รี่ได้ด้วย รวมถึงระบบ MINI Connected ที่จะเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านไอโฟน 4 ทำให้ใช้โปรแกรมโซเชียลเน็ตเวิร์กต่างๆ ไฮเทคจริงๆ

จะว่าไปแล้ว มินิ คันทรีแมน นี้เหมาะกับเป็นรถครอบครัวมากกว่าจะขับคนเดียวเหมือน มินิ คูเปอร์ เพราะพื้นที่ใช้สอยภายในและพื้นที่เก็บสัมภาระเหลือเฟือ แต่ครอบครัวต้องเป็นครอบครัวที่ลุยๆ และมีกะตังค์หน่อย เพราะค่าตัวที่ 3.29 ล้านบาท สำหรับรุ่น S และ 2.79 ล้านบาท สำหรับธรรมดา ถือว่าพอรับได้ แต่สำหรับอัตราการกินน้ำมันที่ 8 กิโลเมตรต่อลิตรแล้ว อยากร้องไห้จริงๆ

ลองขับ : MINI Countryman  เมื่อเจ้าตัวเล็กอยากลุย

 

ลองขับ : MINI Countryman  เมื่อเจ้าตัวเล็กอยากลุย

 

Thailand Web Stat