สลาก L6,N3 ซื้ออย่างไร ถูกรางวัลจ่ายเหมือนหวยใต้ดินไหม ที่นี่มีคำตอบ
เคลียร์ชัดๆ กับสลากบนดิน รูปแบบใหม่ L6 , N3 คืออะไร ซื้ออย่างไร จ่ายเงินรางวัลแบบไหน ติดตามรายละเอียดได้ที่นี่
ผ่าน ความเห็นชอบจากมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไปแล้ว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สำหรับการออกสลากผลิตภัฑณ์ใหม่ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล(สำนักงานสลากฯ) คือ สลากแบบเลข 6 ตัว(L6) และสลากแบบเลข 3 ตัว(N3) ซึ่งเป็นไปตามแผนรัฐวิสาหกิจประจำปี 64-70 กำหนดเป้าหมายระยะสั้นให้มีผลิตภัณฑ์ใหม่
อย่างไรก็ตาม ครม.ต้องการร่างประกาศกำหนดประเภท และรูปแบบสลากใหม่ฉบับเต็ม ในการพิจารณา จึงสั่งการให้สำนักงานสลากฯ ไปจัดทำร่างประกาศดังกล่าวให้แล้วเสร็จ แล้วนำกลับมาเสนอครม.เพื่อเห็นชอบรายละเอียดอีกครั้ง แม้จะเป็นครม.รักษาการ ก็สามารถอนุมัติได้ ทั้งนี้เพื่อเพิ่มช่องทางจำหน่ายสลากฯ ในรูปแบบดิจิทัล การจำหน่ายผ่านตัวแทนในการซื้อสลากแบบถูกกฎหมายมากขึ้น
สำหรับ ผลิตภัณฑ์ สลากรูปแบบใหม่ L6 , N6 ที่สำนักงานสลากฯ หมายมั่นออกมาจำหน่ายภายในปีนี้ รูปแบบจะเป็นอย่างไร คอหวยจะหาซื้อได้จากที่ไหน จ่ายเงินรางวัลแบบเหมือนหวยใต้ดินหรือไม่ วันนี้ เรามีคำตอบมาให้แล้ว
รายละเอียด ผลิตภัณฑ์สลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลข 6 หลัก(L6)
ประเภทไม่สมทบเงินรางวัล เป็นรูปแบบที่มีการจำหน่ายในปัจจุบันโดยสลากกินแบ่งรัฐบาล ประกอบด้วยตัวเลย 6 หลัก ตั้งแต่หมายเลข 000000-999999
ผลิตภัณฑ์จะแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ประกอบด้วย
ชนิดที่ 1 สลากกินแบ่งรัฐบาลจำนวน 6 หลัก พิมพ์เป็นใบ จำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่าย โดยใช้ช่องทางการเดินจำหน่าย
ชนิดที่ 2 สลากกินแบ่งรัฐบาลรูปแบบใหม่ จำนวน 6 หลัก แบบดิจิทัล จำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่าย โดยใช้ช่องทางซื้อ ขาย แบบดิจิทัล
สลาก 6 หลัก(L6) จะจำหน่ายเป็นชุด สลาก 1 ชุด จะมีจำนวน 1,000,000 ฉบับ/รายการ แต่ละฉบับประกอบด้วย หมายเลข 6 หลัก เริ่มตั้งแต่หมายเลข 000000-999999 สลากแต่ละชุดเป็นการกำหนดหมายเลขไว้ล่วงหน้า มีจำนวนจำกัด จะไม่มีตัวเลขที่ซ้ำกัน
การกำหนดสัดส่วนรางวัล และการจ่ายเงินรางวัล ตัวอย่างกรณีจำหน่ายราคา 80 บาท ต่อ 1 ฉบับ/ รายการ
สำหรับ การจ่ายเงินรางวัล จะจ่ายเงินรางวัลแบบผันแปร ตามยอดการจำหน่ายสลาก คือ สลาก 1 ชุด มี 1,000,000 ฉบับ/รายการ หากจำหน่ายไม่หมด เงินรางวัลนั้นๆ ต้องลดลงตามสัดส่วน แต่ต้องไม่ครบร้อยละ 60 ของยอดการจำหน่าย โดยเงินรางวัลจะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่ต้องชำระอากรแสตมป์ในอัตรา 1 บาท ของเงินรางวัลทุก 200 หรือเศษของ 200 บาท
การจัดสรรเงินจากการจำหน่ายสลาก
ตามพระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ.2517 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 22 เงินรางวัลร้อยละ 60 เงินนำส่งรายได้แผ่นดินร้อยละ 23 และค่าใช้จ่ายในการบริหารงานร้อยละ 17
สลาก กำหนดการพิมพ์ 1 ชุด จำหน่าย 1,000,0000 ฉบับ ตัวอย่างการจำหน่ายสลากในราคา 80 บาท แบ่งเป็นสัดส่วนการจัดสรรเงินรางวัลดังนี้
รายได้จากการจำหน่าย (100%) 80,000,000 บาท
รายละเอียด ผลิตภัณฑ์สลากกินแบ่งรัฐบาลเลข 3 หลัก(N3)
ประเภทสมทบเงินรางวัล โดยสามารถสมทบเงินรางวัล ที่ไม่มีผู้ถูกรางวัล สะสมไปยังงวดถัดไปได้ 1 งวด
ช่องทางจำหน่ายผ่านระบบคอมพิวเตอร์ ซื้อ-ขายในรูปแบบดิจิทัล
-บนอุปกรณ์สมาร์ทโฟน โมบายแอปพลิเคชั่น
-เว็บไซต์
-เครื่องจำหน่ายสลาก
กำหนดสิทธิ์ผู้ซื้อและผู้ขาย ต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป และต้องผ่านขั้นตอนการยืนยันตัวตน เพื่อเข้าถึงสิทธิ์ในการซื้อ ขายสลาก และข้อมูลการซื้อขายจะถูกจัดเก็บในระบบฐานข้อมูลที่มีความปลอดภัยตามกฎหมาย
รูปแบบสลากเลข 3 หลัก(N3) กำหนดประเภทรางวัลดังนี้
ตัวอย่างการกำหนดสัดส่วนรางวัล การจำหน่ายเงินรางวัล กรณีจำหน่ายราคา 80 บาท ต่อฉบับ/รายการ
วิธีการเล่นของสลากตัวเลข 3 หลัก(N3)
เลือกตัวเลขตั้งแต่ 0-9 ในแต่ละหลักให้ครบ 3 หลัก และสามารถเลือกตัวเลขซ้ำกันได้ ในแต่ละหลัก
การกำหนดสัดส่วนเงินรางวัน และการจ่ายเงินรางวัล
กำหนดสัดส่วนเงินรางวัล
การจ่ายเงินรางวัลแบบผันแปร ในแต่ละประเภทเงินรางวัล คือ เป็นการหารเงินรางวัลของผู้ที่ถูกรางวัลในแต่ละประเภทรางวัล โดยเงินรางวัลจะจ่ายเป็นจำนวนเต็ม ไม่มีเศษ โดยเศษของเงินรางวัลทุกประเภท นำไปรวมกับรางวัลพิเศษ เพื่อจ่ายให้กับผู้ถูกรางวัลพิเศษ และเงินรางวัลจะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคธรรมดา แต่ต้องชำระอากรสแตมป์ในอัตรา 1 บาท ของเงินรางวัลทุก 200 บาท หรือเศษของ 200 บาทเช่นเดียวกับสลาก L6
ขณะที่ การจัดสรรเงินจากการจำหน่ายสลากจะจัดสรรเงินจากยอดจำหน่ายสลาก N3 ก็จัดสรรเงินตามสัดส่วน เช่นเดียวกันกับ N6 คือ เป็นเงินรางวัลร้อยละ 60 เงินนำส่งรายได้แผ่นดินร้อยละ 23 และค่าใช้จ่ายในการบริหารงานร้อยละ 17
ส่วน การสมทบเงินรางวัล หากรางวัลประเภทใดไม่มีผู้ถูกรางวัล จะสมทบเงินรางวัลดังกล่าวในงวดถัดไปจำนวน 1 งวด แยกประเภทรางวัลได้ไม่เกิน 1 งวด และหากในงวดถัดไปไม่มีผู้ถูกรางวัลอีก จะนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน
อย่างไรก็ตาม การออกสลากแบบพิมพ์ใบ และแบบดิจิทัล จะอิงข้อมูลชุดเดียวกันในการออกรางวัล โดยจะออกรางวัลเดือนละ 2 ครั้ง ทุกวันที่ 1 และวันที่ 16 ของทุกเดือน
ทั้งนี้ สำนักงานสลากฯ ระบุว่า การออกผลิตภัณฑ์สลากฯ รูปแบบใหม่ครั้งนี้ เป็นไปตามแผนเพิ่มสลากดิจิทัลเป็น 18 ล้านใบ หากครม.อนุมัติ สลาก L6 จำนวน 20 ล้านใบภายในสิ้นปี 66 จะทำให้เกิดความสมดุลกันระหว่างสลากใบ และสลากดิจิทัล และเป็นการเพิ่มทางเลือกในการซื้อสลากให้กับประชาชน
เช่นเดียวกับ N3 หากผ่านการเห็นชอบจาก ครม. คาดว่า จะใช้เวลาเตรียมการประมาณ 6 เดือน จึงจะเริ่มจำหน่ายได้ สำหรับราคา สำนักงานกองสลากฯ คาดว่าจะจำหน่ายในราคา 20-40บาทต่อไป เพราะมองว่าราคา 50 บาทอาจสูงเกินไป ซึ่งเงินรางวัลต้องใกล้เคียงกับหวยใต้ดิน เช่น เลข 2 ตัวจ่ายอัตราบาทละ 70 บาทเป็นต้น ซึ่งสำนักงานกองสลากฯ เชื่อว่า สลาก L6 ,N3 จะช่วยให้ราคาสลากอยู่ตามเป้าหมายที่ 80 บาทได้ รวมทั้งยังช่วยลดปริมาณหวยใต้ดินได้
ส่วนการคัดเลือกตัวแทนการจำหน่ายสลาก N3 สำนักงานสลากฯ จะมีการพิจารณาแนวทางอีกครั้งว่าจะเป็นอย่างไร