หม่อมเต่าแย้มขึ้นดอกอีก0.5%

ดูแลเงินฝาก-เงินเฟ้อให้สมดุลเชื่อระดับ8%ธุรกิจไทยไม่เจ๊ง

หม่อมเต่า” หนุน ธปท.ขยับดอกเบี้ยขึ้นอีก 0.5% ก่อนจะหยุด ดูสมดุลเงินฝากเงินเฟ้อ

ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล ประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ขณะนี้ความกังวลด้านเงินเฟ้อเริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้น และถึงแม้ว่าพรรคการเมืองจะมุ่งใช้นโยบายประชานิยม เน้นการแจกหรือให้ รวมถึงจะขึ้นค่าจ้างแรงงาน แต่ก็เชื่อว่า ธปท.จะสามารถดูแลเงินเฟ้อให้อยู่ในเป้าหมาย 0.53% ได้ เพียงแต่ช่วงนี้ที่ยังวางใจเงินเฟ้อไม่ได้มากนัก เพราะเงินเฟ้อยังเพิ่มขึ้นจากสินค้าโภคภัณฑ์ และน้ำมันยังราคาสูงอยู่

ม.ร.ว.จัตุมงคล กล่าวว่า สถานการณ์เช่นนี้ ธปท.ก็อาจจะต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายไปอีกเล็กน้อยประมาณ 0.5% ก่อนจะหยุดขึ้น แต่ถึงที่สุดดอกเบี้ยนโยบายจะขึ้นอีกหรือไม่ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะเป็นผู้ตัดสินใจ

“เรื่องดอกเบี้ยนับจากนี้ไปก่อนจะถึงจุดดุลยภาพ น่าจะขึ้นอีกนิดหน่อยจาก 3% ดอกเบี้ยเงินฝากกับอัตราเงินเฟ้อน่าจะให้ใกล้กันกว่านี้อีกนิด ยกเว้นจะมีอะไรผิดไปจากที่คาดก็อาจจะเปลี่ยนจากนี้ ถ้าดอกเบี้ยถึงจุดสมดุล ก็น่าจะหยุดขึ้นได้ แต่ก่อนหยุดต้องพยายามทำ และหวังให้ดอกเบี้ยสูงกว่าเงินเฟ้อ หรือใกล้เคียงกันก่อน ต้นทุนการทำธุรกิจจะได้ไม่เพิ่มขึ้นมากนัก ธุรกิจก็จะได้ไม่ห่วงเงินเฟ้อ ต้นทุนจะได้ไม่เพิ่มจากเงินเฟ้อ คนก็จะได้มีรายได้ กล้าจับจ่าย” ม.ร.ว.จัตุมงคล กล่าว

ม.ร.ว.จัตุมงคล ชี้แจงเพิ่มเติมว่า การที่เงินเฟ้อสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากไม่มาก หรือใกล้เคียงกันประมาณ 3% เศษ จะช่วยให้ดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ในระดับไม่เกิน 6-8% ซึ่งนักธุรกิจสามารถทำธุรกิจได้สบาย ไม่ลำบากในเรื่องต้นทุนการเงิน หรือมีต้นทุนอื่นๆ ที่อาจเกิดจากเงินเฟ้อไม่มาก ซึ่งถ้าระดับดอกเบี้ยเงินกู้ไม่เกิน 8% แล้วธุรกิจยังเจ๊งอีก ก็แสดงว่าเป็นผลจากฝีมือการบริหาร ไม่น่าจะเป็นเพราะดอกเบี้ย ซึ่งถ้าเงินเฟ้อยังขึ้นก็น่าจะมาจากราคาสินค้าแพง ราคาน้ำมัน และความต้องการซื้อสูงขึ้น

ประธานคณะกรรมการ ธปท. กล่าวว่า ข้อดีของไทย คือ เราสามารถดูแลเงินเฟ้อให้อยู่ในเป้าหมายได้ ไม่ต้องลดดอกเบี้ยลงไปถึง 0% เหมือนสหรัฐ ซึ่งต้องชื่นชมนางธาริษา วัฒนเกส อดีตผู้ว่าการ ธปท. ที่ทำไว้ดี การบริโภค การใช้จ่ายไม่ลดลงมาก คนที่พึ่งรายได้ผลตอบแทนจากดอกเบี้ยนับล้านคนยังมีรายได้จากดอกเบี้ยมาใช้จ่าย