จับตาเงินเฟ้อคืนนี้ ชู 9 หุ้นสตอรี่แกร่ง
ดัชนีตลาดหุ้นไทย ปิดการซื้อขายวันนี้(10 พ.ค.66) อยู่ที่ 1,569.56 จุด เพิ่มขึ้น 4.90 จุด คิดเป็น 0.31% มูลค่าการซื้อขาย 49,967.39 ล้านบาท ระหว่างวันดัชนีปรับขึ้นสูงสุด ที่ 1,570.85 จุด และลดลงต่ำสุด 1,557.68 จุด
5 หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
1.KBANK ปิดที่ 134 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3,752.99 ลบ.
2.MTC ปิดที่ 39.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.75 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,918.82 ลบ.
3.TIDLOR ปิดที่ 25.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.65 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,763.67 ลบ.
4.PTT ปิดที่ 32.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,763.68 ลบ.
5.SAWAD ปิดที่ 60.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,665.44 ลบ.
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในวันพรุ่งนี้(11 พ.ค.66)คาดแกว่งในกรอบ 1,570-1,580 จุด แต่ภาพใหญ่ยังเป็นลักษณะของการฟื้นตัวเพิ่มขึ้นหลังการเลือกตั้งคาดดัชนีมีโอกาสทดสอบ 1,600-1,650 จุด แต่สิ่งที่ต้องติดตามคือ ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯที่จะประกาศในค่ำคืนนี้ หากเป็นไปตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ หรือต่ำกว่าคาดเล็กน้อย เชื่อว่าไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทย แต่หากประกาศออกมาผิดจากคาดการณ์อย่างมาก ตลาดจะเริ่มกลับมากังวลความเสี่ยงต่อการดำเนินนโยบายที่จะเกิดขึ้นในอนาคตต่อไป
ดังนั้นกลยุทธ์ นักลงทุนสามารถเลือกหุ้นที่ได้รับอานิสงส์จากการจับจ่ายใช้สอย การอุปโภคบริโภค อาทิ CPALL MAKRO BJC ส่วนหุ้นที่ยังไม่ฟื้นตัวกลับมาเต็มที่ แนะนำ MAKRO รวมถึงหุ้นการเมือง ที่อิงงานประมูล หรือการทำสัญญาภาครัฐ แนะนำ SAMART, SAMTEL นอกจากนี้หุ้นกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม ที่ได้อานิสงส์การย้ายฐานการผลิต และผลประกอบการปีนี้ฟื้นตัวตามสาธารณูปโภคที่กลับมาดี แนะนำ WHA, AMATA , ROJNA