JAS พุ่ง 18.40% ชี้แจงแก้ปัญหาส่วนผู้ถือหุ้นต่ำกว่า 50% ยันไม่เพิ่มทุน
ราคาหุ้น JAS พุ่ง 18.40% หลังชี้แจงแนวทางแก้ปัญหาส่วนผู้ถือหุ้นต่ำกว่า 50% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว ยันไม่มีแผนเพิ่มทุน คาดปลดเครื่องหมาย C ได้ภายใน ก.ค.นี้ หรือช้าสุดภายในไตรมาส 3/66 โบรกฯ มองไม่เพิ่มทุน ช่วยลดความกังวลต่อประเด็นดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (15 พ.ค.) ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ปิดที่ 1.48 บาท เพิ่มขึ้น 0.23 บาท หรือเพิ่มขึ้น 18.40% มูลค่าการซื้อขาย 210.68 ล้านบาท หลังบริษัทประชุมชี้แจงแนวทางแก้ไขปัญหาส่วนผู้ถือหุ้นต่ำกว่า 50% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว
นายสุพจน์ สัญญพิสิทธิ์กุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (รักษาการ) บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS เปิดเผยว่า วันนี้ (15 พ.ค.) บริษัทได้จัดการประชุมเพื่อร่วมกันให้ข้อมูลและชี้แจงเพิ่มเติมในผลการดำเนินงานของบริษัท ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-Meeting) เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนและผู้ถือหุ้น หลังประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2566
ทั้งนี้ บริษัทเตรียมแก้ไขปัญหาส่วนผู้ถือหุ้นต่ำกว่า 50% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว ได้แก่
1. ปรับนโยบายบัญชีในการตัดค่าเสื่อมราคาทรัพย์สินของ 3BB เป็นตามอายุการใช้งานจริง ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนค่าเสื่อมลง
(รายการทางบัญชี) ทำให้มูลค่าทรัพย์สินและส่วนผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น เบื้องต้นคาดว่าแนวทางนี้น่าจะเพียงพอต่อการเพิ่มส่วนของผู้ถือหุ้น และสามารถปลดเครื่องหมาย C ได้ภายในเดือน ก.ค.นี้ หรืออย่างช้าภายในไตรมาส 3/2566
2. บริษัทไม่มีแผนการเพิ่มทุนอย่างแน่นอน
ส่วนธุรกรรมการจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัท 3BB ให้แก่ AWN คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน มิ.ย.นี้ ทั้งนี้ กรณี Worst care ต่อดีลการซื้อขาย 3BB และหน่วยลงทุน JASIF มองว่าเป็นเรื่องความล่าช้ากว่าที่ประเมินว่าจะจบต้นไตรมาส 3/2566 ซึ่งจะกระทบสภาพคล่องของ 3BB โดยหากดีลล่าช้าและไม่จบภายในปีนี้ บริษัทอาจจะพิจารณาขอเจรจากับกองทุน JASIF เพื่อปรับเงื่อนไขการจ่ายค่าเช่า อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัทยังไม่มีการเจรจากับกองทุนฯ
ขณะที่การเพิ่มสภาพคล่องระยะสั้นให้กับ 3BB ได้แก่ 1.กู้เงินระยะสั้นจากสถาบันการเงิน และ 2.เร่งจบการเจรจายุติข้อพิพาทเกี่ยวกับโครงข่ายกับ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT โดยศาลปกครองกลางมีคำตัดสินข้อพิพาทฯ ให้บริษัทลูกของ JAS ชนะคดี และให้ NT ชำระเงินต้น 2,517 ล้านบาท
บล.กรุงศรี พัฒนสิน ระบุว่า การให้ข้อมูลของบริษัทกับนักลงทุนในครั้งนี้ พร้อมยืนยันไม่มีแผนเพิ่มทุน อาจช่วยลดความกังวลต่อประเด็นดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม มองว่าประเด็นสำคัญต่อ JAS ในระยะสั้น คือ การบริหารสภาพคล่องของ 3BB เพื่อไม่กระทบต่อการจ่ายค่าเช่าให้กับ JASIF และความคืบหน้าของ กสทช. อนุมัติการซื้อขาย 3BB ส่วนระยะยาว หากดีลการซื้อขาย 3BB สำเร็จ มองว่าแนวทางการดำเนินธุรกิจที่เหลืออยู่ และการสร้างรายได้เพิ่มเติมเป็นปัจจัยสำคัญต่อการประเมินมูลค่าพื้นฐานบริษัท
โดยระยะสั้น มองว่าราคาหุ้น JAS จะยังผันผวนและมีปัจจัยลบจากดีลการซื้อขาย 3BB และหน่วยลงทุน JASIF ล่าช้า ประกอบกับความสำเร็จของดีลฯ ยังมีความไม่แน่นอน จึงไม่แนะนำ เก็งกำไรประเด็นการจ่ายเงินปันผลพิเศษของ JAS