SET คลายกังวลเจรจาเพดานหนี้สหรัฐ-การเมืองในประเทศ หนุนรีบาวด์
SET ลุ้นรีบาวด์ หลังคลายกังวลการเจรจาขยายเพดานหนี้สหรัฐ สถานการณ์การเมืองในประเทศดีขึ้น จับตาแถลงพรรคฝ่ายร่วมรัฐบาลวันนี้ กลยุทธ์การลงทุน “Selective Buy” แนะนำ MINT และ BDMS
บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) ประเมินว่า SET รีบาวด์ โดยมีปัจจัยหนุนจากคลายกังวลการเจรจาขยายเพดานหนี้สหรัฐ ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปในวันอาทิตย์นี้ ขณะที่ปัจจัยการเมืองในประเทศ สถานการณ์ดีขึ้นโดยวันนี้ติดตามการแถลงของพรรคฝ่ายร่วมรัฐบาล ด้านแนวต้านอยู่ที่ 1,530 จุด หากผ่านได้ เป็นบวกต่อ และมีแนวต้านถัดไปที่ 1,545 จุด ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1,510 และ 1,500 จุด ตามลำดับ
ทั้งนี้ ช่วงสั้น (1 เดือน) มอง SET มีแนวโน้มพื้นตัวหลังสิ้นสุดการเลือกตั้ง ส่วนระดับการฟื้นตัวจะขึ้นอยู่กับเสถียรภาพและสูตรการจัดตั้งของรัฐบาลใหม่
อย่างไรก็ตาม ระยะถัดไป (หลัง 1 เดือน) มอง SET มีโอกาสผันผวนไปตามสถานการณ์จัดตั้งรัฐบาลใหม่ ซึ่งคงต้องติดตามต่อไป โดยเฉพาะช่วงเดือน ก.ค. ซึ่งจะมีการเปิดประชุมสภาเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีไทย
นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงทีต้องติดตามจากประเด็นเพดานหนี้ รวมทั้งฐานะการเงินของธนาคารขนาดกลางและเล็กของสหรัฐ กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy" ในธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1. หุ้น Best of the best ซึ่งมีพื้นฐานแข็งแกร่ง มีกำไรในปี 2566-2567 เติบโตเฉลี่ยสูงกว่ากำไรของกลุ่มหุ้น เราแนะนำ Outperform และ Valuation ไม่แพง โดยซื้อขายด้วย PER และ PBV เฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ที่บริเวณ -1.0 ถึง-2.0 S.D. จึงมองเป็นโอกาสซื้อสะสม เลือก AU BBL BDMS CPALL GULF สำหรับนักลงทุนที่มีหุ้นอยู่แล้ว แนะนำLet Profit Run
2. หุ้นที่คาดได้รับอานิสงส์จาก Fund Flow ไหลเข้า เนื่องจากรับรู้ผลการเลือกตั้ง และจากบากแข็งค่า เลือก BBL KBANK ADVANC
3. หุ้นที่คาดหวังจะได้ประโยชน์จากนโยบายเศรษฐกิจดั้งเดิม (Old Economy) และผลการดำเนินงานไตรมาส2/2566 ยังมีแนวโน้มเติบโตดี เลือก HMPRO MAKRO MINT AP
4. หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากนโยบายทางเศรษฐกิจใหม่ (New Economy) เลือก ADVANC BDMS EA AH
ขณะที่ช่วงสั้นแนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนในหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าและกลุ่ม PTT ออกไปก่อน เนื่องจากมีความเสี่ยงหรือความไม่ชัดเจนของโครงสร้างราคาพลังงานจากนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่
สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ MINT ไตรมาส 2/2566 คาดผลการดำเนินงานจะปรับตัวดีขึ้นทั้ง YoY และ QoQ เนื่องจากโรงแรมในยุโรปจะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น ขณะที่ทั้งปี 2566 คาดกำไรปกติที่ 6.2 พันล้านบาท เติบโต 209%YoY
BDMS ไตรมาส 2/2566 คาดกำไรปกติจะเติบโต YoY เนื่องจากพัฒนาการในตลาดต่างประเทศใหม่ๆ จะช่วยสนับสนุนให้กำไรเติบโตต่อเนื่อง แต่จะลดลง QoQ จากปัจจัยฤดูกาล ขณะที่ทั้งปี 2566 คาดกำไรปกติที่ 1.4 หมื่นล้านบาท เติบโต 12%YoY