ลุ้นกำไร 2 ยักษ์ใหญ่กลุ่มมือถือ Q2/66 จับตา TRUE ประกาศงบวันนี้

27 กรกฎาคม 2566

เก็งงบหุ้นกลุ่มมือถือไตรมาส 2/66 จับตา “TRUE” ประกาศผลงานวันนี้ โบรกฯ คาดขาดทุนลดลงจากไตรมาสก่อน ขณะที่ “ADVANC” แจ้ง 7 ส.ค.นี้ ลุ้นกำไรเติบโตต่อเนื่อง เหตุรายได้เพิ่มขึ้น และค่าใช้จ่ายลดลง

ผ่านไปแล้วสำหรับการประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2566 และครึ่งแรกของปี 2566 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ มาในสัปดาห์นี้จะเริ่มมีการรายงานผลการดำเนินงานของกลุ่มอื่นๆ ตามมา ซึ่ง 1 ในนั้น คือ กลุ่มสื่อสาร(เฉพาะกลุ่มมือถือ) โดยในวันนี้ (27 ก.ค.) จะเป็นคิวของ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE ส่วนบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC จะประกาศงบวันที่ 7 ส.ค.2566     

ดังนั้นในสัปดาห์นี้ “โพสต์ทูเดย์” ได้รวบรวมคาดการณ์งบไตรมาส 2/2566 ของกลุ่มสื่อสาร (เฉพาะกลุ่มมือถือ) มาให้ดูว่าภาพรวมกำไรทั้งกลุ่มสื่อสาร และกำไรของ 2 บริษัท เป็นอย่างไรกันบ้าง  

โดย บล.เอเซีย พลัส ประเมินว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/2566 คาดกำไรโดยรวมของกลุ่ม ICT จะดีขึ้นเมื่อเทียบกับทั้งไตรมาสก่อน และงวดไตรมาส 2/2565 ตามทิศทางผลการดำเนินงานของผู้ประกอบการโทรศัพท์มือถือ ทั้ง ADVANC และ TRUE ซึ่งเป็นตัวหลักที่มีผลกระทบต่อกำไรโดยรวมของกลุ่ม 

ทั้งนี้ เนื่องจากคาดว่ากำไรของทั้ง 2 บริษัท จะถูกผลักดันด้วยรายได้ค่าบริการที่ดีขึ้นจากไตรมาสก่อน และงวดไตรมาส 2/2565 หลังการแข่งขันเริ่มผ่อนคลายลง ประกอบกับได้มีการปรับโครงสร้างค่าบริการขึ้นตั้งแต่ต้นปี ขณะที่ค่าใช้จ่ายไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก

ขณะที่ บล.กรุงศรี พัฒนสิน ระบุว่า กำไรปกติในไตรมาส 2/2566 ของกลุ่ม ICT ที่ศึกษา 3 บริษัท ประกอบด้วยTRUE, ADVANC และ บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH คาดยังอ่อนตัวลงจากไตรมาส 2/2565 เนื่องจาก TRUE อยู่ในช่วงเริ่มต้นปรับโครงสร้าง 

ทิศทางรายได้บริการกลุ่มอาจโตแผ่วลง จากธุรกิจมือถือที่ระยะสั้นอาจมีความเสี่ยงการแข่งขันราคาจะรุนแรงขึ้นจากไตรมาสก่อน เนื่องจากช่วงปลายไตรมาส 2/2566 จะครบกำหนดเวลา 3 เดือน ที่ TRUE ต้องลดค่าบริการต่อหน่วยลงเฉลี่ย 12% ตามเงื่อนไขหลังควบรวมของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)

อย่างไรก็ตาม ไม่ให้น้ำหนักว่าการแข่งขันด้านราคารอบนี้จะรุนแรงเท่าช่วงปีก่อน เนื่องจากโครงสร้างผู้เล่นในตลาดที่น้อยลง ผนวกกับ TRUE ยังมีช่องทางอีกมากในการปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าว โดยไม่ต้องลดราคาอย่างเดียว เช่นการเพิ่มบริการเสริม โดยคงราคา (เพิ่ม 5G/content usage) เป็นต้น 

สำหรับปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตของกำไรในไตรมาส 2-3/2566 จะอยู่ที่การปรับปรุงประสิทธิภาพทำกำไร ซึ่งคาดADVANC จะจัดการคุมต้นทุนได้ดีกว่า TRUE จึงยังคงคาดผลการดำเนินงานของ ADVANC รายเดียวยังโตได้จากไตรมาส 2/2565

ทั้งนี้ หากเจาะเป็นรายตัว เริ่มกันที่ “TRUE” บล.บัวหลวง ประเมินว่า ในไตรมาส 2/2566 จะขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 356 ล้านบาท ขาดทุนลดลง 28% จากไตรมาสก่อน แต่พลิกกลับจากกำไรสุทธิไตรมาส 2/2565 ที่ทำการปรับปรุงใหม่ ซึ่งอยู่ที่ 2,500 ล้านบาท 

หากไม่รวมรายการพิเศษ คาดขาดทุนหลักในไตรมาส 2/2566 อยู่ที่ 1,006 ล้านบาท ขาดทุนลดลง 46% จากไตรมาสก่อน แต่เทียบกับกำไรหลักในไตรมาส 2/2565 ที่ทำการปรับปรุงใหม่ที่ 470 ล้านบาท 

โดยขาดทุนหลักที่ลดลงจากไตรมาสก่อน เป็นผลมาจากรายได้บริการที่เพิ่มขึ้นและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร(ค่าใช้จ่ายด้านการตลาด ค่าใช้จ่ายด้านการบริหารงานทั่วไปและหนี้เสีย) ต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับโครงข่าย (ค่าไฟฟ้า) ที่ทยอยปรับตัวลดลง และเนื่องจากขาดทุนหลักสำหรับในครึ่งแรกของปี 2566 ที่มากกว่าที่คาดก่อนหน้า 

จึงปรับประมาณการขาดทุนหลักสำหรับทั้งปี 2566 เพิ่มขึ้นอีก 68% ไปเป็น 2,783 ล้านบาท และปรับลดราคาเป้าหมาย เหลือ 9.80 บาท ยังคงแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” 

ทางด้าน บล.กรุงศรี พัฒนสิน ประเมินว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2566 ของ TRUE จะขาดทุนปกติเหลือ 950 ล้านบาท น้อยลงจากไตรมาสก่อน ที่ขาดทุนปกติ 1,850 ล้านบาท หนุนจาก 1.รายได้บริการ (ไม่รวม IC) ที่จะเริ่มทรงตัวได้จากไตรมาสก่อน หลังการแข่งขันด้านราคาในธุรกิจมือถือและเน็ตบ้านลดลง บริษัททยอยถอนโปรunlimited ราคาถูกออกจากตลาด คาดจำนวนลูกค้ากลุ่มรายเดือนโตอีกครั้งจากไตรมาสก่อน 

และ 2.ต้นทุนโดยรวมจะลดลงจากไตรมาสก่อน หลักๆ เกิดจากค่าไฟต่อหน่วยและค่าใช้จ่ายการตลาดที่ต่ำลง หนุนEBITDA margin จะฟื้นตัวเป็น 38.1% จาก 37.5% ในไตรมาสก่อน คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 9.00 บาท 

ต่อด้วย “ADVANC” บล.พาย คาดว่า กําไรปกติไตรมาส 2/2566 จะอยู่ที่ 6,883 ล้านบาท โตราว 4% จากไตรมาส 2/2565 เป็นผลจากการลดต้นทุนโดยเฉพาะ SG&A แต่ทรงตัวจากไตรมาสก่อน เป็นผลจากการที่บริษัทกู้หนี้ก้อนใหม่มา 20,000 ล้านบาท เพื่อเป็นเงินทุนในการชําระค่าใบอนุญาตคลื่นความถี่

อย่างไรก็ตาม การเติบโตของรายได้ยังเบาบางจากไตรมาส 2/2565 เนื่องจากรายได้เฉลี่ยต่อเลขหมาย (ARPU) ยังทรงตัว เพราะแพ็คเกจราคาถูกที่มีมาตั้งแต่ปี 2565 ขณะที่มีสมาชิกใหม่น้อยลง จากการขึ้นราคาแพ็คเกจพร้อมกับการจํากัดปริมาณด้านดาต้าและความเร็ว 

ขณะที่คาดว่ากําไรปกติในครึ่งหลังของปี 2566 จะปรับดีขึ้น HoH เพราะแพ็คเกจราคาถูกจะทยอยหมดอายุลงมากขึ้นและการดําเนินงานด้านเครือข่ายจะมีต้นทุนที่ลดลง

ดังนั้นมองว่าเป้าหมายกําไรปกติในปี 2566 ที่ 29,000 ล้านบาท เติบโต 10% จากปีก่อน ยังมีโอกาสเกิดขึ้นได้นอกจากนี้ ADVANC อาจมี upside เพิ่มเติมจากดีล TTTBB หากผู้ถือหน่วยลงทุน JASIF อนุมัติคำขอปรับโครงสร้างข้อตกลงการเช่าใหม่ของ TTTBB ในวันที่ 23 ส.ค.2566 แนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน 249 บาท

ส่วน บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) คาดการณ์กำไรสุทธิหลักของ ADVANC ในไตรมาส 2/2566 ที่ 6,992 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 10% จากไตรมาส 2/2565 และเพิ่มขึ้น 4% จากไตรมาสก่อน จากรายได้จากการให้บริการหลัก 33,919 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% จากไตรมาส 2/2565 และเพิ่มขึ้น 1% จากไตรมาสก่อน 

โดยการเติบโตของกำไรหลักน่าจะดีกว่าการเติบโตของรายได้ เนื่องจากอัตราส่วน SG&A ต่อรายได้ต่ำที่ 15.2% ในไตรมาส2/2566 ลดลงจาก 17.1% ในไตรมาส 2/2565 และ16.6% ในไตรมาสก่อน คาดว่าค่าใช้จ่ายทางการตลาดจะลดลง 30% จากไตรมาส 2/2565 และลดลง 14% จากไตรมาสก่อน เนื่องจากการแข่งขันที่ผ่อนคลายและการควบคุมต้นทุนที่ดีของ ADVANC 

ทั้งนี้ ประเมินกำไรหลักปี 2566 เติบโต 10% จากปีก่อน มาอยู่ที่ 28,271 ล้านบาท แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 240 บาท 

Thailand Web Stat