posttoday

GPSC ครึ่งปีหลังต้นทุนลด โบรกส่องกำไรฟื้นรับมาร์จิ้น

10 สิงหาคม 2566

GPSC กำไรไตรมาส 2/66 วูบ 55% แตะ 309 ล้านบาท เหตุหยุดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้า โบรกสแกนผลงานครึ่งปีหลังชี้กำไรฟื้นรับมาร์จิ้น SPP ดีขึ้น

ราคาหุ้น GPSC ปิดการซื้อขายเช้านี้(10 ส.ค. 2566) อยู่ที่ 52.25 บาท ลดลง 2.25 บาท คิดเป็น -4.13% มูลค่าการซื้อขาย 1,119,941,480 บาท

นายวรวัฒน์ พิทยศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC แกนนำนวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้า กลุ่ม ปตท. เปิดเผยว่า เศรษฐกิจของประเทศในช่วงครึ่งปีหลังจะฟื้นตัวขึ้น โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดขยายตัวเศรษฐกิจ จะอยู่ในระดับ 3.6% จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว 

รวมถึงการบริโภคของภาคเอกชนและการส่งออกของไทยจะทยอยฟื้นตัวใกล้เคียงหรือขยายตัวเพิ่มขึ้นจากที่ประเมินไว้ ส่งผลให้มีแนวโน้มความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้น

สำหรับผลประกอบการไตรมาส 2/2566 มีรายได้ทั้งสิ้น 23,056 ล้านบาท มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 309 ล้านบาท ลดลง 55% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) เป็นผลมาจากส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในโครงการไซยะบุรี (XPCL) ลดลงเนื่องจากปริมาณน้ำลดลง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 

โดยปีนี้ไม่มีการรับรู้กำไรจากรายการพิเศษจากการปรับโครงสร้างการถือหุ้นธุรกิจแบตเตอรี่เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต ในขณะที่ผลการดำเนินการของโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP) มีรายได้จากการขายไฟฟ้าและไอน้ำเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากการปรับสูงขึ้นของค่า Ft ส่งผลให้มาร์จิ้น จากการขายไฟฟ้าให้กับลูกค้าอุตสาหกรรมปรับตัวสูงขึ้น แม้ว่าต้องเผชิญกับต้นทุนเชื้อเพลิงที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา

นายวรวัฒน์ กล่าวว่า เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2566 (QoQ)  กำไรสุทธิปรับตัวลดลง 72%  เนื่องจากค่า Ft ปรับตัวลดลงตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2566 แม้ว่าในช่วงเวลาดังกล่าวต้นทุนเชื้อเพลิงจะมีการปรับตัวลดลงบางส่วน ประกอบกับโรงไฟฟ้าโกลว์พลังงาน ระยะที่ 5 มีการหยุดซ่อมบำรุง 25 วัน และโรงไฟฟ้า ศรีราชา และโกลว์ไอพีพี ไม่มีการเดินเครื่องโรงไฟฟ้าด้วยน้ำมันดีเซล ซึ่งเป็นไปตามแผนเรียกรับไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)

ส่วนผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกของปี 2566 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 1,427 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43% เมื่อเทียบกับงวด 6 เดือนแรกปี 2565 ที่มีกำไรสุทธิ 997 ล้านบาท เนื่องจากการปรับตัวสูงขึ้นของค่า Ft ที่สอดคล้องกับต้นทุนราคาพลังงานมากขึ้น ทำให้มาร์จิ้นของการขายไฟฟ้าให้กับกลุ่มอุตสาหกรรมสูงขึ้น

กำไร Q2/66 ต่ำคาด

     บล.กรุงศรี ระบุ หุ้น GPSC ราคาเป้าหมายตาม BB consensus อยู่ที่ 73.67 บาท กำไรจากธุรกิจหลักของ GPSC ใน 2Q23 อยู่ที่ 847 ล้านบาท (-23% yoy, -43% qoq) ต่ำกว่า Bloomberg consensus 21% เราคิดว่ากำไรที่ต่ำเกินคาดเป็นเพราะ ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยสูงกว่าที่คาดไว้ ทั้งนี้ กำไรจากธุรกิจหลักในงวด 1H23 อยู่ที่ 2.3 พันล้านบาท (+74% yoy) โดยในไตรมาสนี้ บริษัทมีรายการพิเศษ 538 ล้านบาท (ค่าตัดจำหน่ายจากการเข้าซื้อกิจการการ GLOW 365 ล้านบาท, ผลขาดทุนจากสต็อกถ่านหินของ Gheco-1 210 ล้านบาท และกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 33 ล้านบาท) ซึ่งผู้บริหารบอกว่าบริษัททำการตรวจสอบสต็อกถ่านหินทุกไตรมาสที่สอง และสี่ ทั้งนี้ กำไรสุทธิใน 2Q23 อยู่ที่ 309 ล้านบาท (-55% yoy, -72% qoq)

     กำไรจากธุรกิจหลักใน 2Q23 ลดลง QoQ เพราะมีการปิดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้า Glow เฟส 5 (ซึ่งเป็นหนึ่งในหน่วยผลิตไฟฟ้าจากก๊าซประเภท combined cycle ที่มีกำลังการผลิตสูงสุดของบริษัท) นาน 25 วัน ส่วนกำไรที่ลดลง YoY เป็นเพราะ i) รายได้ equity income ลดลงเพราะ XPCL(โรงไฟฟ้าที่ใช้น้ำจากแม่น้ำมาผลิตไฟฟ้าในลาว กำลังการผลิต 321 Mwe) และ CFXD (โรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่งที่ไต้หวัน กำลังการผลิต 149 MWe) และ ii) ต้นทุนทางการเงินสูงขึ้นเนื่องจากมีการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ 3 พันล้านบาทใน 2Q23 และสินเชื่อระยะยาวเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ capacity factor ของ XPCL ลดลง yoy เนื่องจากปรากฎการณ์ El Nino ในขณที่ CFXD มีการหยุดผลิตไฟฟ้าจากกังหันลมเพื่อเชื่อมระบบส่งและทดสอบระบบ

     ทั้งนี้เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักใน 2H23 จะดีขึ้น HoH เนื่องจาก i) margin ของ SPP ดีขึ้น (เฟส 5 กลับมาเปิดดำเนินการเต็มที่ใน 2H23 และต้นทุนก๊าซลดลง) ii) รายได้ equity income เพิ่มขึ้นจาก XPCL (3Q23 เป็นช่วง peak ตามฤดูกาล) ราคาหุ้นในปัจจุบันคิดเป็น P/E ที่ 27.9x และ P/BV ที่ 1.4x โดยคาดว่ากำไรจะอยู่ที่ 5.4 พันล้านบาท (+96% yoy) เรามองว่า Margin ที่ฟื้นตัวขึ้นจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยกระตุ้นราคาหุ้นในระยะสั้น ราคาเป้าหมายตาม BB consensus อยู่ที่ 73.67 บาท

ครึ่งหลังดี 

     บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส ระบุว่า แนวโน้ม 2H23F หุ้น GPSC คาดว่าจะดีขึ้นเนื่องจากต้นทุนก๊าซและถ่านหินลดลง แม้ว่าค่า Ft จะลดลง แต่ผลกระทบสุทธิแล้วเป็นบวกได้ราว 1.7 พันล้านบาทใน 4Q23F พร้อมคงคำแนะนำซื้อ GPSC ให้ราคาพื้นฐาน 79 บาท (DCF) โดยคาดการณ์กำไรสุทธิปี 23F ฟื้นตัวเป็น 6.5 พันล้านบาท จาก 891 ล้านบาทในปี 22

ยังชอบ

     บล.บัวหลวง แนะนำซื้อ ลดราคาเป้าหมายลงเป็น 80 บาท GPSC รายงานกำไรสุทธิ 2Q23 ที่ 309 ล้านบาท หักรายการพิเศษกำไรหลักจะอยู่ที่ 277 ล้านบาท ลดลง 52% YoY และ 74% QoQ ต่ำกว่าที่เราและตลาดคาดมาก แนวโน้ม 3Q23 คาดกำไรเพิ่มขึ้น YoY, QoQ เราหั่นประมาณการกำไรปี 2023 ลง 33% และลดราคาเป้าหมายลงเป็น 80 บาท (เดิม 88 บาท) แต่ยังคงคำแนะนำซื้อ