จับตา! ศาลปกครองสูงสุดนัดพิจารณาคดีเบี้ยวหนี้สายสีเขียว 17ส.ค.นี้
ศาลปกครองสูงสุดนัดพิจารณาคดีเบี้ยวหนี้สายสีเขียว 1.17 หมื่นล้านบาท 17 ส.ค.นี้ หลังศาลปกครองชั้นต้นพิพากษาสั่งจ่ายภายใน 180 วัน
รายงานข่าวจากศาลปกครอง แจ้งว่า วันที่ 17 สิงหาคม 2566 เวลา 09.30 น. ศาลปกครองสูงสุดนัดนั่งพิจารณาคดีครั้งแรกในคดีที่ "บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS" ยื่นฟ้อง "กรุงเทพมหานคร และ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด" กรณีผิดสัญญาการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว เพื่อขอให้ชำระค่าตอบแทนตามสัญญาดังกล่าว
สำหรับคดีดังกล่าวผู้ฟ้องคดีฟ้องว่า กรุงเทพมหานคร กับพวกรวม 2 คน (ผู้ถูกฟ้องคดี) ผิดสัญญาการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 1 ตามสัญญาเลขที่ กธ.ส.006/55 ลว. 3 พ.ค.2555 และส่วนต่อขยายที่ 2 ตามสัญญาเลขที่ กธ.ส. 024/59 ลว. 1 ส.ค.2559 กรณีผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองไม่ชำระค่าตอบแทนตามสัญญาให้แก่ผู้ฟ้องคดี โดยผู้ฟ้องคดีได้มีหนังสือ ลว. 18 ก.ย.2563 และหนังสือ ลว. 15 ม.ค.2564 ทวงถามไปยังผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองให้ชำระค่าตอบแทนตามสัญญาแล้ว แต่ผู้ถูกฟ้องคดทั้งสองเพิกเฉย เป็นเหตุให้ผู้ฟ้องคดีได้รับความเดือดร้อนเสียหาย
ที่ผ่านมาศาลปกครองชั้นต้นพิพากษาให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองร่วมกันหรือแทนกันชำระเงิน สำหรับหนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่ 1 จำนวน 2,348.66 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยของต้นเงินจำนวน 2,199.09 ล้านบาท และหนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการครั้งที่ 51/2566 รถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 2 จำนวน 9,406.42 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยของต้นเงินจำนวน 8,786.77 ล้านบาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จสิ้นให้แก่ผู้ฟ้องคดี โดยให้ชำระให้แล้วเสร็จภายใน 180 วัน นับแต่วันที่คดีถึงที่สุด
ทั้งนี้ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ภายหลังจากการทำสัญญา ผู้ฟ้องคดีได้ให้บริการเดินรถไฟฟ้าในโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวในส่วนต่อขยายที่ 1 เรื่อยมา และบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2) ได้ชำระค่าจ้างรายเดือนให้แก่ผู้ฟ้องคดีครบถ้วนต่อเนื่องมาจนถึงเดือน เม.ย.2562
นอกจากนี้ตั้งแต่เดือน พ.ค.2562 - พ.ค.2564 ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 จ่ายเงินค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงไม่ครบถ้วนเต็มจำนวน ซึ่งตามสัญญาข้อ 71 กำหนดว่า หากผู้ถูกฟ้องคดที่ 2 ไม่จ่ายค่าจ้างให้แก่ผู้ฟ้องคดีภายในวันที่ 20 ของเดือนถัดไป ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 จะต้องชำระดอกเบี้ยสำหรับค่าจ้างที่ค้างชำระนั้นในอัตราดอกเบี้ยตามสัญญา
เมื่อผู้ถูกฟ้องคดที่ 2 ไม่ชำระค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงดังกล่าว จึงถือว่าผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ตกเป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้แล้วโดยมิพักต้องเตือน ดังนั้นเมื่อรวมต้นเงินและดอกเบี้ยของหนี้ค้างชำระค่าเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 1 ตามสัญญาเลขที่ กธ.ส. 006/55 ลว. 3 พ.ค.2555 จึงมีหนี้เงินรวมเป็นเงินทั้งสิ้นจำนวน 2,348.66 ล้านบาท