posttoday

MASTER ควัก 468 ล้าน ปิด 5 ดีล รุกธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ-คลินิกเสริมความงาม

28 พฤศจิกายน 2566

MASTER ทุ่มงบ 468 ล้านบาท เข้าลงทุน 5 บริษัท รุกธุรกิจให้บริการดูแลผู้สูงอายุหรือผู้มีภาวะพึ่งพิง-คลินิกเสริมความงาม-ธุรกิจบริการ เสริมสร้างโอกาสเพิ่มรายได้และกำไรสุทธิที่แข็งแกร่งและต่อเนื่องในอนาคต ลุ้นประกาศดีลใหญ่อีก 1 ดีล ก่อนสิ้นปี 66

นายแพทย์ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) หรือ MASTER เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 27 พ.ย.2566 ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทเข้าลงทุนในกิจการ ซึ่งประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการให้บริการดูแลผู้สูงอายุหรือผู้มีภาวะพึ่งพิง คลินิกเสริมความงาม และธุรกิจบริการ โดยการซื้อหุ้นเพิ่มทุน จำนวนทั้งสิ้น 5 บริษัท

ประกอบด้วย 1. การเข้าลงทุนในบริษัท ทวิงเกิ้ล สตาร์ จำกัด (บจก. ทวิงเกิ้ล สตาร์) สัดส่วน 40% โดยเป็นบริษัทประกอบกิจการ ซื้อ ขาย ผลิตสื่อโฆษณา ประชาสัมพันธ์

2. การเข้าลงทุนในบริษัท ทีวายพี เมดิคัล จำกัด (บจก. ทีวายพี) สัดส่วน 40% ซึ่งดำเนินธุรกิจ TYP Clinic เปิดให้บริการ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

3. เข้าลงทุนในบริษัท ซีเอ็มเอ็นเอช 2012 จำกัด (บจก. ซีเอ็มเอ็นเอช) สัดส่วน 40% โดยเป็น “ศูนย์ดูแลผู้ป่วยผู้สูงอายุเชียงใหม่เนิร์สซิ่งโฮมแคร์ หรือ Chiangmai Nursing Home care” ซึ่งเปิดให้บริการอยู่ที่ จังหวัดเชียงใหม่

4.การเข้าลงทุนในบริษัท ด็อกเตอร์ ท๊อป แฮร์ ฮอสพิทอล จำกัด (บจก. ด็อกเตอร์ ท๊อป แฮร์) สัดส่วน 40% เป็นคลินิก ภายใต้ชื่อ “The Skin Clinic” ซึ่งเป็นกิจการที่มีความชำนาญด้านปลูกผมไร้รอยแผล ศัลยกรรมความงาม เลเซอร์ต่างๆ และคลินิกเฉพาะทางด้านผิวหนังและความงาม

และ 5. การเข้าลงทุนในบริษัท บีอีคิว จำกัด (บจก. บีอีคิว) สัดส่วน 35%  ซึ่งประกอบธุรกิจคลินิกปลูกผม ภายใต้ชื่อ “BEQ Clinic” ที่จังหวัดกรุงเทพมหานคร

สำหรับการเข้าลงทุนครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์กับบริษัท และเป็นการดำเนินการตามนโยบายการลงทุนของบริษัทที่วางแผนลงทุนในกิจการที่มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจหลักของบริษัท ส่งผลทำให้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นจากเงินปันผลที่ได้รับจากการลงทุน ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัท และทำให้บริษัทสามารถขยายเครือข่ายในการให้บริการและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน

“พวกเรา MASTER ผสานจิ๊กซอว์ ตามแผนที่เคยประกาศไว้ ซึ่งทำให้กลุ่ม MASTER จากนี้พร้อมที่จะก้าวไปสู่การเป็นกลุ่มโรงพยาบาลเฉพาะทาง โดยมุ่งการเติบโตทั้ง Organic และ Inorganic ด้วยการนำกลยุทธ์แบบ Merger and Partnership (M&P) มาประยุกต์ใช้ ซึ่งเป็นแนวทางการขยายโอกาสทางธุรกิจของ MASTER ด้วยนโยบายลงทุนในหุ้นของแต่ละบริษัทไม่เกิน 40%” นายแพทย์ระวีวัฒน์ กล่าว

นางสาวลภัสรดา เลิศภานุโรจ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MASTER กล่าวว่า บริษัทประกาศแผนซื้อกิจการจำนวน 5 ดีล ถือว่ามากกว่าที่แจ้งไว้ก่อนหน้านี้ที่คาดจะมีดีลใหม่อย่างน้อยอีก 3 ดีล ทำให้ปัจจุบัน MASTER มีดีลซื้อกิจการแล้วทั้งสิ้น 9 ดีล

โดยเชื่อมั่นว่าทุกดีลที่เกิดขึ้นจะสนับสนุนให้ MASTER เติบโตอย่างยั่งยืน เนื่องจากจะส่งผลบวกต่อบริการของทั้งกลุ่ม ช่วยให้เกิด Economy of Scale ในเรื่องของเวชภัณฑ์และเครื่องมือทางการแพทย์ ซึ่งการจับมือพันธมิตรทางธุรกิจในครั้งนี้ จะเป็นส่วนสร้างโอกาสเพิ่มรายได้และกำไรสุทธิที่แข็งแกร่งและต่อเนื่องในอนาคต อีกทั้งคาดว่าจะสามารถประกาศดีลใหญ่อีก 1 ดีล ก่อนสิ้นปี 2566 

ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทได้มีมติอนุมัติให้บริษัทเข้าซื้อหุ้นของ บจก. ทวิงเกิ้ล สตาร์ จำนวนไม่เกิน 4,721 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 40% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของ บจก. ทวิงเกิ้ล สตาร์ รวมเป็นเงินทั้งสิ้นไม่เกิน 64,941,176.47 บาท 

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทได้มีมติอนุมัติให้บริษัทเข้าซื้อหุ้นของ บจก. ทีวายพี จำนวน 60,976 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 40% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของบจก. ทีวายพี รวมทั้งสิ้น 73,700,000 บาท  

อีกทั้ง ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทได้มีมติอนุมัติให้บริษัทเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ บจก. ซีเอ็มเอ็นเอช จำนวน 6,667 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 40% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของ บจก. ซีเอ็มเอ็นเอช รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 50,000,000 บาท 

ขณะเดียกวัน ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทได้มีมติอนุมัติให้บริษัทเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ บจก. ด็อกเตอร์ ท๊อป แฮร์ จำนวน 133,333 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 40% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของ บจก. ด็อกเตอร์ ท๊อป แฮร์ รวมเป็นเงินจำนวนไม่เกิน 96,000,000 บาท

รวมไปถึง ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทมีมติอนุมัติเข้าลงทุนในบริษัท บีอีคิว จำกัด จำนวน 35% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ของ บจก. บีอีคิว รวมเป็นเงินจำนวนไม่เกิน 183,750,000.00 บาท 

“คาดว่าจะดำเนินการเข้าลงทุนใน บริษัท ด็อกเตอร์ ท๊อป แฮร์ ฮอสพิทอล จำกัด แล้วเสร็จภายในไตรมาส 1/2567 และคาดว่าจะเข้าลงทุนในบริษัท บีอีคิว จำกัด แล้วเสร็จภายใน ไตรมาส 3/2567” นางสาวลภัสรดา กล่าว

นางสาวลภัสรดา กล่าวว่า การเข้าลงทุนในกิจการทั้ง 5 บริษัท จะใช้เงินที่ได้รับจากการดำเนินธุรกิจของบริษัท ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องหรือการดำเนินงานของบริษัท โดยนอกเหนือจากการได้รับผลตอบแทนจากการเข้าลงทุนและจากเงินปันผลจากผลประกอบการของแต่ละกิจการในอนาคตแล้ว การเข้าร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ บจก. ทวิงเกิ้ล สตาร์ ซึ่งเป็นบริษัทที่ประกอบกิจการด้านผลิตสื่อโฆษณา จะช่วยส่งเสริมการเผยแพร่การบริการของบริษัทให้เข้าถึงผู้บริโภคได้เพิ่มมากขึ้น 

สำหรับการเข้าร่วมลงทุนในกิจการเกี่ยวกับด้านสุขภาพและคลินิกเสริมความงามดังกล่าวเป็นการดำเนินการตามนโยบายการลงทุนของบริษัทที่จะลงทุนในธุรกิจที่สามารถส่งเสริมและเป็นประโยชน์กับบริษัท ธุรกิจหลักของบริษัท การร่วมลงทุนในครั้งนี้จะทำให้บริษัทสามารถขยายฐานลูกค้าและรูปแบบการให้บริการเสริมความงามให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ทำให้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นซึ่งจะนำไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัท