FETCO-สมาคม บลจ.-ก.ล.ต. นัดหารือพรุ่งนี้ เคาะรูปแบบฟื้น LTF ก่อนเสนอคลัง
3 หน่วยงาน “FETCO-สมาคม บลจ.-ก.ล.ต.” นัดหารือสรุปแนวทางฟื้นกองทุน LTF พรุ่งนี้ (21 พ.ค.) ก่อนเสนอ ก.คลัง ฟาก นายกสมาคม บลจ. เร่งผลักดันให้เกิดขึ้นภายในปี 67 เชื่อเป็นประโยชน์กับเศรษฐกิจและตลาดทุนไทย
นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ในฐานะนายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (IAA) และกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการ FETCO ในวันพรุ่งนี้ (21 พ.ค.) จะหารือและเตรียมความพร้อมกัน เพื่อนำเสนอข้อมูลการผลักดันกองทุน LTF ตามแนวคิดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และคาดว่าในอีก 1-2 สัปดาห์ อาจจะเข้าหารือกับทาง รมว.คลัง ในการประชุมนัดถัดไป
ทั้งนี้ การฟื้นกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) จะเป็นส่วนหนึ่งช่วยหนุนบรรยาการการลงทุนในตลาดหุ้นไทยได้ครึ่งปีหลัง และยังเป็นการสร้างโอกาสทำกำไรให้ธุรกิจ บล. ฟื้นกลับมา
โดยสมาคมบริษัทจดการลงทุน (AIMC) หรือ สมาคม บลจ. ซึ่งบทบาทหน้าที่ในการศึกษาและหาแนวทางในการนำเสนอกองทุนประหยัดภาษีนำเสนอกองทุนภาษี (Tag Saving Fund) หลังจากที่ นายพิชัย ชุณหวชิร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เปิดทางในการนำกองทุน LTF กลับมาช่วยฟื้นตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง
ด้านนางชวินดา หาญรัตนกูล นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) กล่าวว่า ในวันที่ 21 พ.ค.นี้ สมาคมเตรียมนำข้อสรุปทิศทางในการนำเสนอกองทุนรวมลดหย่อนภาษี (Tax Saving Funds) เพื่อหารือร่วมกับกับ FETCO และสำนักงานคณะกรรมการกำกับตลาดหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในตลาดทุน โดยยกเป็นวาระสำคัญเพื่อหนุนตลาดทุนไทยเติบโตอีกครั้ง โดยหวังว่าจะได้ข้อสรุปร่วมกันและเตรียมนำเสนอกับทางภาครัฐให้เร็วที่สุด
หลังจากเมื่อวันที่ 16 พ.ค.2567 ทางสมาคมได้หารือร่วมกันเกี่ยวกับ Tax Saving Funds หลังจากนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ส่งสัญญาณรื้อฟื้นกองทุน LTF ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจในทุกๆ มิติ ทั้งรากหญ้า การท่องเที่ยว รวมทั้งตลาดทุนไทยที่จะสะท้อนมาสู่เศรษฐกิจส่วนอื่นๆ และในธุรกิจอื่นตามมา
สำหรับข้อเสนอ Tax Saving Funds สมาคมมีความต้องการให้ถูกขับเคลื่อนได้อย่างรวดเร็วภายในปีนี้ ซึ่งเชื่อว่านักลงทุนสถาบัน และนักลงทุนทั่วไปพร้อมอยู่แล้ว ซึ่งข้อเสนอดังกล่าวจะเป็นประโยชน์กับเศรษฐกิจประเทศ และเป็นประโยชน์กับตลาดทุนไทย