posttoday

MGI จ่อแตกไลน์ธุรกิจ ลงสนาม “คลินิกความงาม-ชะลอวัย” ปลายปีนี้ ดันรายได้พุ่ง

05 กรกฎาคม 2567

MGI กางแผนครึ่งหลังปี 67 เล็งแตกไลน์ธุรกิจ “คลินิกความงาม และชะลอวัย” คาดเริ่มได้ปลายปี 67 หนุนสัดส่วนรายได้ขายสินค้าเกิน 50% ออกสินค้าใหม่ ซีรีส์ใหม่ คอนเสิร์ตใหญ่ ดันรายได้ปี 67 พุ่ง 100% แตะ 1,200-1,300 ล้านบาท ลั่นลงทุน SABUY ไม่กระทบงบกำไรขาดทุน เหตุบันทึกบัญชีลงทุน

นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MGI เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 คาดรายได้จะเติบโตกว่า 100% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทเตรียมทำคลินิกความงาม และชะลอวัย ซึ่งเป็นการดำเนินงานโดยบริษัทเอง ไม่มีการร่วมทุน ส่งผลให้รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้น      

ทั้งนี้ คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในปลายปี 2567 โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างดูสถานที่ตั้ง น่าจะอยู่ในย่านทาวน์อินทาวน์ ใกล้กับออฟฟิศใหม่ของบริษัท ซึ่งจะมีการย้ายเข้าไปในช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย.นี้ และคาดว่าใช้เงินลงทุน (ไม่รวมที่ดิน) ประมาณ 30 ล้านบาท  

นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนออกสินค้าใหม่ จากปัจจุบันที่มีอยู่กว่า 40 รายการ โดยสินค้าที่ขายดีอันดับ 1 นํ้าพริกปลาสลิด ตรานางงาม อันดับ 2 NangNgam Sun Screen Serum อันดับ 3 นํ้าหอม 4 กลิ่น ตราฟินเวอร์ อันดับ 4 NangNgam Neck Serum และอันดับ 5 NangNgam Anti-Melasma & Dark Spot Cream 

รวมทั้งการร่วมทุนกับ บริษัท คาร์มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ KAMART จัดตั้ง บริษัท เคเอ็มจีไอ จำกัด ถือหุ้นฝ่ายละ 50% ออกสินค้าภายใต้แบรนด์ BEAUTILOX ซึ่งจะมีการนำสินค้าไปวางจำหน่ายที่ 7-11 จำนวน 3,000 สาขา ในเดือน ส.ค.นี้  เพิ่มเติมจากช่องทางจำหน่ายของวัตสัน และ EVEANDBOY   

ขณะเดียวกัน ยังมีซีรีส์ที่เตรียมจะออกอากาศอีก 2 เรื่อง ในช่วงไตรมาส 3-4/2567 ได้แก่ หยดฝนกลิ่นสนิม นำแสดงโดย อิงฟ้าและชาลอต ส่วนอีกเรื่อง นำแสดงโดย อุ้มและมีนา และคอนเสิร์ตใหญ่ของอิงฟ้าและชาลอต ในช่วงปลายปีนี้ รวมทั้งโอ'เดซี่ (O'Daisy) ซึ่งเป็นศิลปิน T-POP กลุ่มหญิงที่มีสมาชิกจำนวน 8 คน ภายใต้สังกัดมิสแกรนด์อินเตอร์เนชันแนล โดยจะมีงานแรกที่ จ.เชียงใหม่ ในเดือน ก.ค.นี้ 

สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2567 คาดว่ารายได้จะเติบโตดีจากไตรมาสเดียวกันปีก่อน และไตรมาสก่อน จากการรับรู้รายได้ที่มากขึ้นจากธุรกิจต่างๆ ส่งผลให้รายได้ในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 เติบโตกว่า 100% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ดังนั้นเมื่อรวมกับผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังดังกล่าว คาดว่าปี 2567 จะมีรายได้อยู่ที่ 1,200-1,300 ล้านบาท เติบโตกว่า 100% จากปีก่อน ที่มีรายได้อยู่ที่ 617.04 ล้านบาท 

โดยแบ่งเป็นสัดส่วนรายได้จากธุรกิจนางงาม 15% รายได้จากธุรกิจบริหารจัดการศิลปิน 15% รายได้จากการขายสินค้า (Commerce) 48% ตั้งเป้าหมายมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 50% ภายในปีนี้ ส่วนหนึ่งจากรายได้คลินิกความงาม และชะลอวัยที่จะเข้ามาเสริม ส่วนที่เหลือเป็นรายได้อื่นๆ ประมาณ 20%

“ในปี 2566 รายได้รวมของบริษัทอยู่ที่ประมาณ 600 ล้านบาท เป็นรายได้จากการขานสินค้ากว่า 400 ล้านบาท โดยเฉพาะในช่องทาง TikTok ที่สามารถสร้างยอดขายเฉลี่ย 25 ล้านบาท/เดือน รวมทั้งปีประมาณ 300 ล้านบาท ยังไม่รวมช่องทาง Facebook ขายตรง และช่องทางจำหน่ายอื่นๆ” นายณวัฒน์ กล่าว 

ส่วนกรณีการเข้าถือหุ้น บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY จำนวน 30 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 1.7% นั้น บริษัทบักทึกบัญชีเป็นการลงทุน ดังนั้นจะไม่เกี่ยวข้องและไม่มีผลกระทบกับงบกำไรขาดทุนของบริษัทแต่อย่างใด