SBNEXT แจ้งปมนำสินทรัพย์ค้ำประกันกลุ่ม SABUY-ใช้เงินกู้ผิดวัตถุประสงค์
SBNEXT ชี้แจง ก.ล.ต. กรณีนำสินทรัพย์ไปค้ำประกันให้กลุ่ม SABUY มีกรรมการฝั่ง SABUY ร่วมอนุมัติ เร่งดำเนินการแก้ไขให้แล้วเสร็จภายใน ต.ค.67 ส่วนกรณีใช้เงินกู้ผิดวัตถุประสงค์ นำไปซื้อหุ้น SABUY-AMATA-AS-PTECH-SINGER-SVT ไม่มีการรายงานฐานะในบัญชีเงินลงทุน
นายเอกรัตน์ แจ้งอยู่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สบาย คอนเน็กซ์ เทค จำกัด (มหาชน) หรือ SBNEXT เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) ได้มีจดหมาย ลงวันที่ 3 ก.ค.2567 ถึงบริษัทเพื่อขอให้บริษัทชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรณีผู้สอบบัญชีไม่ให้ข้อสรุปต่องบการเงินไตรมาส 1/2567 นั้น บริษัทขอชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติม ดังนี้
1.กรณี SBNEXT ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์รายการที่เกี่ยวโยงกัน กรณีการกู้ยืมเงินจากบุคคลที่เกี่ยวโยงกัน และการนําสินทรัพย์ของ SBNEXT ไปค้ำประกันให้บุคคลที่เกี่ยวโยงกัน
ฝ่ายจัดการไม่ได้นำเสนอข้อมูลการเข้าทำรายการดังกล่าวระหว่างบริษัทกับบุคคล หรือนิติบุคคลที่เกี่ยวโยงกันให้แก่คณะกรรมการตรวจสอบ และคณะกรรมการบริษัททราบก่อนเข้าทำรายการเกี่ยวโยงกันดังกล่าว
ทั้งนี้ เกิดรายการทั้งสิ้น 7 รายการ ประกอบด้วย
รายการที่ 1 บริษัทกู้ยืมจาก บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY จำนวนประมาณ 889 ล้านบาท วันที่เกิดรายการระหว่าง มี.ค. 2566 - มี.ค. 2567
รายการที่ 2 บริษัทนำหุ้นสามัญที่บริษัทถืออยู่ใน SABUY จำนวน 19,047,620 หุ้น มูลค่าไม่เกิน 100 ล้านบาท ไปค้ำประกันตามสัญญาจ้างผลิตบัตรพลาสติก และให้บริการเครื่องพิมพ์บัตรพลาสติก และระบบบริหารจัดเก็บคลังสินค้า ระหว่าง บริษัท ที่.เค.เอส. สยามเพรส แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ TKS กับ บริษัท พลัส เทค อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PTECH และบริษัท วันที่เกิดรายการ 20 ต.ค. 2566
รายการที่ 3 บริษัทนำหุ้นสามัญที่บริษัทถืออยู่ใน SABUY จำนวน 11,050,000 หุ้น ไปเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันร่วมกับ SABUY สำหรับเงินกู้ยืมกับธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB วันที่เกิดรายการ 24 ม.ค. 2567
รายการที่ 4 การจดจำนองที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างเพื่อค้ำประกันธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ให้กับ SABUY จำนวน 100 ล้านบาท วันที่เกิดรายการ 27 ก.พ. 2567
รายการที่ 5 บริษัทเข้าทำสัญญาเงินกู้ยืมระยะสั้นจากบุคคลอื่นจำนวน 50 ล้านบาท โดยมีหลักประกัน คือ (1) การจำนำหุ้นที่ SBNEXT ถืออยู่ใน SABUY จำนวน 22,140,000 หุ้น และ (2) นายชูเกียรติ รุจนพรพจี เป็นผู้ค้ำประกันหนี้ดังกล่าว วันที่เกิดรายการ 28 ก.พ. 2567
รายการที่ 6 บริษัทกู้ยืมเงินจาก บริษัท นครหลวง แคปปีตอล จำกัด (มหาชน) จำนวนเงิน 45 ล้านบาท วันที่เกิดรายการ 4 มี.ค. 2567
รายการที่ 7 เงินกู้ยืมของบริษัทจาก บริษัท ลอคบอกซ์ กรุ๊ป จำกัด จำนวนเงิน 30 ล้านบาท โดยมีการให้หลักประกัน คือ (1) การจำนำหุ้นที่ SBNEXT ถืออยู่ใน SABUY จำนวน 20 ล้านหุ้น และ (2) นายชูเกียรติ รุจนพรพจี เป็นผู้ค้ำประกันหนี้ดังกล่าว วันที่เกิดรายการ 14 มี.ค. 2567
ทั้งนี้ แต่ละรายการมีรายชื่อบุคคลที่เกี่ยวข้องเป็นคณะกรรมการบริหาร เป็นคณะกรรมการตรวจสอบความเสี่ยง และเป็นคณะกรรมการบริษัททั้งซ้ำชุดบุคคลและต่างบุคคลออกไปในแต่ละรายการและบางหลายการมีหลายวาระ ซึ่งรวบรวมเฉพาะกรรมการบริหารใน 7 รายการ (กรรมการ 1 คนอาจเกี่ยวโยงมากกว่า 1 รายการ) มีรายชื่อ ดังนี้
ตัวแทน SABUY ได้แก่ นายชูเกียรติ รุจนพรพจี, นายวรานนท์ คงปฏิมากร, นายพรวิทย์ ไหลท่วมทวีกุล, นายกิตติพล ฐานะสิทธิ์, นายวชิรธร คงสุข, นางสาวภรัณยา รุจนพรพจี, นางสาวทัศน์วรรณ บุญอนันต์, นายวิรัช มรกตกาล และนายณัฐตภาคย์ นวลแก้ว (นายณัฐตภาคย์ นวลแก้ว เป็นผู้เข้าร่วมประชุมในฐานะผู้นําเสนอบางวาระ) ส่วนตัวแทนที่ไม่ใช่ฝั่ง SABUY ได้แก่ นายเอกรัตน์ แจ้งอยู่ และนายสุภกิจ วรรธนะดิษฐ์
อย่างไรก็ตาม พบว่าทั้ง 7 รายการล้วนมีผู้บริหารฝั่งตัวแทน SABUY เกี่ยวข้องในการประชุมด้วยทั้งสิ้น
สำหรับความคืบหน้าและระยะเวลาในการดำเนินการแก้ไขรายการดังกล่าวให้มีความถูกต้องตามหลักเกณฑ์รายการที่เกี่ยวโยงกัน บริษัทได้กำหนดระยะเวลาในการดำเนินการแก้ไขให้แล้วเสร็จภายในเดือน ต.ค.2567 โดยบริษัทจะดำเนินการจัดจ้างที่ปรึกษากฎหมาย, จัดจ้างที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ (เพื่อให้ขอความเห็นต่อการเข้าทำรายการ) และจัดให้มีการประชุมผู้ถือหุ้นเพื่ออนุมัติ หรือให้สัตยาบันต่อการเข้าทำรายการดังกล่าวให้ถูกต้อง
2.การนําเงินกู้ยืม SABUY สถาบันการเงิน และบุคคลอื่นไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ โดยนําไปลงทุนในหลักทรัพย์
ช่วงระยะเวลาตามที่มีการลงทุนนั้น บริษัทยังมิได้มีการกำหนดนโยบายการกู้ยืมเงินเพื่อลงทุน แต่มีการอนุมัติเปิดวงเงิน Credit balance อ้างอิงจากมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 3/2566 เมื่อวันที่ 24 ก.พ.2566 คณะกรรมการบริษัทได้มีการอนุมัติการเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์โดยมีประเภทบัญชีที่ต้องการเปิดได้แก่ Cash, Cash balance, Credit balance โดยมีวงเงินที่ต้องการซื้อขายไม่เกิน 400 ล้านบาท
โดยพบการทำรายการซื้อขายเกินกรอบนโยบายการลงทุนในบางวัน ซึ่งกำหนดให้ไม่เกิน 50 ล้านบาทต่อรายการ และจำนวนเงินซื้อ/ลงทุนรวมสูงสุดไม่เกิน 100 ล้านบาทต่อวัน โดยรายละเอียดดังกล่าวและปริมาณการซื้อขายหุ้น SABUY ของบริษัท
ไม่มีการรายงานฐานะในบัญชีเงินลงทุนและผลการบริหารบัญชีเงินลงทุนให้คณะกรรมการบริษัททราบทุกไตรมาส และไม่มีการรายงานฐานะในบัญชีเงินลงทุนและผลการบริหารบัญชีเงินลงทุนต่อคณะกรรมการลงทุนทราบทุกเดือน
ชื่อผู้อนุมัติการซื้อขายหลักทรัพย์ที่ SBNEXT เข้าลงทุนในแต่ละครั้ง คือ นายวรานนท์ คงปฏิมากร หรือนายกิตติพล ฐานะสิทธิ์
สำหรับสัดส่วนการลงทุนในหุ้นต่างๆ ได้แก่ SABUY 87.90%, AMATA 0.68%, AS 0.40%, PTECH 0.01%, SINGER 6.28% และ SVT 4.74%
การเข้าลงทุนไม่สอดคล้องกับอำนาจการตัดสินใจลงทุนและวงเงินที่กำหนดไว้ เนื่องจากไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ รวมถึงบริษัทและผู้ถือหุ้นรายย่อยไม่ได้รับกำไรจากการขายหลักทรัพย์ หรือมีอำนาจการควบคุม อีกทั้งไม่มีการปฏิบัติตาม นโยบาย STOP Loss Limit ที่กำหนดไว้ที่ 30% และไม่มีการรายงานการเคลื่อนไหวของรายการหุ้นในพอร์ตให้กับคณะกรรมการบริษัทให้รับทราบ
ฝ่ายจัดการคณะกรรมการตรวจสอบ และคณะกรรมการบริษัทที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในปัจจุบัน ทราบถึงการทำรายการที่เกี่ยวโยงดังกล่าว ในวันที่ 6, 14, 20 มิ.ย.2567 เนื่องจากได้รับหนังสือจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้ชี้แจงข้อเท็จจริง ซึ่งผู้บริหารชุดปัจจุบันยังไม่ได้รับ Username & Password และข้อมูลการซื้อขายหลักทรัพย์ จึงไม่ได้มีการรายงานการได้มาหรือจำหน่ายหลักทรัพย์ (แบบ 246-2) ของ SABUY
3.การเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสําคัญของผลขาดทุนด้านเครดิต
คณะกรรมการตรวจสอบ และคณะกรรมการบริษัทพิจารณาแล้วมีความเห็น ควรปรับปรุงกระบวนการ โดยให้ฝ่ายจัดการดำเนินการดังนี้ แต่งตั้งคณะทำงานการตัดหนี้สูญ, ปรับปรุงนโยบายการตัดหนี้สูญเพื่อกำหนดเป็นมาตรฐานของบริษัท เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นอีก และกำหนดให้มีการรายงานต่อคณะกรรมการตรวจสอบและคณะกรรมการบริษัท เป็นประจำทุกเดือน