ผ่าดีลประวัติศาสตร์ 1.4 ล้านล้าน "สารัชถ์"นั่งแท่นเจ้าพ่อโครงสร้างพื้นฐาน
คิดใหญ่ ไม่คิดเล็ก! "สารัชถ์ รัตนาวะดี" เปิดตัวสุดอลังการ จับยักษ์รวมเป็นหนึ่ง "GULF ควบรวม INTUCH" พ่วงซื้อ "ADVANC-THCOM" ขึ้นแท่นเจ้าพ่อโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ มาร์เก็ตแคปส์รวม 1,406,728.4 ล้านบาท
กลายเป็นประเด็นทอล์คออฟเดอะทาวน์อีกครั้ง กับ ดีลประวัติศาสตร์สุดอลังการ เมื่อบริษัทโรงไฟฟ้ายักษ์ใหญ่อย่าง "GULF" ประกาศควบรวมกลุ่มเจ้าพ่อไอซีที "INTUCH" ก่อนตั้งบริษัทใหม่(NewCo)ในไตรมาส 2/2568 เพื่อเข้ามาเทรดในตลาดหุ้นไทย ก่อนที่ GULF และ INTUCH จะออกจากตลาด
การจัดสรรหุ้นใน NewCo ถือว่าไม่ยาก เพราะ 1 หุ้น GULF ต่อ 1.02974 หุ้นใน NewCo และ 1 หุ้น INTUCH ต่อ 1.69335 หุ้นใน NewCo (ไม่รวมหุ้น 47.37% ใน INTUCH ที่ GULF ถือ เพราะได้รับการจัดสรรโดยตรงให้แก่ผู้ถือหุ้น GULF) พ่วงปันผลพิเศษ INTUCH อีก 4.5 บาทต่อหุ้น พร้อมตั้งโต๊ะรับซื้อหุ้น ADVANC ที่ราคา 216.3 บาท/หุ้น มูลค่ารวมประมาณ 116,601 ล้านบาท และ ซื้อ THCOM ที่ราคา 11 บาท/หุ้น มูลค่ารวมประมาณ 6,976 ล้านบาท
แม้ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะ GULF ถือลงทุนหุ้นในกลุ่ม INTUCH อยู่แล้ว แต่..นี่คือเรื่องที่ใหญ่มากต่างหาก เพราะเป็นการรวมตัวของกลุ่มบริษัทที่ถือเป็นเจ้าพ่อด้านโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทยเลยทีเดียว
ถามว่าใหญ่ขนาดไหน ?
หากพิจารณาจากมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด(Market Caps.) ณ วันที่ 16 ก.ค.2567 ของยักษ์ใหญ่ทั้งสี่ "GULF - INTUCH - ADVANC - THCOM" มูลค่ารวม 1,406,728.4 ล้านบาท
โดย GULF ณ ราคาปิด 42 บาท Market Caps. 495,725.59 ล้านบาท , INTUCH ราคาปิด 76.25 บาท Market Caps. 244,509.94 ล้านบาท , ADVANC ราคาปิด 220 บาท Market Caps. 654,326.14 ล้านบาท และ THCOM ราคาปิด 11.10 บาท Market Caps. 12,166.73 ล้านบาท
"สารัชถ์ รัตนาวะดี" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ยอมรับว่าการควบรวมครั้งนี้จะทำให้การบริหารจัดการของบริษัทภายในกลุ่มทั้งหมดมีความเข้มแข็งและชัดเจนมากขึ้น
และด้วยความที่เป็นธุรกรรมควบรวมขนาดใหญ่ มีบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ทั้งในไทยและสิงคโปร์เกี่ยวข้องด้วยถึง 5 บริษัท ได้แก่ GULF, INTUCH, ADVANC THCOM และ Singtel เป็นธุรกรรมที่มีความซับซ้อนและละเอียดอ่อนต้องคำนึงถึงผลกระทบในทุกๆด้าน และผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นทุกๆฝ่ายทั้งผู้ถือหุ้นรายย่อย ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ สถาบันการเงิน และกองทุนต่างๆ โดยคาดว่าธุรกรรมการควบรวม (amalgamation) ระหว่าง GULF และ INTUCH จะมีการจัดตั้งบริษัทใหม่ (NewCo) ในไตรมาส 2/2568 โดยมี บล.บัวหลวง และ UBS AG Singapore Branch เป็นที่ปรึกษาในธุรกรรมนี้
"GULF คือผู้นำด้านธุรกิจพลังงาน มุ่งมั่นที่จะขยายไปสู่ธุรกิจพลังงานหมุนเวียน และ INTUCH ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใน ADVANC ผู้นำด้านโทรคมนาคมของประเทศไทย เน้นต่อยอดธุรกิจดิจิทัลมากขึ้น"
สิ่งที่ต้องตามต่อ ก็คือ ขั้นตอนการทำธุรกรรมต่อจากนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่ง "ทีมข่าวโพสต์ทูเดย์" รวมมาให้ดังรูปด้านล่างนี้
ถามว่า..นักลงทุนควรซื้อ - ถือ หรือ ขาย ?
ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส แนะนำสำหรับนักลงทุนที่ถือหุ้น ADVANC และ THCOM มองว่าราคาเสนอซื้อ ADVANC ที่ 216.3 บาท และ THCOM ที่ 11 บาทนั้นยังไม่จูงใจ เนื่องจากเป็นราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาด จึงไม่แนะนำให้รับคำเสนอซื้อ
ข้อสอง นักลงทุนที่ถือหุ้น INTUCH หรือ GULF มี 2 ทางเลือก คือ หากต้องการจะแลกหุ้นเป็นหุ้นในบริษัทใหม่ จะต้องถือหุ้นไปก่อนจนถึงไตรมาส 2/2568 หรือ หากไม่ต้องการจะแลกหุ้นไปเป็นบริษัทใหม่ ต้องขายหุ้นออกไปในกระดานซื้อขายฯเอง ก่อนที่จะมีการควบรวม เนื่องจากบริษัทเดิมจะถูกเพิกถอนออกจาก ตลท.
และ ข้อสุดท้าย คือ นักลงทุนที่ยังไม่ได้ถือหุ้น INTUCH หรือ GULF หากต้องการจะถือหุ้นในบริษัทใหม่ แนะนำให้ “ซื้อ” GULF เพื่อนำไปแปลงเป็นบริษัทใหม่ เพราะหากอิงราคาหุ้นปัจจุบันของทั้ง INTUCH , GULF และอัตราการแปลงหุ้นแล้วพบว่า การแปลงหุ้นจาก GULF ไปเป็นบริษัทใหม่ ยังมีต้นทุนที่ต่ำกว่าการแปลงจากหุ้น INTUCH ไปเป็นบริษัทใหม่
อย่างไรก็ดี ADVANC เป็นหุ้น Top picks ของกลุ่มไอซีที เพราะเป็นหุ้นที่คาดมีกำไรปี 2567 เติบโต, ราคาหุ้นยังมี upside และมีปันผลที่จูงใจ
"GULF - ADVANC" หนึ่งเดียวในใจ
ฝ่ายวิเคราะห์ บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มีมุมมองเป็นบวกต่อ "GULF" ที่มี 4 ประเด็นสำคัญดังนี้ 1) ส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นจาก 1.4 แสนล้านบาท เป็น 2.7 แสนล้านบาท (อิงงบการเงินสิ้นปี 66) ช่วยให้ Net IBD/E ลดลงทันทีจาก 1.7 เท่า เหลือ 0.9 เท่า ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการก่อหนี้เพื่อขยายธุรกิจอีกมากในอนาคต (ปัจจุบัน GULF มีแผนลงทุนที่เปิดเผยแล้ว 9 หมื่นล้านบาทใน 5 ปีข้างหน้า โดย 95% เป็นธุรกิจโรงไฟฟ้า)
2) กระแสเงินสดจากเงินปันผลจาก ADVANC จะเพิ่มขึ้นทันทีเป็น 1 หมื่นล้านบาทต่อปี (จากเดิมที่ต้องรับผ่าน INTUCH 4.8 พันล้านบาทต่อปี) 3) คาดลดค่าใช้จ่ายดำเนินงานได้บางส่วน (ปัจจุบัน INTUCH มีค่าใช้จ่ายดำเนินงาน 140 ล้านบาทต่อปี)
และ 4) Singtel ร่วมถือหุ้นด้วย 9% (จากเดิมไม่ได้ถือหุ้น GULF) น่าจะช่วยขยายธุรกิจดิจิทัลอีกมากในอนาคต คงคำแนะนำ“ซื้อ”ราคาเป้าหมาย 56.50 บาท และมอง GULF เป็นหุ้นเด่นต่อเนื่อง โดยจะทบทวนราคาเป้าหมายอีกครั้ง ภายหลังมีความชัดเจนต่อแผนธุรกิจของ NewCo
ขณะที่ "INTUCH" ซึ่งเป็น Holding Company โดยมีรายได้และกำไรหลักมาจากการถือหุ้น ADVANC ที่ 40.44% ซึ่งการควบรวมกับ GULF จะทำให้ Newco มีธุรกิจหลัก คือ "โรงไฟฟ้า" ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างรายได้และกำไรมากกว่าการเป็น Holding Company และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายของ INTUCH ราว 140 ล้านบาท/ปี
ด้วยราคาปิด INTUCH เมื่อวานอยู่ที่ 76.25 บาท และคาดจะได้รับเงินปันผล 1H67 ที่ 2 บาท รวมถึงเงินปันผลพิเศษก่อนควบรวม GULF ที่ 4.50 บาท เมื่อหักรายการเงินปันผลที่ INTUCH จะจ่ายออกไปก่อนควบรวมทำให้ราคา INTUCH ปัจจุบันเทียบเท่าราคา Newco ที่ 41.19 บาท เมื่อเทียบกับราคา GULF ซึ่งมีราคาปิดเมื่อวานที่ 42.25 บาท เทียบเท่ากับราคา Newco ที่ 41.03 บาท ถือว่า "สัดส่วนหุ้นที่ INTUCH ควบรวมกับ GULF เป็น Newco เสียเปรียบ GULF เพียงเล็กน้อย" แต่ช่วยเพิ่มฐานรายได้และกำไร มากกว่า การเป็น Holding Company เพียงอย่างเดียวในปัจจุบัน ซึ่งไม่มีธุรกิจหลักเป็นของตนเองรวมถึงมีค่าใช้จ่ายปีละราว 140 บาท และ INTUCH จะไม่ต้องถูกซื้อขายในราคาที่มี discount จาก ราคา ADVANC ในปัจจุบันอีกต่อไป ถือเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญของราคาหุ้น INTUCH ในวันนี้
การทำคำเสนอซื้อ ADVANC ที่ราคา 216.30 บาท และ THCOM ที่ 11 บาท ต่ำกว่าราคาปิดเมื่อวานนี้ ADVANC ที่ 220 บาท และ THCOM ที่ 11.10 บาท ประกอบกับข่าวเชิงบวกจากการควบรวมระหว่าง GULF และ INTUCH คาดว่าผู้ถือหุ้น ADVANC และ THCOM จะเข้ามาใช้สิทธิ์เพียงเล็กน้อย
ส่วนการควบรวมของบริษัทแม่ "INTUCH และ GULF" เป็น Newco จะช่วยต่อยอดธุรกิจ ICT และที่เกี่ยวข้องกับ AI ในอนาคต อาทิ บริการ Cloud และ Data Center รวมถึง Virtual Banking
ฝ่ายวิเคราะห์ยืนยันคำแนะนำซื้อหุ้น INTUCH ราคาเป้าหมาย 84 บาท และ ADVANC ราคาเป้าหมาย 250 บาท รวมถึงซื้อเก็งกำไร THCOM ราคาเป้าหมาย 13 บาท โดยเลือก "ADVANC" เป็น Top pick กลุ่ม ทั้งนี้มีโอกาสทบทวนปรับเพิ่มราคาเป้าหมายของ INTUCH และ ADVANC ในอนาคต