“GFC” ดีเดย์เปิดรักษาผู้มีบุตรยากสาขาอุบลราชธานีในเดือนสิงหาคมนี้
“GFC” เตรียมเปิดบริการรักษาผู้มีบุตรยากสาขาอุบลราชธานีภายในเดือนสิงหาคมนี้ ปลื้ม!ผู้เข้ารับการรักษามีบุตรยากรับปีมังกรขยายตัวหนุนผลงานครึ่งปีแรกมีกำไร 46.22 ล้านบาท พร้อมปันผลระหว่างกาล 0.10 บาทต่อหุ้น ขึ้น XD วันที่ 27 สิงหาคม 2567
นายกรพัส อัจฉริยมานีกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ GFC ผู้ให้บริการทางการแพทย์สำหรับผู้มีปัญหามีบุตรยากแบบครบวงจร เปิดเผยว่า ความคืบหน้าเปิดให้บริการรักษาผู้มีบุตรยาก สาขาอุบลราชธานี คาดเปิดให้บริการภายในเดือนสิงหาคม 2567
ขณะที่ สาขาพระราม 9 อินเตอร์เนชั่นแนล อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมสำหรับเปิดให้บริการ เพื่อรองรับและตอบโจทย์ผู้ใช้บริการที่เข้ารับการรักษาผู้มีบุตรยากทั้งคนไทยและต่างชาติ ให้ครอบคลุมทุกมิติ ภายใต้รูปแบบการให้บริการตั้งแต่การรับบริการตรวจหาสาเหตุเบื้องต้น, การรักษาด้วยวิธี IUI, การรักษาด้วยวิธี ICSI, การตรวจพันธุกรรมของตัวอ่อน PGT-A และการฝากไข่ (Egg Freezing) ซึ่งทั้ง 2 สาขา ถือเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่บนทำเลทองใกล้สนามบินที่อำนวยความสะดวกให้กับผู้เข้ารับการรักษาทั้งกลุ่มลูกค้าคนไทยและต่างชาติได้ง่ายขึ้น
สำหรับผลการดำเนินงานงวดครึ่งแรกของปี 2567 บริษัทมีกำไรสุทธิส่วนของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่ที่ 46.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.89 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้น 34.61%(YoY) และมีรายได้จากการให้บริการ 191 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้น 14.37%(YoY) โดยปัจจัยที่สนับสนุนให้ตัวเลขกำไรเติบโตอย่างโดดเด่น มาจากจำนวนผู้มีบุตรยากที่เข้ามารับการรักษาเพิ่มขึ้น เนื่องจากความเชื่อเรื่องการมีบุตรในปีมังกร ทำให้มีผู้เข้ารับบริการเพื่อให้มีลูกและคลอดในปีนี้เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันมาเข้าใช้บริการฝากไข่ที่เพิ่มขึ้น สอดรับกับมีจำนวนรอบของการเก็บไข่ในครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้น 2.6%
“ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2567 มีรายได้จากการให้บริการ 82.11ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.26ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้น 1.57% และมีกำไรสุทธิส่วนของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่ที่ 17.47ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.07ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้น 13.48%”
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล โดยจัดสรรกำไรสุทธิจากผลการดำเนินงานของบริษัทตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 ถึง วันที่ 30 มิถุนายน 2567 ให้แก่ ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท รวมเป็นจำนวนเงินปันผลทั้งสิ้น 22 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นถึงผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างโดดเด่น
โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับปันผลระหว่างกาล(Record date) ในวันที่ 28 สิงหาคม 2567 และกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) 27 สิงหาคม 2567 เพื่อจ่ายเงินปันผล ในวันที่ 13 กันยายน 2567