posttoday

รู้ก่อนซื้อ! กองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่ง - 3 โบรกเปิดโผหุ้นน่าซื้อ

09 กันยายน 2567

"วายุภักษ์หนึ่ง" ความเสี่ยงระดับ 5 ผลตอบแทน 10ปีแรก 3-9% ปันผลปีละ 2 ครั้ง คุ้มครองเงินต้นถ้าถือครบเงื่อนไข รายย่อยซื้อขั้นต่ำ 10,000 บาท ขาย 16-20 กันยายนนี้ "3 โบรก" เสิร์ฟหุ้นเข้าตา ชูกองเดิมถือเยอะ ESG ระดับ AAA จังหวะย่อน่าซื้อ

     บทสรุปสาระสำคัญ "หนังสือชี้ชวนกองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่ง" (Vayupak Fund 1) และ Factsheet จัดทำโดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เผยแพร่ ณ วันที่ 6 ก.ย.67 มีรายละเอียดดังนี้

     "กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง" มีนโยบายลงทุนทั้งเชิงรุก และเชิงรับ มีระดับความเสี่ยงปานกลางค่อนข้างสูง (อยู่ระดับ 5 จากต่ำสุดคือ 1 สูงสุดคือ 8)

     นโยบายลงทุน คือ

     1.หลักทรัพย์สภาพคล่อง อาทิ ตราสารภาครัฐ ตราสารหนี้ระยะสั้น ตราสารการเงิน หรือตราสารเทียบเท่าเงินฝาก ที่เสนอขายทั้งใน และต่างประเทศ ตลอดจนเงินฝาก

     2.หลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ทรัสต์เพื่อการลงทุน กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ทรัสต์เพื่อการลงทุน รวมถึงการลงทุนในหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ หน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ ตราสารของกองทุนอสังหาริมทรัพย์ต่างประเทศ

     3.หลักทรัพย์อื่นของบริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าที่สามารถลงทุนได้ และ/หรือตราสารหนี้ที่ไม่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ

     นอกจากนี้ กองทุนรวมอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงหรือลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารกองทุน

สัดส่วนการลงทุนแบ่งออกเป็นประเภทหลักทรัพย์ต่างๆ ตามข้อมูล ณ วันที่ 30 สิงหาคม 2567 ดังนี้

     1. หุ้นสามัญ 88.36% ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ (NAV)
     2. พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย 7.01%
     3. ตั๋วเงินคลัง 1.48%
     4. เงินฝากธนาคาร 1.07%
     5. หุ้นกู้ 0.62%
     6. สินทรัพย์ และหนี้สินอื่นๆ 0.45%
     7. หน่วยลงทุนตราสารทุน 0.32%
     8. พันธบัตรรัฐบาล 0.27%
     9. หน่วยลงทุนในกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน 0.18%
     10. ตั๋วแลกเงิน 0.16%
     11. หุ้นบุริมสิทธิ 0.05%
     12. ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น 0.02%

     สำหรับเฉพาะหลักทรัพย์ในตลาดหุ้นไทยปัจจุบัน 5 อันดับแรกที่ลงทุนมากที่สุด ดังนี้ บมจ. ปตท. (PTT) 35.07%, บมจ.เอสซีบี เอกซ์ (SCB) 25.03%, ธนาคารทหารไทยธนชาต จํากัด (มหาชน) หรือ TTB 5.54%, ธนาคารกรุงไทย จํากัด (มหาชน) หรือ KTB 3.36%, บมจ. บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) 3.03% (% เทียบกับสัดส่วน NAV รวม)

ชนิดหน่วยลงทุน และสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหน่วยลงทุนแยกตามชนิดของหน่วยลงทุนผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด ได้แก่ ผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ก. กับ ผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ข.

     ผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ก. หมายถึง ผู้ถือหน่วยลงทุนที่เป็นนักลงทุนทั่วไป เช่น นักลงทุนรายย่อย นักลงทุนสถาบัน นักลงทุนภาครัฐ สหกรณ์ มูลนิธิ และสมาคมต่างๆ เป็นต้น โดยบริษัทจัดการจะนำหน่วยลงทุนประเภท ก. เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งผู้ลงทุนสามารถซื้อขายหน่วยลงทุนประเภท ก. ได้ทุกวันทำการของตลาดหลักทรัพย์ฯ

     ผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ข. หมายถึง กระทรวงการคลัง และอาจประกอบด้วยนักลงทุนภาครัฐ โดยไม่จำกัดสัดส่วนการลงทุนของกระทรวงการคลัง ทั้งนี้ นักลงทุนภาครัฐ หมายถึงรัฐวิสาหกิจนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายเฉพาะที่มีวัตถุประสงค์ในการลงทุน เช่น กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ สำนักงานประกันสังคม เป็นต้นกองทุนที่จัดตั้งตามความจำเป็นของหน่วยงานรัฐหรือตามนโยบายของรัฐบาล โดยเป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยเงินคงคลังหรือกฎหมายว่าด้วยวิธีการประมาณ แล้วแต่กรณี

     แม้เป็นกองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่งมีนโยบายจ่ายเงินปันผล และไม่มีกำหนดอายุโครงการแต่สําหรับผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ก. มีระยะเวลาการลงทุนเบื้องต้น 10 ปี หากลงทุนระยะสั้นกว่านั้นละต้องการขายหน่วยลงทุนก่อนครบกำหนด สามารถขายหน่วยลงทุนได้ในตลาดหลักทรัพย์ฯ อย่างไรก็ตาม ราคาหน่วยลงทุนในตลาดอาจสูงหรือต่ำกว่ามูลค่าที่ตราไว้ (10 บาทต่อหน่วย)

     กองทุนวายุภักษ์ หนึ่ง เปิดให้จองซื้อสำหรับรายย่อยในช่วงเปิดเสนอขายเพียงครั้งเดียว โดยผู้ที่ต้องการลงทุนในหน่วยลงทุนประเภท ก. จะต้องทำการจองซื้อขั้นต่ำที่ 10,000 บาท หน่วยลงทุนประเภท ก. จะถูกจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อให้ผู้ถือสามารถซื้อขายได้ทุกวันทำการหลังจากจบช่วงการเสนอขาย

     ผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ก. นี้จะได้รับสิทธิในการจ่ายเงินปันผล อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง กำหนดอัตราผลตอบแทนขั้นต่ำ 3% ต่อปี และอัตราสูงสุด 9% ต่อปี ตลอดระยะเวลาการลงทุน 10 ปีแรก

     และผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ก. จะได้รับการคุ้มครองในกรณีที่กองทุนมีมูลค่าลดลง โดยผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ก. จะได้รับเงินคืนก่อนผู้ถือหน่วยประเภท ข.

     ส่วนผลตอบแทนของหน่วยลงทุนประเภท ข. จะถูกคำนวณจากผลตอบแทนที่เกิดขึ้นจริงของกองทุน หักลบด้วยผลตอบแทนของหน่วยลงทุนประเภท ก. ผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ข. อาจไม่ได้รับเงินปันผลหากไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้

 

สำหรับรายชื่อบริษัทจัดการ ผู้จัดจำหน่ายหน่วยลงทุน และผู้สนับสนุนการขายหน่วยลงทุน ประกอบด้วย

     บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนเอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) www.mfcfund.com โทร.02-649-2000 กด 0
     บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) www.ktam.co.th โทร.02-686-6100 กด 9
     บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด www.finansa.com โทร.02-697-3800
     ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) www.kasikornbank.com โทร.02-888-8888 ต่อ 869
     ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) www.bangkokbank.com โทร.1333 หรือ 02-645-5555 ตรวจสอบผลการจัดสรร กด *555
     ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) www.krungthai.com โทร.02-111-1111
     ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) www.krungsri.com โทร.1572
     ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) www.scb.co.th โทร.02-777-6784
     ธนาคารออมสิน www.gsb.or.th โทร.1115 กด 5

 

ช่วงเวลาการขายหน่วยลงทุนกองทุนวายุภักษ์ 1 ประเภท ก. ดังต่อไปนี้

16-20 ก.ย.67 เปิดขายหน่วยลงทุนประเภท ก. ให้ "ประชาชนรายย่อย" จองซื้อ
18-20 ก.ย.67 เปิดขายหน่วยลงทุนให้ "นักลงทุนสถาบัน"
23 ก.ย.67 ทราบผลการจัดสรรหน่วยลงทุน แบบ Small Lot First
1 ต.ค.67 กองทุนฯ เริ่มลงทุนในตลาดหุ้นไทย
15 ต.ค.67 หน่วยลงทุน VAYU1 เข้าซื้อขายในตลาดหุ้น

 

10 หุ้นจังหวะย่อน่าซื้อ

     ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า หุ้นที่กองทุนวายุภักดิ์เดิมถือเยอะ และมี ESG Rating AAA น่าสนใจย่อซื้อ ทั้ง PTT , BCP , KTB , ADVANC , SCC , KBANK , CRC , CPF , SCGP และ OR

     โดยวันนี้(9 ก.ย.67)ผู้บริหารกองทุนวายุภักษ์เตรียม Road Show เวลา 14.20 น. ผลตอบแทนขั้นต่ำ 3% และสูงสุด 9% ต่อปี ซึ่งผลตอบแทนสูงกว่า Bond Yield 10 ปีไทยที่ 2.55% คาดหวังเม็ดเงินไหลเข้าตลาดฯ 1.5 แสนล้านบาท 

     13 ก.ย. ตลท.เปิดเฮียริ่งปรับปรุงเกณฑ์รองรับกองทุนวายุภักษ์ 
     16-20 ก.ย. เสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. เปิดขายนักลงทุนทั่วไป
     18-20 ก.ย. เปิดขายให้กับนักลงทุนสถาบัน
     1 ต.ค. เปิดกองทุนวายุภักษ์เริ่มลงทุนในตลาดหุ้นไทย
     15 ต.ค. เข้าซื้อขายในตลาด

 

6 หุ้น Small & Mid Cap รับทรัพย์

     บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ระบุว่า VAYU1 เปิดกว้างให้ลงทุนในหุ้น Small & Mid Cap ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และมีคะแนน ESG สูง สำหรับหุ้นที่กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง จะเปิดกว้างให้มีการลงทุนในหุ้น Small & Mid Cap ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และมีคะแนน ESG สูง เพื่อเปิดกว้างให้กับผู้บริหารกองทุนต่างๆ ได้มีตัวเลือกในการเข้างลงทุนมากขึ้น จากเดิมมีข้อจำกัดการลงทุนเพียงแค่หุ้นในกลุ่ม SET50 หรือ SET100 เท่านั้น

     ฝ่ายวิเคราะห์ คัดหุ้น Small & Mid Cap ที่มีโอกาส outperform SET โดยเลือกจาก 1) หุ้น Small & Mid Cap ปรับขึ้นไม่มาก (% return) ตั้งแต่ SET ลงไปต่ำสุดครั้งสุดท้ายในวันที่ 6 ส.ค.67(SET Index = 1274 pts), และยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าระดับราคาในวันที่ SET จุดสูงสุดครั้งสุดท้าย วันที่ 3ม.ค.66(SET Index = 1679 pts)

     2) มี ESG rating สูง (A, AA, AAA) และ 3) มีปัจจัยพื้นฐานดี มีแนวโน้มเติบโตดีในช่วงปี 2025 และ จ่ายเงินปันผล Top picks หุ้น small & mid cap stocks คือ OSP, BGRIM , SJWD, CENTEL, SCGP, GPSC

 

23 หุ้นเป้าหมายวายุภักษ์

     บล.ฟินันเซีย ไซรัส คัดหุ้นที่คาดว่าจะเป็นเป้าหมายวายุภักษ์ โดยอ้างอิง หุ้นที่มี ESG Rating A ขึ้นไปสำหรับ SET100 และ AA ขึ้นไปสำหรับหุ้นนอก SET100 และ เน้นหุ้นที่มี Dividend Yield ราว 3% หรือสูงกว่า หรือหุ้นเติบโตดี (Dividend Yield อาจไม่ถึง 3%) ได้แก่...

ADVANC , AP , BAM , BBL , BCH , BDMS , BJC , CPALL , CPN , HMPRO , ICHI , INTUCH , KBANK , KTB , MEGA , MINT , OSP , SC , SIRI , TISCO , WHA , WHAUP , PR9