SET อัพไซด์ระยะสั้นถูกจำกัด แนะ “Selective Buy” ชู HANA และ AWC

บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) ประเมินว่า ดัชนีปรับขึ้นตอบรับการลดดอกเบี้ยของเฟด และเข้าใกล้โซนแนวต้านบริเวณ 1,460 และ 1,470 จุด ตามลำดับ ที่คาดว่ามี upside จำกัด ขณะที่หุ้นขนาดใหญ่ต่างๆ ที่ปรับขึ้นต่อเนื่องมา ก่อนหน้านี้ มี upside จำกัดเช่นกัน และกลุ่มธนาคารที่ได้รับ sentiment ลบ จาก NIM ที่ลดลง จากการลดดอกเบี้ย เป็นปัจจัยถ่วงตลาด ด้านแนวรับอยู่ที่ 1,440 และ 1,433 จุด หากต่ำกว่า เริ่มเป็นลบ

ทั้งนี้ ช่วงสั้นมอง SET ยังอยู่ในช่วงของการพักตัวและมี Upside จำกัด แต่อาจมีปัจจัยหนุนจากความคาดหวังการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ ซึ่งจะช่วยหนุนบรรยากาศลงทุนของตลาด สินทรัพย์เสี่ยงในระยะสั้นได้ อย่างไรก็ดี ต้องจับตาความแตกต่างด้านการดำเนินนโยบายของ BoJ ซึ่งอาจส่งผลต่อ Yen Carry Trade ที่อาจกระตุ้นแรงขายสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกได้ ท่ามกลางกระแสเงินในตลาด EM ที่ไม่ชัดเจน ทั้งนี้ในส่วนของตลาดหุ้นไทยมองจะมีเม็ดเงินลงทุนไหลเข้าในกลุ่ม Defensive อย่าง กลุ่มค้าปลีก กลุ่มการแพทย์ กลุ่มโรงไฟฟ้า ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ "Selective Buy“ ใน 3 ธีมหลัก ดังนี้

1. นักลงทุนที่ต้องการหุ้นเก็งกำไรซึ่งเทคนิคมีสัญญาณกลับตัว และ Valuation ยังไม่แพง โดยซื้อขายที่ PER และ PBV ต่ำกว่า -1SD แนะนำ AP GPSC MTC AMATA

2. นักลงทุนที่ต้องการหุ้นเก็งกำไรซึ่งคาดได้อานิสงส์จากแนวโน้มดอกเบี้ยขาลง แนะนำ กลุ่มเช่าซื้อ (MTC) กลุ่มอสังหาฯ (AP) กลุ่มค้าปลีก (CPALL CPAXT) กลุ่มโรงไฟฟ้า (GULF) กลุ่ม REITs (LHHOTEL DIF)

3. หุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากกองทุนวายุภักษ์รอบใหม่ โดยเลือกหุ้น SET100 ที่มีคุณสมบัติ 1) จ่ายเงินปันผลดี โดยให้ Dividend Yield ขั้นต่ำปีละ 3.5% 2) มี ESG Ratings สูงตั้งแต่ระดับ A-AAA และ CG ระดับ 5 ดาว และ 3) มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง และผล ประกอบการมีแนวโน้มเติบโตได้ในปี 2025 เลือก KTB BBL BCP ADVANC HMPRO

สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ HANA คาดได้ sentiment บวกจากการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี รวมถึงการเปิดจองไอโฟน 16 วันแรกในไทยที่ยังมีความต้องการสูง ประเมินผลประกอบการครึ่งหลังปี 2567 จะปรับตัว เพิ่มขึ้น HoH ตามอุปสงค์ผลิตภัณฑ์ที่แข็งแกร่ง จากวัฏจักรการเปลี่ยน smart phone โดยเฉพาะการเพิ่ม Al feature ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายด้วย PE ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยที่ 19.1 เท่า

AWC ผลประกอบการครึ่งหลังปี 2567 คาดยังจะเพิ่มขึ้นได้ YoY หนุนโดยการเพิ่มของรายได้ตาม ARR และมาร์จิ้นที่ขยายตัว และการเปิดโรงแรมใหม่เพิ่ม 3 แห่ง ทำให้จำนวนห้องพักเพิ่ม 14%YoY ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ผลประกอบการปี 2568 คาดจะเติบโต 23%YoY ดีที่สุดในกลุ่ม แม้หุ้นจะปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา แต่ในเชิง valuation วัดจาก PBV ที่ 1.48 เท่า ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตมากกว่า -1SD