posttoday

เศรษฐกิจใน-นอกทรงดี แต่หุ้นไทยแพง เน้นเก็งกำไรสั้น เคาะกรอบ 1,440-1,465 จุด

27 กันยายน 2567

ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐส่งสัญญาณดี เศรษฐกิจไทยเร่งตัวกระตุ้น สวนทาง Valuation หุ้นไทยเริ่มแพง เคาะกรอบวันนี้ 1,440 - 1,465 จุด เน้นเก็งกำไรระยะสั้น คัดเฉพาะหุ้นที่ฟื้นน้อย กำไรโตต่อ เชียร์ AAV ท่องเที่ยวฟื้น ยอดผู้โดยสารโต - TU ครึ่งปีหลังโตแม้ต้นทุนทูน่าเพิ่มขึ้น

     ฝ่ายวิเคราะห์ บล.พาย ระบุว่า ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 0.6% ส่วนดัชนี S&P500 ปิดระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ได้แรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มชิป รวมไปถึงคลายกังวลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 2.5% หลังจากสื่อรายงานว่าซาอุเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในเดือน ธ.ค. เช่นเดียวกับสมาชิกรายอื่นๆ

     เมื่อคืนที่ผ่านมาสหรัฐฯได้รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ ประกอบไปด้วย (1) คนขอรับสวัสดิการว่างงานที่จำนวน 2.18 แสนราย ดีกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดไว้ที่ 2.24 แสนรายและลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.22 แสนราย ช่วยคลายกังวล เรื่องของเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐฯ (2) รายงาน GDP 2Q24 (ครั้งสุดท้าย) ขยายตัว 3%QoQ เป็นไปตามที่ Bloomberg Consensus คาดหมายไว้ ได้แรงหนุนจากการบริโภคขยายตัว 2.8%QoQ เร่งตัวขึ้นจาก 1.9%QoQ ในช่วง 1Q24 พร้อมกับสินค้าคงทนขยายตัวมากถึง 5.5%QoQ เร่งขึ้นจาก 1Q24 ที่ -1.8%QoQ พร้อมกับการลงทุนภาคเอกชนขยายตัวมากถึง 8.3%QoQ พร้อมกับการนำเข้าที่ขยายตัวมากถึง 7.6%QoQ ดีขึ้นจาก 1Q24 ที่ 6.1%QoQ ซึ่งได้แรงหนุนจากการขยายตัวในการนำเข้าสินค้า (+8.4%QoQ) ดีขึ้นจาก 1Q24 ที่ 6.5%QoQ

     โดยรวมทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯกลับมาปรับขึ้น พร้อมกับการเร่งตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯในรุ่นอายุ 2, 10 ปี การปรับขึ้นสะท้อนมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯจากนักลงทุน ทั้งนี้ CME FED Watch จากที่เคยให้น้ำหนักส่วนมากปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายนราว 60% เริ่มปรับลงมาเหลือเพียง 51% และเพิ่มโอกาสในการลดดอกเบี้ย 0.25% เหลือเพียง 49%

     ส่วนตลาดหุ้นไทยวานนี้พลิกกลับมาปรับฐานเล็กน้อย (-0.45%) ประเมินว่าเป็นเพียงการพักตัวระยะสั้นหลังจากที่ก่อนหน้าปรับขึ้นมาแรง หากประเมินจากจุดต่ำสุดปรับขึ้นมาแล้วกว่า 14.7% และยังมีแนวโน้มปรับขึ้นได้ต่อ หนุนจากเศรษฐกิจสหรัฐฯยังมีการเติบโตที่ดีพร้อมกับการเร่งตัวขึ้นจากนี้ของเศรษฐกิจภายในประเทศ อย่างไรก็ตามยังคงมุมมองว่าหากดัชนีเข้าใกล้ระดับ 1,500 จุดควรมองฝั่งทำกำไรมากขึ้นจาก Valuation ที่เริ่มแพง

     วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1,440 - 1,465 จุด เชิงกลยุทธ์การลงทุนไม่ประมาทกับการลงทุนจนเกินไป แม้เศรษฐกิจสหรัฐฯจะออกมาดีเพราะในแง่ของ Valuation เริ่มเข้าสู่จุดแพง นักลงทุนระยะสั้นที่ Trading มาจากโซนล่างอาจพิจารณาทำกำไรบางส่วน

     โดยช่วงนี้เน้นเป็นเพียงการเก็งกำไรระยะสั้นพร้อมกับเลือกหุ้นที่ยังปรับขึ้นน้อยและมีแนวโน้มกำไรขยายตัวได้ต่อเนื่อง ประกอบไปด้วย (ITC, TU, BEM, AOT, M, MINT) นอกเหนือจากนี้ระยะสั้นแนะสายการบิน (AAV) ปัจจัยหนุนราคาน้ำมันปรับลง

     ส่วนปัจจัยติดตามคืนนี้ ได้แก่ เงินเฟ้อสหรัฐฯ (PCE) Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 2.3%YoY และเงินเฟ้อพื้นฐานขยายตัว 2.7%YoY

     หุ้นแนะนำวันนี้ คือ AAV (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 2.82 บาท) AAV เป็นผู้ประกอบการที่ได้รับผลดีจากภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว ซึ่งล่าสุดคาดว่าผู้โดยสารทั้งปีจะไปได้ถึงระดับ 20 ล้านคน รวมถึงบริษัทยังคงมีแผนเปิดเส้นทางใหม่เพิ่มโดยเฉพาะเส้นทางต่างประเทศอย่างประเทศอินเดีย ขณะที่จีนมีโอกาสเพิ่มขึ้นเช่นกันหลังเปิดฟรีวีซ่า

     ขณะที่ผลประกอบการงวด 2Q24 ออกมามีกำไร 84 ล้านบาท พลิกจากที่ขาดทุน 1,013 ล้านบาทใน 2Q23 แต่หากไม่รวมรายการพิเศษจะมีกำไร 381 ล้านบาทและทำให้กำไรปกติในช่วง 1H24 สูงถึง 2,000 ล้านบาท

     TU (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 18.30 บาท) แนวโน้ม 2H24 คาดว่าจะยังเห็นการเติบโตได้ทั้งเมื่อเทียบกับปีก่อนและครึ่งปีแรก จากธุรกิจอาหารแปรรูป (Ambient) และอาหารสัตว์เลี้ยง (Pet Foods) ขณะที่ในแง่ต้นทุนราคาปลาทูน่าแม้จะปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 1H24 แต่ต่ำกว่าที่เคยประเมินไว้