posttoday

"สารัชถ์ รัตนาวะดี" ว่าที่เศรษฐีหุ้นเบอร์ 1 ประเทศไทย

09 ตุลาคม 2567

"สารัชถ์ รัตนาวะดี" เตรียมขึ้นแท่นเศรษฐีหุ้นเบอร์ 1 ประเทศไทยทันทีที่ควบรวม GULF - INTUCH แล้วเสร็จ มาร์เก็ตแคปเฉียด 9 แสนล้านบาท ก้าวสู่หุ้น Infrastructure เบอร์หนึ่ง พร้อมเปลี่ยนภาพตลาดหุ้นไทยสู่ Infrastructure Value Based

     หลังจาก "บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF" แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2567 เกี่ยวกับการจัดให้มีผู้รับซื้อหุ้นของบริษัทฯจากผู้ถือหุ้นที่เข้าประชุมและออกเสียงลงคะแนนคัดค้านธุรกรรมการควบบริษัทระหว่าง GULF และ บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH จำนวน 715,100 หุ้น คิดเป็น 0.0068% ซึ่งมาประชุมและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนนในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2567

     ในการนี้ บริษัทฯขอแจ้งให้ทราบว่า "นายสารัชถ์ รัตนาวะดี" ได้แสดงความประสงค์ที่จะเป็นผู้รับซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นที่คัดค้านที่ราคา 56.50 บาท ซึ่งเป็นราคาปิดของหุ้นของบริษัทฯที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในวันที่ 2 ตุลาคม 2567 และผู้รับซื้อหุ้นจะดำเนินการรับซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นที่คัดค้านในระหว่างวันที่ 17 - 30 ตุลาคม 2567

     ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า "นายสารัชถ์ รัตนาวะดี" ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร GULF และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ อันดับ 1 จำนวน 4,202,177,897 หุ้น สัดส่วน 35.81% และหากผู้คัดค้านขายหุ้นทั้งหมดตามจำนวน คิดเป็นเงินซื้อคืนเพียง 40.4 ล้านบาทเท่านั้น หากเทียบกับเงินปันผลจาก GULF ที่เจ้าพ่อโรงไฟฟ้า "สารัชถ์" ได้รับในช่วงที่ผ่านมาสูงถึง 3,697,916,549.36 บาท !!

     ทันทีที่การควบรวม GULF - INTUCH แล้วเสร็จ หลายฝ่ายคาดการณ์มาร์เก็ตแคป (Market Cap.) เบื้องต้นสูงกว่า 870,000 ล้านบาท จากปัจจุบัน GULF มี Market Cap. อยู่ที่ 686,389.27 ล้านบาท ขณะที่ INTUCH มี Market Cap. ที่ 315,858.74 ล้านบาท

\"สารัชถ์ รัตนาวะดี\" ว่าที่เศรษฐีหุ้นเบอร์ 1 ประเทศไทย

     ผ่าอนาคต GULF 

     นายจรูญพันธ์ วัฒนวงศ์ หัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวกับ "โพสต์ทูเดย์" ว่า อนาคต GULF หลังควบรวมเสร็จยอมรับว่าค่อนข้างมีมุมมองเป็นบวก ด้วยฐานธุรกิจเดิมของ GULF คือ ธุรกิจพลังงาน ที่มีการเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป และการจะเติบโตได้ต้องพึ่งพิงกับนโยบายพลังงานของประเทศ ที่มีการปรับเปลี่ยนแผนและในบางเรื่องต้องเป็นการเจรจาระหว่างประเทศหรือแม้กระทั่งบางเรื่องอาจกระทบกับประชาชนด้วย ดังนั้นถ้า GULF ยังอยู่เพียงพลังงานที่มีความมั่นคงจริงแต่จะเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป พร้อมกับความเสี่ยงด้านนโยบายตลอดเวลา

     แต่พอ GULF เริ่มขยายไปยัง INTUCH , ADVANC และ THCOM ทำให้ภาพเปลี่ยน ด้วยธุรกิจโทรคมนาคม เป็นธุรกิจที่เติบโต ทุกวันนี้มีการใช้ดาต้าเพิ่มขึ้น ADVANC ถือเป็นบริษัทที่เติบโตเต็มที่ กระแสเงินสดดีมาก มีปันผลสูง จุดที่ดีมากคือการควบรวมระหว่าง DTAC กับ TRUE ยิ่งทำให้ภาพอุตสาหกรรมมือถือแข่งขันน้อยลง นั่นหมายความว่า "GULF กำลังจะได้ธุรกิจที่เติบโตดี กระแสเงินสดสูง แข่งขันน้อย" และจุดสำคัญคือเป็นรากฐานในการขยายไปยังธุรกิจอื่นๆ

     ซึ่งธุรกิจอื่นๆที่ยังไปได้อีกเยอะ นั่นก็คือ "THCOM" เรื่องของเทคโนโลยี และดาวเทียม ถือว่ามีโอกาสเติบโตสูงมาก เพราะเรากำลังจะมีดาวเทียมที่เรียกว่า "ดาวเทียมวงโคจรต่ำ" กำลังเป็นเทรนด์ของโลก ถือเป็นโอกาสการเติบโตค่อนข้างสูง

\"สารัชถ์ รัตนาวะดี\" ว่าที่เศรษฐีหุ้นเบอร์ 1 ประเทศไทย

     ดังนั้นการที่ GULF มีธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตแบบนี้ ในมุมมองของนักวิเคราะห์ค่อนข้างชอบ ด้วย P/E Ratio โดยเฉลี่ยทั้งโลก พวก ENERGY โลกเทรดพี/อี 13.8 เท่า ,

     ด้านโทรคมนาคม มือถือต่างๆทั่วโลก เทรดเฉลี่ย พี/อี 16.4 เท่า ซึ่งจะเห็นว่า Valuation โทรคมนาคม สูงกว่า Energy ถึง 20%

     เช่นเดียวกันในฝั่งของเทคโนโลยี THCOM คือตัวแทน เทรด พี/อี เฉลี่ย 24.1 เท่า เมื่อเทียบ Valuation ถือว่าสูงกว่า Energy ถึง 75%

     และอีกหนึ่งสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น คือ "GULF เริ่มต่อจิ๊กซอร์ครบ" มีทั้งโทรคมนาคม , เทคโนโลยี โดยมี ENERGY เป็นฐานของการพัฒนาสู่ "ดาต้าเซ็นเตอร์" ที่ต้องใช้พลังงาน ระบบสื่อสารและเทคโนโลยีมหาศาล

     ซึ่ง ดาต้าเซ็นเตอร์ เทรด พี/อี ค่าเฉลี่ยโลกที่ 21.1 เท่า เมื่อเทียบ Valuation ถือว่าสูงกว่า Energy ถึง 53% 

      "สรุปคือเราชอบมากกับการที่GULFขยายการลงทุนในธุรกิจที่โตเป็นการสร้างสมดุลย์ในระยะยาว มีธุรกิจมือถือเข้ามาเติมแทนที่ธุรกิจพลังงานเข้าสูตรข้อแรกคือการกระจายความเสี่ยง ข้อสองคือขยายสู่ธุรกิจที่มีพี/อีสูงดังนั้นโอกาสที่นักวิเคราะห์จะทำการรีเลทหลังควบรวมเสร็จสิ้นจะเกิด2ภาพคืออาจจะขยับพี/อีเป้าหมายของGULFสูงขึ้นเพราะมีธุรกิจที่มีพี/อีสูงเข้ามา จากนั้นจะมีการอัพเกรดพอ3-4จิ๊กซอร์ธุรกิจมารวมกันเริ่มมีการรับรู้รายได้และมีกำไรที่เพิ่มขึ้นจะเป็นการอัพเกรดโมเมนตัมของกำไรที่เพิ่มขึ้น
     จากข้อมูลย้อนหลัง 3ปีอ้างอิงจากบลูมเบิร์กราคาเหมาะสมของ GULFในกรอบ 55-60บาท นั่นหมายความว่าตลอด 3ปีที่ผ่านมาไม่มีการอัพเกรดและรีเลทแต่อย่างใด หลังจากควบรวมเสร็จถ้าเกิดการรีเลทและอัพเกรดจะทำให้ราคาเหมาะสมเพิ่มขึ้น แม้วันนี้ราคาหุ้นบนกระดานสูงกว่าราคาเป้าหมายของ Bloomberg consensus ที่ 58.65 บาทแต่นี่คือราคาที่นิ่งมา 3ปี หากจบควบรวมแล้วจะมีการอัพเกรดขึ้นอีก"

 

     มาร์เก็ตแคป GULF 

     เบื้องต้นต้องรอให้กระบวนการควบรวมเสร็จสิ้นก่อน พร้อมกับมุมมองของนักลงทุนต่างชาติจะมองบวกมากน้อยแค่ไหน ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าน่าจะมองบวกอย่างมาก ด้วยไทยไม่ใช่ Growth Market หรือมีหุ้น TECH มีแต่หุ้น Value Stock ซึ่ง GULF เป็นหุ้น Value ที่กำลังจะมี Growth จากธุรกิจขนาดใหญ่เข้ามา นั่นหมายความว่าขนาดของมาร์เก็ตแคปจะใหญ่กว่าปกติ และจะกลายเป็น Proxy ของประเทศไทย

 

     GULF ขึ้นแท่นหุ้น...?

     วันนี้ GULF คือ ENERG หลังควบรวมเสร็จจะมีเทคโนโลยีเข้ามา นั่นหมายความว่า GULF จะกลายเป็น "หุ้น Infrastructure ของไทย" ที่มีทั้งพลังงานและเทคโนโลยี

     และด้วยความยิ่งใหญ่ของธุรกิจ GULF จะกลายเป็น Proxy ของตลาดหุ้นไทย ที่สำคัญอาจจะเปลี่ยนภาพตลาดหุ้นไทย จากเมื่อก่อนต่างชาติอาจจะมองว่าเป็น Exports Country และ Tourism Based อาจจะเปลี่ยนภาพตลาดหุ้นไทย เป็น "Infrastructure Value Based" ในอนาคต

\"สารัชถ์ รัตนาวะดี\" ว่าที่เศรษฐีหุ้นเบอร์ 1 ประเทศไทย

 

     กลยุทธ์ลงทุน

     นักลงทุนที่มีหุ้น GULF สามารถถือระยะยาวรอนักวิเคราะห์รีเลทติ้งและอัพเกรดดิ้งหลังการควบรวมได้ ถือได้สบายใจ ส่วนใครที่ยังไม่มีหุ้น จะเห็นว่าการที่คุณสารัชถ์ประกาศรับซื้อหุ้นคืนจากผู้คัดค้านที่ราคา 56.50 บาท ตั้งแต่ 17 - 30 ตุลาคม 2567 ยิ่งให้มั่นใจว่าพร้อมอย่างมากในการควบรวม กระบวนการต่างๆเร็วขึ้นจากเดิมคาดว่าจะเกิดในไตรมาส 1/2568 

     อีกทั้งการขีดเส้นที่ราคา 56.50 บาทถือเป็นฐานที่มั่นใจได้ ดังนั้นจากราคาดังกล่าวบวกลบ 5% จากนี้ถือว่าซื้อเก็บได้ แม้ราคาตอนนี้จะขยับสูงแต่อย่าลืมว่ายังไม่รวมเรื่องการรีเลทติ้งและอัพเกรดดิ้งหลังการควบรวม

     ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น GULF การซื้อขายวันนี้(9 ตุลาคม 2567) ล่าสุด ณ เวลา 15.43 น. อยู่ที่ 62 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท คิดเป็น +5.98% มูลค่าการซื้อขาย 2,182.06 ล้านบาท ราคาขึ้นสูงสุด 62.25 บาท และลดลงต่ำสุด 58.50 บาท

     หุ้น INTUCH ปิดที่ 101 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท คิดเป็น +2.54% มูลค่าการซื้อขาย 847.38 ล้านบาท ราคาขึ้นสูงสุด 101.50 บาท และลดลงต่ำสุด 98.25 บาท

ผ่าอนาคต"GULF"หลังดีลควบรวม-เทนเดอร์จบไตรมาส1/68 ราคานี้ ซื้อ รึ รอก่อน ?

ผ่าดีลประวัติศาสตร์ 1.4 ล้านล้าน "สารัชถ์"นั่งแท่นเจ้าพ่อโครงสร้างพื้นฐาน

พอร์ตเศรษฐีหุ้น "สารัชถ์" ไตรมาส 1/67 สร้างความมั่งคั่งแค่ไหน ?

เปิดทรัพย์สิน 'ล้านล้านบาท' มหาเศรษฐีไทยในงาน Vision for Thailand 2024