เกาะติดงบ Q3 หุ้นไทยแกว่งกรอบ 1,470-1,500 จุด เชียร์ AP - CPALL

     ฝ่ายวิจัย บล.พาย ระบุว่า ตลาดหุ้น Dow Jones คืนวันศุกร์ปิดบวก 0.09% ขณะที่ S&P500 ปิดบวกเช่นกัน ได้แรงหนุนหลักจากการรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน โดยเฉพาะ Netflix ด้านราคานํ้ามันดิบ BRT ปิดลบ 1.9% จากการที่นักลงทุนประเมินอุปสงค์ในจีนยังไม่แข็งแกร่ง

     วันศุกร์ที่ผ่านมาฝั่งสหรัฐฯไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯ เริ่มปรับขึ้นแบบชะลอตัวด้วยการไร้ปัจจัยใหม่ๆประกอบกับนักลงทุนรอติดตามผลประกอบการ ซึ่งสัปดาห์นี้(21-22 , 24-25 ต.ค.2567)จะมีหุ้นขนาดใหญ่ อย่าง TSLA Coca Cola Boeing เตรียมรายงานผลประกอบการ สําหรับปัจจัยในประเทศวินศุกร์ที่ผ่านมา SET INDEX เริ่มติดลบและยังไม่สามารถยืนแนวจิตวิทยาได้ที่ระดับ 1,500 จุด โดยหุ้นที่เป็นตัวหนุนดัชนีเริ่มเห็นแรงท่าค่าไรออกมา อาทิ ADVANC, GULF, INTUCH ซึ่ง 3 หุ้นข้างต้นต่างก็เกินกว่าเป้าหมายของนักวิเคราะห์ไปแล้ว 

     หลังจากตลาดปิดพบว่านักลงทุนต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องติดต่อกัน 2 วันทําการ ขณะที่นักลงทุนสถาบันยังซื้อสุทธิ แต่มูลค่าเริ่มลดลงเหลือเพียง 764 ล้านบาทจากช่วงก่อนหน้าเห็นการซื้อสุทธิราวๆ 2-3 พันล้านบาท คาดว่าอาจเป็นเพราะนักลงทุนเริ่มชะลอการลงทุนหลัง Valuation หุ้นไทยเริ่มไม่ถูกมากนัก ในเชิง Earnings Yield Gap กลับลงมาซื้อขายในช่วงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 12 ปี

     ประกอบกับนักลงทุนเริ่มรอดูผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน 3Q24 ที่ทยอยรายงานออกมา ล่าสุดกลุ่มธนาคารพาณิชย์รายงานออก มาแล้ว 4 บริษัท (BBL KKP TTB TISCO) พบว่ากําไรสุทธิรวมกันที่ 2.07 หมื่นล้านบาท ขยายตัว (+8%YoY +5%QoQ) โดยหุ้นที่กําไรดีกว่า Bloomberg Consensus คาดการณ์ได้แก่ BBL KKP

     สําหรับรอบนี้รอติดตามตัวเลขเศรษฐกิจด้านสหรัฐฯ (1) ยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐฯในวันพุธ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 3.88 ล้านหลังคาเรือน (2) ยอดขายบ้านมือหนึ่งของสหรัฐฯ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 7.17 แสนหลังคาเรือน หากรายงานแล้วแย่กว่าคาดการณ์ จะเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำ

     (3) ดัชนี PMI เบื้องต้นของยุโรปและสหรัฐฯในวันพฤหัสบดีและในประเทศรอติดตามการค้าระหว่างประเทศ Bloomberg Consensus คาดการณ์มูลค่าส่งออกจะขยายตัว 3.5%YoY และนําเข้าจะขยายตัว 5.5%YoY พร้อมคาดการณ์จะเกินดุลการค้า 1.97 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

     หุ้นไทยสัปดาห์นี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1,470 - 1,500 จุด เชิงกลยุทธ์การลงทุน ณ ระดับ ดัชนีปัจจุบันยังเหมาะเพียงกับการ Trading จาก Valuation ที่ไม่ถูกมากนัก ขณะที่ยังเห็น Bloomberg Consensus ปรับลดกําไรดัชนีลงต่อเนื่อง เน้นที่หุ้นได้ประโยชน์ดอกเบี้ยปรับลง อาทิ อสังหาริมทรัพย์ (AP , SPALI) โรงไฟฟ้า (BGRIM, GPSC, GULF) ค้าปลีก (CPALL) โรงแรม (MINT) ธนาคารพาณิชย์ (KKP)

     หุ้นแนะน่าซื้อวันนี้ คือ หุ้น AP (ชื้อ / ราคาเป้าหมาย 14.30 บาท) เราคาดผลประกอบการช่วง 2H24 จะเติบโต HoH เทียบกับใน 1H24 เนื่องจากการเร่งโอนตามกําหนดการปกติ ถึงแม้จะยังมีอัตรายกเลิกการจอง และยอดปฏิเสธสินเชื่อที่สูง ดังนั้นมองว่าโอกาสที่จะเห็นการเติบโต YoY อย่างชัดเจนใน 2H24 เป็นไปได้ยาก

     CPALL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 79.00 บาท) รายได้จากธุรกิจร้านสะดวกซื้อ (CVS) มาจากกลุ่มอาหาร คิดเป็นสัดส่วน 76.3% ใน 2Q24 เพิ่ม จาก 75.2% ใน 1Q24 และใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปและจํานวนนักท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวขึ้น