PTT คอนเฟิร์มธุรกิจแกร่ง ดีลพันธมิตรลุยปิโตรเคมี-โรงกลั่น-Life Science
"ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง" ซีอีโอ ปตท. ย้ำชัดกลุ่มธุรกิจแข็งแกร่ง คาดผลการดำเนินงานปี 2568 ดีขึ้นจากปีนี้ พร้อมเดินหน้าหาพันธมิตรร่วมทุนธุรกิจ "ปิโตรเคมี-โรงกลั่น-Life Science"
"กลุ่ม ปตท." เผชิญความท้าทายและแรงกดดันทันทีที่ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/2567 ออกมาปรากฎว่า PTT , PTTEP , GPSC มีกำไรแต่ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าและไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ส่วน PTTGC , TOP , OR พลิกกลับมาขาดทุน ขณะที่ IRPC ขาดทุนต่อเนื่อง
คำถาม คือ ผลการดำเนินงานจากนี้จนถึงปี 2568 กลุ่ม ปตท. จะสามารถพลิกฟื้นกลับมาได้หรือไม่ ?
"บริษัทไม่ได้โฟกัสผลประกอบการรายไตรมาส เพราะเรื่องบางเรื่องไม่สามารถควบคุมได้ ไม่ว่าจะเป็นสต็อคน้ำมัน หรือ ราคาน้ำมัน แต่แน่นอนว่าในปี 2568 ธุรกิจต้นน้ำ (Upstream) มีแนวโน้มดีขึ้นจากปี 2567 โดยธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมภายใต้การดำเนินงานของ "ปตท.สผ."คาดปริมาณการขายจะเพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจในประเทศ
ขณะที่ธุรกิจโรงแยกก๊าซฯจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตได้สูงขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ส่งผลบวกต่อผลประกอบการ ขณะที่ธุรกิจปิโตรเคมี คาดว่าจะยังทรงตัวและผ่านจุดต่ำสุดของธุรกิจขาลงในช่วงไตรมาส 3/2567 ส่วนธุรกิจโรงกลั่นฯจะยังมีกำไรต่ำอยู่ ส่วนราคาผลิตภัณฑ์ต่างๆนั้นยังต้องติดตามสถานการณ์ต่อไป"
ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT กล่าวอีกว่า ปัจจัยเสี่ยงที่ ปตท. ต้องเผชิญนั้นถือเป็นปัจจัยเสี่ยงที่เหมือนกันทั้งโลก อาทิ น้ำมัน หากราคาน้ำมันปรับตัวลดลงส่งผลต่อ Stock loss ซึ่งเป็นตัวเลขทางบัญชีเท่านั้นส่วน ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ บริษัทสามารถทำธุรกิจที่ถนัดพร้อมกับลดคาร์บอน
ขณะที่ นโยบายของทรัมป์ที่สนับสนุนพลังงานดั้งเดิมนั้น มองว่าไม่ใช่ดาวน์ไซด์ของธุรกิจ และบริษัทยังคงเดินหน้าอย่างเต็มที่บนความรับผิดชอบร่วมกันพร้อมกับลดคาร์บอน หากดีมานด์ก๊าซธรรมชาติดีขึ้นช่วยสะท้อนภาพอัพไซด์เพิ่มขึ้นได้เช่นกัน
ส่วนความผันผวนด้านอัตราแลกเปลี่ยนถือเป็นเรื่องปกติของธุรกิจ และความเสี่ยงเรื่องนโยบายพลังงานนั้น ทุกวันนี้บริษัททำงานร่วมกับภาครัฐอย่างใกล้ชิดมองว่าความเสี่ยงน่าจะลดลง
"ในปีหน้า ปตท. มุ่งมั่นลดค่าใช้จ่ายการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง หลังจากปีนี้ทำได้ราว 8% สูงกว่าเป้าหมายลดค่าใช้จ่ายที่ตั้งไว้ที่ 5% พร้อมกันนี้จะรักษาการทำกำไรให้เติบโตอย่างยั่งยืน"
มรสุม TOP กระทบ PTT แค่ไหน ?
ตามที่ บมจ.ไทยออยล์ (TOP) ที่มีปัญหาผู้รับเหมาช่วงโครงการพลังงานสะอาด (CFP) 28 รายลงสัตยาบันหยุดก่อสร้างโครงการฯหลังจาก UJV ที่เป็นผู้รับเหมาฯหลักค้างจ่ายค่าแรง 8 เดือนกว่า 6 พันล้านบาทนั้น ดร.คงกระพัน เล่าให้ฟังว่า ปตท. ในฐานะผู้ถือหุ้นของไทยออยล์ไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด ดำเนินการส่งทีมที่ปรึกษาเข้าไปช่วยดูในแง่กฎหมายและธุรกิจของไทยออยล์ด้วยเป็นโครงการขนาดใหญ่ อย่างไรก็ต้องเดินหน้าก่อสร้างจนแล้วเสร็จ
ทั้งนี้ "ไทยออยล์" เป็นธุรกิจที่มีกำไร และการก่อสร้างโรงงานยังคงเดินหน้าต่อไป หลังจากสร้างโรงงานแล้วเสร็จจะช่วยให้ไทยออยล์มีขนาดใหญ่และมาร์จิ้นดีขึ้น
สำหรับแผนลงทุน 5 ปี (พ.ศ.2568-2572) ของ ปตท. ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างจัดทำแผน ซึ่งจะสอดคล้องไปกับการปรับพอร์ตธุรกิจใหม่ของปตท. คาดว่าจะนำเข้าสู่การพิจารณาของบอร์ด ปตท.ได้ในช่วงเดือน ธ.ค.67นี้ พร้อมกับความชัดเจนเกี่ยวกับวงเงินลงทุน 5 ปีเช่นกัน ซึ่งในเบื้องต้นงบลงทุนจะมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจต้นน้ำ(Upstream)อย่างธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมที่ปตท.สผ. จะต้องเร่งขยายการลงทุนหาแหล่งผลิตปิโตรเลียมเพิ่มเติมและธุรกิจก๊าซฯที่จะต้องลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับปริมาณก๊าซฯในอนาคต เป็นต้น
อย่างไรก็ดี ปตท.ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินเข้ามาช่วยศึกษาความเหมาะสมในการเลือกพันธมิตรเข้ามาร่วมลงทุนในบริษัทลูกของ ปตท. โดยเฉพาะธุรกิจหลักคือ ธุรกิจปิโตรเคมีและโรงกลั่น รวมถึงการหาพันธมิตรในธุรกิจ Life Science ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งในการขับเคลื่อนธุรกิจต่อไปในอนาคต
โดยแนวทางการปรับโครงสร้างคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงกลางเดือน ธันวาคมนี้ และมีความชัดเจนในปี 2568 ขณะที่กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในปี 2568 ปตท. ให้ความสำคัญในธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม (E&P) และ ธุรกิจก๊าซธรรมชาติที่ยังมีการเติบโตได้ดี และเป็นจุดแข็งในการดำเนินธุรกิจของ ปตท. ควบคู่กับการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเป้าหมายการลดคาร์บอน (Decarbonization)
สรุปงบไตรมาส 3/67 "กลุ่ม ปตท." พร้อมผ่างบท้ายปี หุ้นตัวไหนได้ไปต่อ ?
ปตท. มุ่งมั่น Net Zero ควบคู่ CCS เพื่อความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ
PTT พลิกเกมล่าท้าวิกฤติ เปิดรับพันธมิตรเสริมธุรกิจยกกลุ่ม
เปิดวิชั่น "ดร.คงกระพัน" ชูธุรกิจต้องดี-ขนาดใหญ่-มีจุดแข็ง สู่เป้า Net Zero