posttoday

จับตาประชุม กนง. บ่ายนี้! หุ้นไทยแกว่งกรอบ 1,385-1,400 จุด เชียร์ KTB-BBL

18 ธันวาคม 2567

หุ้นไทยไร้ปัจจัยหนุน เกาะติดประชุม กนง. บ่ายนี้ โบรกคาดดัชนีแกว่งกรอบ 1,385 - 1,400 จุด แนะนักลงทุนรับความเสี่ยงสูงได้ เน้นหุ้นแบงก์ KTB โดดเด่นสุด สำรองหนี้ฯลดอย่างมีนัยสำคัญ - BBL ผลตอบแทนเงินปันผลสูง 5.3-5.6%

KEY

POINTS

  • ติดตามประชุม กนง. บ่ายนี้ Bloomberg Consensus คาดคงดอกเบี้ยนโยบายระดับเดิมที่ 2.25%
  • SET วันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 1,385-1,400 จุด ไร้สัญญาณบวกอย่างมีนัยยะ
  • นักลงทุนรับความเสี่ยงสูงได้ เน้นหุ้นแบงก์-ท่องเที่ยว-ศูนย์การค้า-ค้าปลีก

ฝ่ายวิเคราะห์ บล.พาย ระบุว่า ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดลบ 267 จุด (-0.6%) นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะรับรู้ผลประชุมของ FED หลังจากมีข้อมูลชี้ว่าการบริโภคยังแข็งแกร่ง ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 0.89% เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลกับการชะลอตัวของอุปสงค์น้ำมัน

เมื่อคืนที่ผ่านมาสหรัฐฯ ได้รายงานยอดค้าปลีกประจำเดือน พ.ย. พบว่าขยายตัว 0.7%MoM ดีกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดไว้ที่ 0.6%MoM ขณะที่ยอดค้าปลีกที่ไม่รวมยานยนต์และชิ้นส่วนพบว่าขยายตัว 0.2%MoM สะท้อนว่าแรงหนุนหลักมาจากการเติบโตในส่วนของยานยนต์ ซึ่งพบว่ายานยนต์และชิ้นส่วนขยายตัว 2.6% MoM +6.5%YoY

ขณะที่รายสินค้าอื่นๆมีทั้งขยายตัวและหดตัวแต่โดยรวมสะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจที่ยังค่อนข้างดี จากการขยายตัวของสินค้าคงทน ขณะที่การตอบรับของสินทรัพย์ต่างๆ พบว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯปรับลงเล็กน้อยทั้งรุ่นอายุ 2 , 10 ปี อย่างไรก็ตามหากพิจารณาแนวโน้มแล้วยังเป็นขาขึ้นและสอดคล้องกับข้อมูลจาก CME FED Watch ที่ให้น้ำหนักลดดอกเบี้ย 0.25% ด้วยโอกาส 97%

คืนนี้รอติดตามปัจจัยใหญ่ส่งท้ายปี 2567 กับการประชุม FED นักลงทุนส่วนใหญ่ประเมินว่าจะลดดอกเบี้ย 0.25% แต่ปัจจัยสำคัญกว่าคือปี 25 จะลดดอกเบี้ยกี่ครั้งเพราะ Dot Plot งวดประชุมเดือนกันยายนให้ความเห็นไว้ว่าปี 2568 จะลดทั้งหมด 4 ครั้ง อย่างไรก็ตามตั้งแต่ประชุม FED รอบกันยายนจนถึงคืนนี้มีหลายสิ่งเปลี่ยนไป อาทิ การมาเข้า Trump , ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ดีขึ้นต่อเนื่องนักลงทุนจึงเริ่มประเมินว่าปี 2568 อาจเห็นการลดดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้งเท่านั้น นอกจาก Dot Plot แล้วแนะติดตามถ้อยแถลงประธาน FED

วันนี้(18 ธ.ค.67)รอติดตามผลประชุม กนง. ช่วงบ่าย Bloomberg Consensus ประเมินว่าจะคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ระดับเดิมที่ 2.25% โดยสำรวจนักเศรษฐศาสตร์ราว 23 ราย มีเพียง 2 รายที่ประเมินว่าจะลดดอกเบี้ย 0.25% อย่างไรก็ตามแนะติดตามถ้อยแถลงรวมถึงประมาณการ GDP ในปี 2568 น่าจะมีผลมากกว่าเรื่องของดอกเบี้ย

ส่วนผลประชุมคณะรัฐมนตรีออกมาตรการ (1) เพิ่มเงินช่วยค่าใช้จ่ายบุตรจาก 800 บาท / เดือน เป็น 1,000 บาท / เดือน (2) เพิ่มเม็ดเงินสนับสนุนการถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทยจากเดิม 75 ล้านบาทเป็น 150 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้กับกลุ่มท่องเที่ยวและค้าปลีก (AOT CENTEL BJC MINT CPN)

วันนี้ประเมิน SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1,385-1,400 จุด ยังไม่เห็นสัญญาณบวกว่าตลาดจะปรับขึ้นได้อย่างมีนัยยะเพราะเต็มไปด้วยแรงกดดันจากกระแสเงินทุนและบริษัทจดทะเบียนยังไม่มีข่าวเชิงบวก ส่วนนักลงทุนรับความเสี่ยงได้สูงเน้นที่กลุ่มธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL MINT) ศูนย์การค้า (CPN) ค้าปลีก (BJC CRC HMPRO)

หุ้นแนะนำซื้อวันนี้ คือ KTB (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 23.80 บาท) กำไรสุทธิในไตรมาส 3/67 ออกมาที่ 11.1 พันล้าน (+8% YoY, -0.8% QoQ) งบดุลทรงตัว NPL ratio อยู่ที่ 3.1% และ Coverage ratio แข็งแกร่งที่ 184.1% ฝ่ายวิเคราะห์มองว่า KTB จะยังคงโดดเด่นเหนือคู่แข่งในไตรมาส 4/67 ที่ปกติธนาคารส่วนใหญ่จะรายงานกำไรลดลง QoQ เพราะค่าใช้จ่ายการดำเนินงานสูงขึ้นจากปัจจัยฤดูกาล แต่การเติบโต YoY ของ KTB จะโดดเด่นกว่าคู่แข่งจากสำรองหนี้ฯที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

BBL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 168 บาท) คาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโตชะลอตัวที่ 2% / 4.3% ในปี 2568-2569 ด้าน ROE ปรับลดลงที่ 7.9% / 7.8% ในปี 2568-2569 จาก 8.1% ในปี 2567 และคาดอัตราผลตอบแทนเงินปันผลสูง 5.3-5.6% ในปี 2567-2568 ด้านแนวโน้มผลการดำเนินงานใน 4 ไตรมาส ฝ่ายวิเคราะห์คาดกำไรจะลดลง QoQ จากปัจจัยฤดูกาลที่ค่าใช้จ่ายการดำเนินงานเพิ่มขึ้น และรายได้ดอกเบี้ยลดลง แต่กำไรจะปรับสูงขึ้น YoY จากรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเป็นหลัก