FTSE Rebalance กดหุ้นไทยแกว่งกรอบ 1,365-1,385 จุด ไม่รีบเพิ่มนํ้าหนัก!
ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุว่า วันจันทร์นี้จะมีการปรับนํ้าหนัก FTSE โดย FTSE Large Cap เพิ่ม MINT และตัด EA ออกจากการคํานวณ ส่วน FTSE Mid Cap เพิ่ม CCET และ EA แต่ตัด BLAND BYD MINT ORI และ SPCG ออกจากการคํานวณ ด้าน FTSE SET Shariah มีการเพิ่มหลักทรัพย์กว่า 20 ตัว และติดหลักทรัพย์ออก 16 ตัว ซึ่งจะมีผล ณ ราคาปิดวันจันทร์ ในวันนี้อาจมีการซื้อ-ขายเพื่อปรับหุ้นในมือของกองทุนสร้างความผันผวนให้ตลาด
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐดี แค่อาจชะลอการซื้อระหว่าง PCE : ตัวเลข GDP สหรัฐฯไตรมาส 3/67 ออกมาที่ 3.1%q-q สูงกว่าที่ตลาดคาด ที่ 2.8%q-q และ เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2 ที่ 3%q-q นอกจากนี้ ตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกประจําสัปดาห์ออกมาที่ 1.874 แสนราย น้อยกว่าที่ตลาดคาดที่ 1.89 แสนราย และลดลงจากสัปดาห์ก่อนที่ 1.88 แสนราย สะท้อนภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และตลาดแรงงานของสหรัฐ แต่นักลงทุนอาจชะลอการ เพิ่มน้ําหนักหุ้นไทยระหว่างที่รอจับตาตัวเลข PCE และ Core PCE เดือน พ.ย. คืนนี้ ซึ่งคาดจะเห็นการขยายตัวแบบ y-y ทั้งคู่
ของขวัญกําลังจะมาถึงเวลาช็อปปิ้ง : รมต.กระทรวงการคลัง เผยสัปดาห์หน้าเตรียมเสนอมาตรการ Easy e-receipt เข้าที่ ประชุม ครม. เพื่อเป็นการสนับสนุนการบริโภคในประเทศ และ ช่วยลดหย่อนภาษีให้ประชาชน โดยจะใช้เกณฑ์เดิม คือ ให้วงเงินลดหย่อนที่ 5 หมื่นบาทสําหรับปีภาษี 2568 ซึ่งจะเริ่มในเดือน ม.ค.68 และต้องออกใบเสร็จรับเงินในรูปแบบ e-Tax Invoice หรือ e- Receipt นอกจากนี้ รมว. กระทรวงแรงงานยังย้ำว่าจะเร่งผลักดันการขึ้นค่าแรง 400 บาทให้ทันภายในปีนี้เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่มองเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มค้าปลีก ท่องเที่ยว และ เกี่ยวเนื่อง
ปัจจัยที่น่าติดตามสัปดาห์หน้า : ติดตามตัวเลขนําเข้า-ส่งออกประทเศไทย เดือน พ.ย. ส่วน สหรัฐฯติดตามตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ธ.ค. , ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน เดือนพ.ย. , ยอดขายบ้านใหม่เดือน พ.ย. ขณะที่ อังกฤษ ติดตามตัวเลข GDP ไตรมาส 3/67 และในสัปดาห์หน้าตลาดหุ้นต่างประเทศเปิดทําการเพียง 2-3 วัน ในช่วงวันคริสมาสต์
ปัจจัย บวก-ลบ เพิ่มเติม
(-) ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOI) มีมติคงอัตราดอกเบี้ย 8 ต่อ 1 ที่ระดับ0.25% บ่งชี้การดําเนินนโยบายแบบระมัดระวัง โดย BOJ เผยยังมีความไม่ แน่นอนจากนโยบายของประเทศสหรัฐที่เป็นตัวแปรซิ่ง BOJ ต้องระมัดระวัง
(-) สศก. ระบุ ภาวะเศรษฐกิจการเกษตร ปี 2567 หดตัว 1.1%y-y โดยมี เพียงสาขาสาขาปศุสัตว์ และสาขาป่าไม้ ที่ยังคงขยายตัวได้ ส่วนแนวโน้ม เศรษฐกิจการเกษตรปี 2568 คาดจะขยายตัวอยู่ในช่วง 1.8 - 2.8%y-y
(-) Sinopec เผยว่า ความต้องการนํ้ามันเบนซินของจีนจะลดลงอย่างรวดเร็ว สู่ 177 ล้านตันต่อปีท่ามกลางตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ขยายตัว
(+) รัฐมนตรีช่วยกระทรวงคมนาคม เผยในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 จะมี ปริมาณเที่ยวบินเพิ่มขึ้น 14%y-y สู่ระดับ 18,280 เที่ยวบินสะท้อนภาพ บวกให้หุ้นใน กลุ่ม Transport
หุ้นไทยวันนี้(20 ธ.ค.67) ผันผวนอิงทางลง 1,365 - 1,385 จุดรับความผันผวนจากการปรับนํ้าหนักดัชนี FTSE และการชะลอเพิ่มนํ้าหนักการลงทุนระหว่างรอจับตัวเลข PCE สหรัฐ ส่วนแรงหนุนลุ้นกลุ่มค้าปลีกอาจรับผลบวกจาก Easy e-Receipt และ การเร่งปรับขึ้นค่าแรง
กลยุทธ์การลงทุน
1) บาทอ่อนค่า : DELTA, CBG, CPF, ITC, BA, KCE, HANA
2) ท่องเที่ยว/Spending: LHHOTEL, MINT, SPA,CRC, BJC, AU, SYNEX
3) กนง.คงดอกเบี้ย : BBL, KTB, SCB, TISCO, KKP, TLI
4) Window Dressing / Santa Rally : AOT, AP, BCH, GPSC, LH, SAWAD, TTB
อย่างไรก็ดี แนะนำซื้อ หุ้น CRC เป้าหมาย 35.00 / 35.50 บาท แนวรับ 33.00 บาท QTD SSSG ส่งสัญญาณฟื้นตัว บวกยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติโต y-y
และ หุ้น SYNNEX เป้าหมาย 15.00 / 15.50 บาท แนวรับ 14.00 บาท โดย 4 ไตรมาสมีทิศทางทางบวกและเป็น High season พร้อมหวังแรงส่งเพิ่มเติมจากมาตรการภาครัฐ