posttoday

ก.ล.ต. กล่าวโทษ ALL และอดีตผู้บริหาร ปมปกปิดข้อความจริงในไฟลิ่งออกหุ้นกู้

23 ธันวาคม 2567

ก.ล.ต. กล่าวโทษ ALL นายดุษฎี เล็กยิ้ม และนายธนากร ธนวริทธิ์ ต่อ บก.ปอศ. ในความผิดกรณี ALL ปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งในแบบ filing ในสาระสำคัญเกี่ยวกับการสิ้นสุดหน้าที่ของผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตรวจสอบพบว่า ข้อกำหนดในการสิ้นสุดหน้าที่ของผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ที่ปรากฏในร่างสัญญาแต่งตั้งผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ของ บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ALL ที่เปิดเผยไว้ในแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวน (แบบ filing) filing ซึ่งมีผลใช้บังคับในวันที่ 15 ก.พ.2565 (ร่างสัญญา) แตกต่างจากสัญญาแต่งตั้งผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ที่ ALL ลงนาม ฉบับลงวันที่ 23 ก.พ.2565 (สัญญาฉบับลงนาม) และนำส่งต่อ ก.ล.ต. 

กล่าวคือ ในร่างสัญญากำหนดเหตุการณ์หนึ่งที่เป็นเหตุให้สัญญาสิ้นสุดลง “เมื่อผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ตกเป็นผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัว หรือถูกพิทักษ์ทรัพย์” แต่ในสัญญาฉบับลงนาม กลายเป็นระบุว่า “เมื่อผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้หรือผู้ออกหุ้นกู้ตกเป็นผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัว หรือถูกพิทักษ์ทรัพย์” ซึ่งการทำหน้าที่และการสิ้นสุดหน้าที่ของผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ถือเป็นข้อมูลที่มีสาระสำคัญต่อผู้ลงทุนอันมีผลต่อการตัดสินใจลงทุน เนื่องจากผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้มีบทบาทสำคัญในการดูแลและรักษาผลประโยชน์ให้กับผู้ถือหุ้นกู้

ทั้งนี้ ในขณะเกิดเหตุ นายดุษฎี เล็กยิ้ม และนายธนากร ธนวริทธิ์ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงนามของ ALL และเป็นผู้ลงนามรับรองความถูกต้องของแบบ filing ฉบับลงวันที่ 15 ก.พ.2565 รวมทั้งเป็นผู้ลงนามในสัญญาแต่งตั้งผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ฉบับลงวันที่ 23 ก.พ.2565 

การกระทำของ ALL ดังกล่าวข้างต้น จึงเข้าข่ายปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งในสาระสำคัญของแบบ filing อันเป็นการปฏิบัติฝ่าฝืนและต้องระวางโทษตามมาตรา 278 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ) และการกระทำความผิดดังกล่าวของ ALL เกิดจากการสั่งการหรือการกระทำของนายดุษฎีและนายธนากร บุคคลทั้งสองดังกล่าวจึงต้องรับโทษตามมาตรา 300 ประกอบมาตรา 278 แห่ง พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ ก.ล.ต. จึงกล่าวโทษ ALL นายดุษฎี และนายธนากร ต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.)

ทั้งนี้ ภายหลังการกล่าวโทษของ ก.ล.ต. กระบวนการบังคับใช้กฎหมายทางอาญาต่อไปเป็นการสอบสวนของพนักงานสอบสวน การสั่งฟ้องคดีของพนักงานอัยการ และการพิจารณาของศาลยุติธรรม ตามลำดับ โดย ก.ล.ต. จะติดตามความคืบหน้าในการดำเนินคดี และจะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ เพื่อสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ ในกระบวนการภายหลัง ก.ล.ต. ได้กล่าวโทษแล้ว