posttoday

ก.ล.ต. กล่าวโทษ “อภิมุข บำรุงวงศ์” พร้อมพวกรวม 11 ราย ปมปั่นหุ้น COMAN

13 มกราคม 2568

ก.ล.ต. กล่าวโทษ “อภิมุข บำรุงวงศ์” พร้อมพวกรวม 11 ราย ต่อ บก.ปอศ. กรณีสร้างราคาหรือปริมาณการซื้อขายหุ้นของ COMAN และรายงานการดำเนินการต่อ ปปง.

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในปี 2564 และดำเนินการตรวจสอบเพิ่มเติม พบพยานหลักฐานที่ทำให้เชื่อได้ว่ากลุ่มบุคคลรวม 11 ราย ได้แก่ (1) นายอภิมุข บำรุงวงศ์ (2) นายพัสกร ศิลมัฐ (3) นางสาวภัทชนก ธนฤทัยโรจน์ (4) นางสาวชญาดา สุขกสิ (5) นางสุภา วงค์อนุ (6) นายธีรยุทธ เหรียญชัยยุทธ (7) นายสีหราช โลหชิตรานนท์ (8) นายศุภชัย วิเศษไพฑูรย์ (9) นางสาวฉัฐนันท์ ธนาสินวิวัฒน์ (10) นางพนิตานันท์ เติมคุนานนท์ และ (11) นายนิธิศ ศิลมัฐ ซึ่งมีความสัมพันธ์ด้านส่วนตัวและด้านการซื้อขายหลักทรัพย์ ได้ร่วมกันสร้างราคาและ/หรือปริมาณการซื้อขายหุ้น บริษัท โคแมนชี่ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ COMAN ในระหว่างวันที่ 24 พฤษภาคม – 18 มิถุนายน 2564 

โดยมีพฤติกรรม เช่น ผลักดันราคา และจับคู่ซื้อขายกันเองในปริมาณมาก เป็นต้น ทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจผิดเกี่ยวกับราคาหรือปริมาณการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ และมุ่งหมายให้ราคาหรือปริมาณการซื้อหรือขายหุ้น COMAN ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด อันเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 244/3 (1) และ (2) ประกอบบทสันนิษฐาน 244/5 และมาตรา 244/6 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ) ประกอบมาตรา 83 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ตามแต่กรณี ซึ่งมีระวางโทษตามมาตรา 296 มาตรา 296/1 และมาตรา 296/2 แห่ง พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ

ก.ล.ต. จึงได้กล่าวโทษผู้กระทำผิดทั้ง 11 ราย ต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป พร้อมกันนี้ ก.ล.ต. ได้รายงานการดำเนินการตามข้างต้นต่อ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป เนื่องจากความผิดดังกล่าวเป็นการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์ ซึ่งเข้าข่ายเป็นความผิดมูลฐานตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน 

ทั้งนี้ ภายหลังการกล่าวโทษของ ก.ล.ต. กระบวนการบังคับใช้กฎหมายทางอาญาต่อไปเป็นการสอบสวนของพนักงานสอบสวน การสั่งฟ้องคดีของพนักงานอัยการ และการพิจารณาของศาลยุติธรรม ตามลำดับ โดย ก.ล.ต. จะติดตามความคืบหน้าในการดำเนินคดี และจะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ เพื่อสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายตาม พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ ในกระบวนการภายหลัง ก.ล.ต. ได้กล่าวโทษแล้ว