เทรนด์บ้านมือสองโตแรง “BKA” เดินหน้าเทรด mai กุมภาพันธ์นี้
ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงเผชิญแรงกดดันอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับการถูกปฏิเสธสินเชื่อจากสถาบันการเงินเพิ่มขึ้น แต่เชื่อหรือไม่ว่า "ตลาดบ้านมือสอง" โดยเฉพาะบ้านมูลค่า 5-10 ล้านบาท ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของ "บริษัท บางกอก แอสเซท อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BKA" กลับเติบโตอย่างมาก
"บ้านมือสองมีความได้เปรียบเมื่อเทียบทำเลเดียวกันกับบ้านโครงการใหม่ ที่มีราคาที่คุ้มค่ากว่า และพื้นที่ใช้สอยที่มากกว่า เนื่องจากการปรับตัวสูงขึ้นมาโดยตลอดของราคาที่ดินในทำเลที่มีศักยภาพ การเพิ่มขึ้นของราคาวัสดุก่อสร้างและค่าแรง ทำให้ราคาบ้านโครงการใหม่มีราคาสูงและมีช่องว่างของราคากว้างขึ้นเมื่อเทียบกับราคาบ้านมือสอง และโครงการบ้านจัดสรรใหม่ๆ มีทำเลที่ไกลออกไป เพราะที่ดินผืนใหญ่ใกล้เมืองหาได้ยาก แต่บ้านมือสองส่วนใหญ่มีทำเลดี ราคาคุ้มค่ากว่าบ้านโครงการใหม่ จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากขึ้น"นายพชร ธนวงศ์เกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอก แอสเซท อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BKA กล่าว
5 จุดเด่นธุรกิจ
1.บ้านมือสองได้เปรียบกว่าบ้านสร้างใหม่ ทั้ง ทำเล และราคาที่คุ้มค่ากว่า จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจของผู้หาซื้อบ้าน
2.Model ธุรกิจบ้านแต่งแข็งแกร่ง เพียงวางเงินประกัน ปรับปรุงและขายบ้าน ไม่ต้องลงทุนซื้อบ้านทั้งหลัง ประหยัดเงินลงทุนแต่ผลตอบแทนสูง
3.ตลาดบ้านมือสองมีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง
4.BKA มีบ้านมือสองตกแต่งใหม่พร้อมขายจำนวนมาก รายได้จากบ้านแต่ง บ้านฝาก และบ้านตัดทำเลดี
5.ผู้บริหารมีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์กว่า 12 ปี มีเครือข่าย Agent บริการลูกค้าทุกระดับ
ปัจจุบัน BKA มีปริมาณบ้านมือสองเพื่อขาย หรือที่เรียกว่า "ธุรกิจบ้านแต่ง" รวมมูลค่าราว 200 ล้านบาท , ธุรกิจบ้านฝาก ราว 400-500 สัญญา และ ธุรกิจบ้านมือสองปรับปรุงเพื่อขาย หรือที่เรียกว่า "ธุรกิจบ้านตัด" มีสัดส่วนราว 20%ของพอร์ตรวม ทั้งนี้บริษัทสามารถขายบ้านมือสองราว 200 หลังต่อปี การเข้าตลาด mai ครั้งนี้จะช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้บริษัทสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
ผลการดำเนินงาน 3 ปี
พ.ศ.2564 รายได้รวม 1,304.94 ล้านบาท กำไรสุทธิ 49.77 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ 3.81%
พ.ศ.2565 รายได้รวม 1,302.92 ล้านบาท กำไรสุทธิ 21.44 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ 1.65%
พ.ศ.2566 รายได้รวม 1,313.59 ล้านบาท กำไรสุทธิ 22.27 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ 1.70%
9เดือนแรกปี2567 รายได้รวม 870.03 ล้านบาท กำไรสุทธิ 27.64 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ 3.18%
"เราเน้นธุรกิจบ้านแต่งเป็นหลัก เพราะเป็นบ้านมือสองตกแต่งใหม่ที่ใช้เงินลงทุนต่ำแต่ให้ผลตอบแทนสูงเมื่อเทียบกับการซื้อบ้านมาปรับปรุงเพื่อขาย(บ้านตัด) ที่สำคัญเป็นตลาดที่มีศักยภาพการเติบโต และยังไม่มีคู่แข่งรายใหญ่ในตลาด"
เดินหน้าเทรด ก.พ.นี้
นางนิสาภรณ์ ฤกษ์อร่าม กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอดไวเซอรี่ พลัส จำกัด ในฐานะบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า BKA ได้รับอนุญาตให้เสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ต่อประชาชนครั้งแรก (IPO) จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และอยู่ระหว่างเตรียมออกและเสนอขายหุ้น พร้อมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ในหมวดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง คาดว่าจะสามารถเข้าซื้อขายครั้งแรกได้ในช่วงกลางเดือน กุมภาพันธ์ 2568นี้
BKA มีทุนจดทะเบียน 105 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 210 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท มีทุนที่ออกและเรียกชำระแล้ว 75 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 150 ล้านหุ้น โดยจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 60 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท หรือคิดเป็นไม่เกินร้อยละ 28.57 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ
บ้านมือสองบูม “BKA” จ่อไอพีโอ 60 ล้านหุ้นเข้าตลาด mai
"ทักษิณ" ไล่บี้ตลาดหลักทรัพย์ฯ-ก.ล.ต. แก้ 7 ปมฟื้นเชื่อมั่น ดันตลาดกระทิง