LH Fund เปิดกอง LHTWGHD ลงทุนใน ETF ไต้หวัน LH Bank ชู 2 มิติ น่าลงทุน
LH Bank ผนึก LH Fund จัดสัมมนาเจาะลึกเศรษฐกิจการลงทุนไต้หวัน ชู 2 มิติ น่าลงทุน ล่าสุด เปิดตัวกองทุนหุ้นไต้หวัน LHTWGHD เสนอขาย IPO ตั้งแต่ 13-20 ม.ค.นี้ โอกาสลงทุนใน ETF ไต้หวัน เน้นปันผลและการเติบโต คาด AUM ปีนี้ 500-1,000 ล้านบาท
นายฉี ชิง-ฟู่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH Bank เปิดเผยว่า LH Bank ร่วมกับ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (LH Fund) จัดงานสัมมนา Opportunities Beyond Borders “Taiwan Investment Forum“ เจาะลึกภาพรวมเศรษฐกิจการลงทุนไต้หวัน
ทั้งนี้ 2 มิติ ที่ทำให้ไต้หวันน่าสนใจลงทุน ได้แก่ 1.เศรษฐกิจมีเสถียรภาพ และมีความโปร่งใส โดยมูลค่าเศรษฐกิจไต้หวันปี 2568 อยู่ที่ 7.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) 3-4% ซึ่งขับเคลื่อนโดย Tech Sector ถึง 75%
2. แม้ไต้หวันมีปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ แต่ในปี 2566-2567 ตลาดหุ้นให้ผลตอบแทนปีละ 20% โดยบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ประมาณ 80% ของ บจ. ทั้งหมดในตลาดหลักทรัพย์ไต้หวัน มีการจ่ายปันผล ในอัตราประมาณ 3%
ดังนั้นจากทั้ง 2 มิติดังกล่าว จึงทำให้เห็นโอกาสการลงทุนในไต้หวัน
ขณะที่คาดว่า GDP ของไทย จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 3% และคาดว่าสินเชื่อรวมของ LH Bank จะขยายตัวได้ดีกว่าในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ที่มีการขยายตัว 8%
นายมนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (LH Fund) กล่าวในงานสัมมนา Opportunities Beyond Borders “Taiwan Investment Forum" หัวข้อ “ภาพรวมการลงทุน 2568” ว่า ไต้หวันมีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ด้วยความเชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ และความสามารถในเทคโนโลยีและนวัตกรรมขั้นสูง ทำให้ได้รับการยอมรับในฐานะผู้นำระดับโลกและเป็นฟันเฟืองสำคัญในห่วงโซ่อุปทานปัญญาประดิษฐ์ (AI)
โดยอุตสาหกรรม AI โลกกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด คาดการณ์ว่ามูลค่าการผลิตจะขยายตัวเฉลี่ย 17.3% ต่อปี และจะทะลุ 3.68 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2577 ด้วยบทบาทสำคัญในเทคโนโลยีแห่งอนาคต ไต้หวันกำลังเดินหน้าสร้างความเปลี่ยนแปลงในตลาดโลกและผลักดันเศรษฐกิจของไต้หวันให้เติบโตอย่างมั่นคง
LH Fund ได้เล็งเห็นความสำคัญในบทบาทของไต้หวันบนเวทีเศรษฐกิจโลก รวมทั้ง LH Fund เป็นบริษัทในกลุ่ม CTBC Bank ซึ่งเป็นบริษัทแม่ที่เป็นธนาคารพาณิชย์เอกชนที่ใหญ่ที่สุดของไต้หวัน มีสินทรัพย์ 7 ล้านล้านบาท มากกว่าธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL ถึง 1.5 เท่า และได้รับการจัดอันดับเครดิตองค์กรที่ระดับ A จาก S&P Global Ratings ทำให้ LH Fund โดดเด่นในเรื่องข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจในไต้หวันเป็นอย่างดี ประกอบกับหุ้นที่มีศักยภาพการเติบโตและจ่ายเงินปันผลสูงเป็นกลุ่มที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนระยะยาว
ล่าสุด LH Fund เปิดตัวกองทุน แอล เอช ไต้หวัน โกรท แอนด์ ไฮ ดิวิเดนด์ (LH Taiwan Growth and High Dividend Fund: LHTWGHD) ซึ่งเป็นกองทุนรวมหุ้นต่างประเทศแบบ Feeder Fund ลงทุนในกองทุนหลัก CTBC TIP Customized Taiwan Growth and High Dividend ETF สกุลเงินดอลลาร์ไต้หวันใหม่ (New Taiwan Dollar: NTD) จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ไต้หวัน (Taiwan Stock Exchange) บริหารจัดการโดย CTBC Investments Co., Ltd.
โดย LHTWGHD จะลงทุนในกองทุนหลักโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV มีระดับความเสี่ยงของกองทุนอยู่ที่ระดับ 6 เหมาะสำหรับนักลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงและความผันผวนของตลาดได้ โดยกองทุนหลักมุ่งหวังติดตามผลการดำเนินงานของดัชนี TIP Customized Taiwan Growth and High Dividend Index (ดัชนีอ้างอิง) ประกอบด้วย หุ้น 50 บริษัทที่มีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล และมีศักยภาพการเติบโตระยะยาว เช่น หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี สินค้าอุปโภคบริโภค และโครงสร้างพื้นฐาน โดยมีเป้าหมายสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงและสูงกว่าตลาด
นายมนรัฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า กองทุน LHTWGHD จะเสนอขายครั้งแรก (IPO) ตั้งแต่วันที่ 13-20 ม.ค.2568 คาดว่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) ของกองทุนนี้จะอยู่ที่ 500-1,000 ล้านบาท ภายในปีนี้
ผู้ที่สนใจสามารถลงทุนครั้งแรกเริ่มต้น 1,000 บาท โดยสามารถทำรายการผ่าน LHFund Online หรือ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ทุกสาขา หรือตัวแทนการขายหน่วยลงทุนที่ได้รับการแต่งตั้ง
นอกจากนี้ มีแผนเปิดตัวกองทุนที่ลงทุนหุ้นในไต้หวัน อีก 3 กองทุน ในปีนี้ โดยเปิดตัวกองทุนไตรมาสละ 1 กองทุน ส่งผลให้ในปีนี้เปิดตัวกองทุนหุ้นไต้หวัน 4 กองทุน