posttoday

เปิดโผ 8 หุ้นเด่น รับประโยชน์มาตรการ Easy E-Receipt 2.0 คิกออฟวันนี้วันแรก

16 มกราคม 2568

ส่อง 8 หุ้นเด่น รับประโยชน์มาตรการ Easy E-Receipt 2.0 เริ่มวันนี้วันแรก จนถุึงวันที่ 28 ก.พ.68 ลดหย่อนภาษีสูงสุด 50,000 บาท

วันนี้เป็นวันแรกที่มาตรการ Easy E- Receipt 2.0 ที่ประชาชนสามารถนำค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้าและบริการมาลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี 2568 ได้สูงสุด 50,000 บาท แบ่งเป็นสินค้าและ บริการทั่วไป 30,000 บาท และสินค้าชุมชน OTOP อีก 20,000 บาท โดยและมาตรการดังกล่าวยังใช้ได้ถึงวันที่ 28 ก.พ.2568 

ทั้งนี้ ครอบคลุมสินค้า หรือค่าบริการที่จด VAT และใช้จ่ายในร้านค้าที่มี e- Tax Invoice แบบเต็มรูป หรือ e-Receipt เป็นหลักฐาน แต่จะยกเว้นสินค้า ได้แก่ สุรา เบียร์ ไวน์ ยาสูบ น้ำมัน ก๊าซ ค่าบริการอัดประจุไฟฟ้าสำหรับเติมยานพาหนะ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ เรือ ค่าสาธารณูปโภค น้ำ ประปา ไฟฟ้า สัญญาณโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ต ค่าบริการที่มีข้อตกลงการให้บริการและผู้รับบริการ สามารถใช้บริการนอกเหนือจากระยะเวลาของมาตรการ ค่าเบี้ยประกันวินาศภัย ค่าบริการนำเที่ยว ค่าที่พัก โรงแรม ค่าที่พักโฮมสเตย์

โดยมาตรการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย ปัจจุบันมีผู้ประกอบการเข้าร่วมระบบกว่า 12,000 ราย ครอบคลุมร้านค้ากว่า 108,000 แห่งทั่วประเทศ

ดังนั้น “โพสต์ทูเดย์” ได้หยิบยกบทวิเคราะห์ของ บล.กรุงศรี ซึ่งได้คัดเลือกหุ้นเด่นที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากมาตรการ Easy E-Receipt 2.0 ประกอบด้วย 8 หุ้น ในกลุ่มค้าปลีก กลุ่มบัตรเครดิต กลุ่มธนาคาร และกลุ่มท่องเที่ยว ดังนี้ 

1. บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือCRC 

2. บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO 

3. บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC 

4. ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK 

5. บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB 

6. ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL 

7. บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW 

8. บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL