posttoday
"OR"ไฮซีซั่นดัน Q4/67 พลิกมีกำไร CEO เร่งเกมฟื้นเชื่อมั่น

"OR"ไฮซีซั่นดัน Q4/67 พลิกมีกำไร CEO เร่งเกมฟื้นเชื่อมั่น

03 กุมภาพันธ์ 2568

ซีอีโอ OR เร่งเครื่องฟื้นเชื่อมั่น รายได้ปี 68 โต 2-3% ชิงมาร์เก็ตแชร์ปั้มน้ำมันแตะระดับ 38% โบรกคาดไฮซีซั่นธุรกิจหนุนไตรมาส 4/67 พลิกมีกำไร ด้านไตรมาส 1/68 กำไรทรงตัว ยอดขายน้ำมันย่อตัว พร้อมหั่นเป้าทั้งปีย่อลงมาแตะ 9,900 ล้านบาท เหตุราคาน้ำมันผันผวน-นโยบายรัฐฯกดดัน

KEY

POINTS

  • "หม่อมหลวงปีกทอง" เร่งเครื่องฟื้นเชื่อมั่น OR วางเป้ารายได้ปี 68 โต 2-3% ชิงมาร์เก็ตแชร์ปั้มน้ำมันแตะ 38%
  • โบรกคาดไฮ

ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น "บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จํากัด (มหาชน) หรือ OR" ปิดการซื้อขายในช่วงเช้าวันนี้(3 ก.พ.2568) อยู่ที่ 11.20 บาท ลดลง 0.40 บาท คิดเป็น -3.45% มูลค่าการซื้อขาย 168.49 ล้านบาท ราคาขึ้นสูงสุด 11.40 บาท และลดลงต่ำสุด 10.70 บาท นับวันราคาหุ้น OR มีแต่ร่วงต่อเนื่อง และดูเหมือนจะกลับไปยืนเหนือราคาไอพีโอที่ 18 บาทนั้นช่างห่างไกล!

\"OR\"ไฮซีซั่นดัน Q4/67 พลิกมีกำไร CEO เร่งเกมฟื้นเชื่อมั่น

แม้ล่าสุด ซีอีโอคนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (OR) ยืนยันก่อนหน้านี้ว่า สิ่งที่โออาร์โดนโจมตีในอดีตผ่านไป ซึ่งสามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นเรื่องที่ไม่จริง ฉะนั้นส่วนตัวคิดว่าถ้าทุกคนมั่นใจ รัก ปตท.และโออาร์ มั่นใจว่าโออาร์กับ ปตท. ในฐานะผู้ดูแลความมั่นคงของประเทศชาติจะมีประโยชน์ให้มาใช้บริการ โออาร์ชนะจีดีพีแน่นอน

\"OR\"ไฮซีซั่นดัน Q4/67 พลิกมีกำไร CEO เร่งเกมฟื้นเชื่อมั่น

\"OR\"ไฮซีซั่นดัน Q4/67 พลิกมีกำไร CEO เร่งเกมฟื้นเชื่อมั่น

"รายได้ปีนี้คาดเติบโต 2-3% สอดคล้องกับตัวเลขจีดีพีของประเทศ พร้อมตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน PTT Station แตะระดับ 38% หลังจากที่ผ่านมาแตะระดับ 35-36% โดยเน้นความแข็งแกร่งและข้อได้เปรียบของ Ecosystem ดึงลูกค้ากลับมา ขณะที่กำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) คาดเติบโต 10-15% หลังจากปีที่ผ่านมาได้บันทึกด้อยค่าธุรกิจที่ไม่โตตามแผนทั้งจำนวน และในปีนี้คาดว่าไม่มีการตั้งด้อยค่าอีก"

ไฮซีซั่นดัน Q4/67 พลิกเป็นกำไร

ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า คาดผลประกอบการงวดไตรมาส 4/67 จะพลิกกลับเป็นกำไรสุทธิ 2.8 พันล้านบาท จากงวดไตรมาส 3/67 ที่เผชิญขาดทุนสุทธิ 1.6 พันล้านบาท โดยมีแรงหนุนจากผลการดำเนินงานที่คาดฟื้นตัวในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มธุรกิจ Mobility ที่คาด EBITDA ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ราว 3 พันล้านบาท จากเพียง 305 ล้านบาท ในงวดก่อนหน้า ผลจากกำไรขั้นต้นเฉลี่ยต่อลิตรที่คาดเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 0.85 บาท/ลิตร จากเดิม 0.51 บาท/ลิตร ตามผลของขาดทุนสต็อกน้ำมันที่ลดลงจากไตรมาสก่อน 

รวมถึงปริมาณขายน้ำมันโดยรวมที่คาดจะปรับตัวขึ้นราว 9% มาอยู่ที่ 9 พันล้านลิตร ตามการเข้าสู่ช่วง High season ของฤดูกาลท่องเที่ยวในช่วงปลายปี และการขยายสถานีบริการที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง รวมถึงการควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลให้ EBITDA margin ในธุรกิจ Mobility คาดอยู่ที่ 1.7% จากเพียง 0.2% ในงวดไตรมาส 3/67

อีกทั้งธุรกิจ lifestyle คาด EBITDA เพิ่มขึ้น 38.1% จากไตรมาสก่อน มาอยู่ที่ 1.6 พันล้านบาท หนุนหลักจากธุรกิจ Cafe amazon ที่คาดปริมาณขายเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน จากการจับจ่ายใช้สอยในภาคครัวเรือนที่ปรับตัวดีขึ้นในช่วงปลายปี โดยรวมแล้วคาด EBITDA Margin ของธุรกิจ lifestyle จะอยู่ที่ 26% จากเดิม 20.2%

นอกจากนี้คาด EBITDA ปรับตัวเพิ่มขึ้น 26.9% มาอยู่ราว 495 ล้านบาท หนุนจากกำไรขั้นต้นเฉลี่ยต่อลิตรที่คาดปรับตัวเพิ่มขึ้นสอดคล้องกับอัตรากำขั้นต้นต่อลิตรในประเทศไทย ขณะที่ยอดขายน้ำมันโดยรวมคาดยังทรงตัวใกล้เคียงเดิม QoQ ประกอบกับธุรกิจ Cafe Amazon ในต่างประเทศที่คาดปรับตัวเพิ่มขึ้น QoQ ส่งผลให้ภาพรวมคาด EBITDA Margin ของกลุ่มธุรกิจ Global อยู่ที่ 3.5% จาก 3% ในงวดก่อนหน้า

ส่วนรายการ Fx และตราสารอนุพันธ์ สุทธิแล้วคาดมีการบันทึกกลับเป็นกำไร 600 ล้านบาท จากงวด 3Q67 ที่บันทึกขาดทุน 1.3 พันล้านบาท ตามค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ ณ สิ้นงวด 4Q67 นอกจากนี้ คาดจะมีการบันทึกผลขาดทุนจากการด้อยค่าอยู่ที่ 300 ล้านบาท เกิดจากการด้อยค่าในเงินลงทุน เทียบกับงวดก่อนหน้าที่มีการรับรู้ค่าใช้จ่ายพิเศษจากการยุติธุรกิจ Texas Chicken และ Kouen group สุทธิ (หลังภาษี) 552 ล้านบาท

โดยรวมแล้วคาดกำไรสุทธิปี 67 อยู่ที่ 7.5 พันล้านบาท ปรับตัวลดลง 32.3%yoy และอยู่ในระดับใกล้เคียงกับประมาณการกำไรสุทธิทั้งปี 2567 ที่ฝ่าย
วิจัยประเมินไว้

หั่นกำไรปี 68-69

ฝ่ายวิจัยปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2568 ลง 12.7% จากเดิมมาอยู่ที่ 9.9 พันล้านบาท และปี 2569 ลดลง 10% อยู่ที่ 1.1 หมื่นล้านบาท เพื่อสะท้อนการปรับปรุงสมมติฐานกำไรขั้นต้นเฉลี่ยต่อลิตร ตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไปลงมาอยู่ที่ 0.95 บาทต่อลิตร เพื่อให้อยู่ภายใต้หลักความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น จากความผันผวนของราคาน้ำมัน รวมถึงปัจจัยกดดันของนโยบายภาครัฐฯที่ยังคงอยู่

ภายใต้ประมาณการใหม่ส่งผลให้กำไรสุทธิปี 68 คาดปรับตัวเพิ่มขึ้น 32.2%จากปีก่อนหนุนจากอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยต่อลิตรที่คาดจะปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่สภาวะปกติจากค่าเฉลี่ยราว 0.85 บาทต่อลิตร ในปี 67 ตามผลกระทบของขาดทุนสต็อกน้ำมันที่เกิดขึ้นในปีนี้ ประกอบกับปริมาณขายปลีกน้ำมันคาดจะทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้น YoY ตามการใช้นโยบายส่งเสริมการขายเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดให้เพิ่มขึ้น หลังจากปี 67 ที่ได้รับผลกระทบจากประเด็นข่าวปลอมเกี่ยวกับมาตรวัตรน้ำมันในสถานีบริการ ปตท. ที่ไม่ตรงค่ามาตรฐาน

นอกจากนี้คาดยังมีแรงหนุนจากธุรกิจ lifestyle ที่คาดปริมาณขายโดยรวมจะยังเห็นการเติบโตต่อเนื่อง YoY ตามการขยายสาขา และแนวโน้มเศรษฐกิจที่ขยายตัว รวมถึงคาดจะไม่มีการรับรู้ค่าใช้จ่ายพิเศษจากด้อยค่าและการยุติกิจการ ดังที่เคยเกิดขึ้นในปี 2567

ในช่วงสั้น งวดไตรมาส 1/68 คาดกำไรยังทรงตัวได้ในระดับสูงใกล้เคียงเดิม โดยธุรกิจ Mobility คาดปริมาณขายน้ำมันโดยรวมจะอ่อนตัวลงเล็กน้อย จากไตรมาสก่อนหน้า หลังจากผ่านพ้นช่วง High season มาแล้วในงวดไตรมาส 4/67 ขณะที่กำไรขั้นต้นเฉลี่ยต่อลิตรคาดยังทรงตัวได้ในระดับใกล้เคียงเดิมที่ราว 0.8-0.9 บาทต่อลิตร

อย่างไรก็ตามคาดได้รับแรงหนุนชดเชยได้จากธุรกิจ lifestyle ที่ยิดขายโดยรวมยังสามารถเติบโตได้จากไตรมาสก่อน จากการจับจ่ายใช้สอยที่เพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และการขยายสาขา Cafe Amazon อย่างต่อเนื่อง รวมถึงคาดไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษจากการด้อยค่าดังที่เคยเกิดขึ้นในงวดนี้

เปิดวิชั่น CEO คนใหม่กับภารกิจฟื้นเชื่อมั่น "OR" 

"OR" เดินหน้า Mobility - Lifestyle ดันอิบิทดา ฟื้นเชื่อมั่นนักลงทุน

Thailand Web Stat