
"อัสสเดช" เร่งหารือ "คลัง" งัดมาตรการฟื้นหุ้นไทย
สถานการณ์ตลาดหุ้นไทยเข้าขั้นวิกฤติ! ความเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นไทยนับตั้งแต่ต้นปี 2568 จนถึงปัจจุบัน (YTD) ปรับตัวลดลง 118 จุด คิดเป็น -8.44% โดยความเคลื่อนไหวล่าสุดในวันนี้ (10 ก.พ. 2568) ดัชนีแตะที่ระดับ 1,270.49 จุด ลดลง 11.60 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 43,206.59 ล้านบาท
"อัสสเดช คงสิริ" กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลาดหลักทรัพย์ฯ) กล่าวยอมรับว่าตลาดหุ้นไทยผันผวนหนัก ตลาดหลักทรัพย์ฯอยู่ระหว่างหารือกับกระทรวงการคลังและหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องเพื่อหามาตรการเร่งด่วนระยะสั้น กลางและยาวเข้ามากระตุ้นตลาดหุ้นไทย ทั้งนี้รายละเอียดต่างๆคงอยูาระหว่างพูดคุยและยังไม่มีรายละเอียดชัดเจน แต่จะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด
"ถามว่าตลาดหุ้นไทยร่วงต่อเนื่องถือว่าเข้าขั้นวิกฤติหรือไม่นั้น ผมไม่แน่ใจเรียกว่าวิกฤติได้หรือไม่ เพราะมีหลายปัจจัยที่คาดไม่ถึง ซึ่งการที่หุ้นลงไม่ดีอยู่แล้ว และคงไม่มีใครชอบ แต่ในส่วนตลาดอยากให้มองปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก หากสร้างพื้นฐานให้แข็งแกร่ง เราก็มีโอกาสเติบโตได้ และจะเป็นประโยชน์ต่อตลาดทุนโดยรวม"
หุ้นไทยไม่ Lost Decade! ตลท.เร่ง "Jump+"ฟื้นเสน่ห์ ดึงฟันด์โฟลว์ไหลเข้า
13 บจ.แห่ซื้อหุ้นคืน 3 หมื่นล้าน "อัสสเดช"แนะนำเงินลงทุนดันธุรกิจโตยั่งยืน
หุ้นไทย(ไม่)ไร้เสน่ห์! ตลท. ชู 4 จุดแข็งขับเคลื่อนตลาดหุ้นสู้ศึกภูมิภาค
"ศรพล ตุลยะเสถียร" รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่เงินลงทุนกระจุกตัวอยู่ในหุ้น AI เพียงไม่กี่ตัว มีโอกาสเกิดปรับฐานครั้งใหญ่ อีกทั้งความไม่แน่นอนเชิงนโยบาย มีโอกาสที่ FED อาจต้องปรับมาใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเร็วกว่าคาด ส่งผลต่อทิศทางฟันด์โฟลว์เคลื่อนย้ายออกจากสหรัฐฯกลับมายัง Emerging Market
รวมถึงตลาดหุ้นไทยยังมีความน่าสนใจจากการที่เป็นตลาดที่มีความผันผวนต่ำ โดยพิจารณาจากค่า End of day volatility ของ SET Index สาเหตุหนึ่งมาจากเป็นตลาดหุ้นที่มีอัตราผลตอบแทน dividend yield สูงอย่างต่อเนื่อง โดยค่าเฉลี่ยย้อนหลังตั้งแต่ปี 2000 ถึงปัจจุบันอยู่ที่ 3.14% จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการกระจายการลงทุนไปในสินทรัพย์ที่มีลักษณะ Defensive Stock
"การกล่าวสุนทรพจน์หลังพิธีสาบานตนในวันแรกของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 โดนัลด์ ทรัมป์ เปิดฉากสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อสหรัฐฯ และทั่วโลก โดย IMF มีมุมมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะมีความแข็งแกร่งมากขึ้น แต่มีความเสี่ยงด้านลบในประเทศอื่นๆ จากความไม่แน่นอนของนโยบายที่เปลี่ยนแปลงไปจะทำให้ธนาคารกลางต่างๆ ใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายได้ยากขึ้น ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้น และค่าเงินดอลลาร์มีแนวโน้มแข็งค่า"
ภาวะตลาดหลักทรัพย์ไทยเดือนมกราคม 2568 ดัชนีปิดที่ 1,314.50 จุด ทำให้ในเดือนแรกปีนี้ดัชนีปรับลดลง 6.1% มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันใน SET และ mai อยู่ที่ 39,006 ล้านบาท ลดลง 17.2% จากเดือนมกราคม 2567 อย่างไรก็ตาม เห็นสัญญาณเกี่ยวกับมูลค่าการซื้อขายผู้ลงทุนสถาบันในประเทศเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับสูงกว่า 10% ของมูลค่าซื้อขายทั้งหมด สี่เดือนต่อเนื่อง
ขณะที่ Forward P/E ของตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือนมกราคม 2568 อยู่ที่ระดับ 15 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชีย อยู่ที่ระดับ 12.6 เท่า และ Historical P/E อยู่ที่ระดับ 17.7 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 14.2 เท่า อัตราเงินปันผลตอบแทน ณ สิ้นเดือนมกราคม 2568 อยู่ที่ระดับ 3.64% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชีย อยู่ที่ 3.28%