
SET ส่งท้ายกุมภาพันธ์ กลับมายืน 1,203.72 จุด สัปดาห์หน้า 1,190 จุด ห้ามหลุด!
ความเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายวันนี้(28 กุมภาพันธ์ 2568) อยู่ที่ 1,203.72 จุด ลดลง 12.01 จุด คิดเป็น -0.99% มูลค่าการซื้อขาย 74,434.26 ล้านบาท ระหว่างวันดัชนีปรับขึ้นสูงสุด 1,206.58 จุด และลดลงต่ำสุด 1,186.36 จุด
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เผยดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET Index) ภาคเช้านี้ปรับลดลง 20.47 จุด หรือ 1.68% ลดลงจากเมื่อวานนี้ มาอยู่ที่ 1,195.26 จุด ในทิศทางเดียวกับดัชนีตลาดหุ้นภูมิภาค เช่น Nikkei ลดลง 3% Hang Seng ลดลง 2.35% และ KOSPI ลดลง 3.27% สาเหตุหลักมาจากความกังวลเรื่องสงครามการค้าที่อาจจะรุนแรงขึ้น หลังจากที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศที่จะเก็บภาษีนำเข้าจากแคนาดา และเม็กซิโก ในวันที่ 4 มี.ค.2568 และจะเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มอีก 10% มีผลวันเดียวกัน
นอกจากนี้ ยังมาจากความกังวลว่าตลาดหุ้นไทยจะได้รับผลกระทบจาก MSCI Rebalance ซึ่งมีผลต่อดัชนีราคาหุ้นโดยรวมวันนี้
ตลาดหลักทรัพย์ฯขอให้ผู้ลงทุนติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิดจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ วิเคราะห์รอบด้าน และใช้วิจารณญาณในการพิจารณาซื้อขายให้เหมาะสมกับสถานการณ์
ฝ่ายวิเคราะห์ บล.กรุงศรี ระบุว่า หุ้นไทยปิดปรับตัวลดลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นฝั่งเอเชีย กลุ่มที่ปรับลง คือ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ DELTA,HANA,KCE กลุ่มสื่อสาร ADVANC ขณะที่กลุ่มที่ปรับขึ้นคือ กลุ่มวัสดุก่อสร้าง SCCC,SCC
หุ้นที่เคลื่อนไหวโดดเด่น คือ HANA ราคาร่วงหลังแจ้งกำไรอ่อนแอสุดในรอบ 22 ปี HANA มีกำไรจากการดำเนินงานในไตรมาส 4/67 ต่ำเพียง 11 ล้านบาท ลดลง 79%จากไตรมาสก่อนและลดลง 96%จากปีก่อน นอกจากนี้ยังมีรายการพิเศษจากการตั้งสำรองด้อยค่าของธุรกิจ PMSในประเทศเกาหลีใต้อีก 1.8 พันล้านบาทส่งผลให้มีผลการดำเนินงานขาดทุนสุทธิ 1,729 ล้านบาท เราปรับลดคำแนะนำจาก ถือ เป็น ขาย ราคาเป้าหมาย 17 บาท
ด้านหุ้น CRC ร่วงลงเช่นกันด้วยผิดหวังงบไตรมาส 4/67 มีกำไรสุทธิ 2.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% จากไตรมาสก่อน แต่หดตัว 29%จากปีก่อน และต่ำกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดไว้ 21% โดยมี SSSG ลดลง 1.3% ส่งผลให้ SSSG ทั้งปี 67 ลดลง 1.6% แย่ลงเมื่อเทียบปี 66 เพิ่มขึ้น +3.6%
หุ้น CPALL ปรับตัวเพิ่มขึ้นรับงบแกร่ง บวกคลายกังวล Seven & i ราคาหุ้นร่วงแรงในช่วงก่อนหน้ากังวลข่าวเข้าลงทุน Seven & i แต่สุดท้ายบริษัทออกมาปฏิเสธ ขณะเดียวกันผลประกอบการสุดแข็งแกร่งมีกำไรสุทธิไตรมาส 4/67 ที่ 7.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 28%จากไตรมาสก่อนและ 31%จากปีก่อนทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ฝ่ายวิเคราะห์แนะนำ ซื้อ เป้าใหม่ 80 บาท จากเดิม 70 บาท
ขณะที่ AP บวกรับกำไรสุทธิ in-line ปันผลสูง กำไรสุทธิไตรมาส 4/67 ที่ 1.29 พันล้านบาท ลดลง 3%จากปีก่อนและลดลง 11%จากไตรมาสก่อน แต่ใกล้เคียงกับที่ฝ่ายวิเคราะห์คาด นอกจากนี้ AP ประกาศจ่ายปันผลครึ่งหลังปี 67 ที่ 0.60 บาท คิดเป็น yield 6.7% ขึ้น XD วันที่ 7 พ.ค.68
หุ้น BCH คาดบวกรับผลประกอบการที่คาดว่าผ่านจุดต่ำสุด โดยเช้านี้ BCH แจ้งงบไตรมาส 4/67 มีกำไรสุทธิ 233 ล้านบาท ลดลง 49%จากไตรมาศก่อน และ 45%จากปีก่อน ตลาดรับรู้ไปแล้ว แนวโน้มจะทยอยฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 1/68 โดยในปี 68 คาดกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 24%เติบโตดีขึ้นตามการเติบโตของรายได้กลุ่มเงินสดและประกันสังคม นักวิเคราะห์มองเป็นโอกาสซื้อ ราคาเป้าหมาย 19 บาท
1,190 จุดต้องยืนไหว!
นักกลยุทธ์ บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า หุ้นไทยวันนี้สามารถกลับมาปิดเหนือ 1,190 จุด ยืนเหนือระดับ 1,200 จุด แต่จะดีขึ้นหากสามารถยืนเหนือ 1,212 จุด ดัชนีลุ้นฟื้นตัวรอบสั้นได้ แต่หากหุ้นไทยในสัปดาห์หน้า(ระหว่างวันที่ 3-7 ก.พ.68) ดัชนีกลับมาหลุดต่ำกว่า 1,190 จุด นักลงทุนต้องหยุดเล่น เพราะมีโอกาสที่ดัชนีหุ้นไทยจะลงไปได้อีก 100-200 จุด อาจลงไปแตะระดับ 1,000 จุดได้
"หุ้นไทยสัปดาห์หน้าหากหลุด 1,190 จุด ดัชนีมีโอกาสไหลลงแรง นักลงทุนต้องหยุดเล่นและถือเงินสดให้พร้อม เตรียมตัวลุ้นสัญญาณ V-Shape เด้งขึ้นแรง ส่วนกราฟรายเดือน สัญญาณหุ้นไทยไม่ดีนัก ด้วยกราฟแดงเต็มแท่งที่ 4 ถ้าหลุด 1,000 จุดถือว่าดัชนีเข้าขั้นวิกฤติ"