SET ฟื้นตัวได้ต่อ หลังปัจจัยกดดันผ่อนคลาย แนะ “Selective Buy” ชู AAV และ BBL

06 มีนาคม 2568

SET ฟื้นตัวขึ้นได้ต่อ หลังปัจจัยกดดันจากการขึ้นภาษีของ ปธน. ทรัมป์ ผ่อนคลาย และความคาดหวัง Fed ลดดอกเบี้ยมีมากขึ้น กลยุทธ์การลงทุน “Selective Buy” แนะนำ AAV และ BBL

บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) ประเมินว่า SET ฟื้นตัวขึ้นได้ต่อ ปัจจัยกดดันจากการขึ้นภาษีของ ปธน. ทรัมป์ ผ่อนคลายลง ประกอบกับความคาดหวัง Fed ลดดอกเบี้ยมีมากขึ้น รวมทั้งเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า-บาทแข็ง คาดจะทำให้ Fund Flow ไหลกลับเข้าช่วยหนุนตลาด ประเมินแนว รับที่ 1,200-1,190 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,215-1,225 จุด

ทั้งนี้ ช่วงสั้นมอง SET ฟื้นตัวจำกัด จากความกังวลเสถียรภาพทางการเมืองในประเทศและการเติบโตของเศรษฐกิจไทยที่อยู่ในระดับต่ำและฟื้นตัวช้า เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน อย่างไรก็ดี หากเปรียบเทียบในเชิง Valuation จะพบว่า ระดับ PER ของ SET ที่ 12-13 เท่า อาจจะดูเหมือนสูงกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาค แต่มองว่าสัดส่วนภาคบริการของไทยมีมากกว่า เมื่อเทียบกับตลาดอื่นๆ 

ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐยังแข็งแกร่ง แม้จะมีสัญญาณชะลอตัวลงแต่จะได้รับแรงหนุนจากการปรับลดดอกเบี้ยของเฟดเช่นเดียวกับธนาคารกลาง ECB ที่ตลาดคาดจะมีมติปรับลดดอกเบี้ย 25bps สู่ 2.50% ส่วนเศรษฐกิจจีนยังได้รับแรงสนับสนุนจากมาตรการ ของรัฐ

ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ "Selective Buy" ใน 3 ธีมหลักที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว และ 2 ธีมเทรดดิ้งระยะสั้น ดังนี้

1. หุ้น Undervalued เป็นหุ้น SET100 ที่คาดเป็นเป้าหมายกองทุน โดย 1) ปี 2568 คาดกำไรสามารถเติบโตได้ 2) ฐานะการเงินแข็งแกร่งและมีโอกาสซื้อหุ้นคืน (มี PBV < 1 เท่า) 3) Valuation ไม่แพง (PER และ PBV 2568F ต่ำกว่า -1SD) 4) SETESG Rating ระดับ A- AAA และมีศักยภาพจ่ายปันผลสม่ำเสมอ แนะนำ CPALL BDMS MTC MINT BTG

2. หุ้นปันผลคุณภาพดี โดย 1) มีสถิติจ่ายปันผลต่อเนื่อง 20 ปีขึ้นไป และมี SETESG Rating ระดับ A-AAA 2) คาดจ่ายเงินปันผลจากกำไรปี 2567 หลังหักปันผลระหว่างกาลแล้ว ยังให้ Div. Yield เกิน 4% และ Div. Payout Ratio มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหรือทรงตัว และ 3) ปี 2568 ผลประกอบการยังแข็งแกร่ง และราคาหุ้นยังมี Upside เกิน 15% แนะนำ AP KTB BBL PTT SPALI KBANK

3. หุ้น Earnings Play ซึ่งมองราคาหุ้นยังไม่ได้สะท้อนกำไรไตรมาส 1Q/2568 ที่คาดจะเติบโต ΥoY และ QoQ และมีศักยภาพจ่ายปันผลสม่ำเสมอ เลือก ADVANC TRUE AMATA TIDLOR MTC AU HTC

4. Trading Idea: นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้แนะนำเก็งกำไร 1) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์ดอกเบี้ยขาลง แนะนำกลุ่ม REITs (LHHOTEL DIF), กลุ่มค้าปลีก (CPALL CPAXT) กลุ่มอสังหาฯ (AP SIRI), กลุ่มธนาคาร (TISCO KKP), กลุ่มเช่าซื้อ (MTC TIDLOR) และกลุ่มไฟฟ้า (GULF GPSC) และ 2) หุ้นที่คาดได้ Sentiment บวกจากงาน Opp. Day ซึ่งคาดโทน ประชุมเป็นบวกในสัปดาห์หน้า CPALL BCP AMATA KLINIQ

สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ AAV มองราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากเงินบาทที่แข็งค่าและต้นทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบินที่ลดลง ซึ่งจะช่วยมาร์จินกว้างขึ้น อีกทั้งค่าโดยสารเฉลี่ยที่แข็งแกร่งจากตลาด ต่างประเทศที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่ปี 2568 คาดกำไรปกติจะกลับมาเติบโตในระดับปกติที่ 9%YoY หลังจากฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งไปแล้วในปี 2567

BBL มองราคาหุ้นมีโอกาสฟื้นตัวตามภาวะตลาดที่ดีขึ้น และยังเป็นหุ้นเด่นของกลุ่มธนาคาร เนื่องจากมีงบดุลแข็งแกร่งที่สุด สินเชื่อเติบโตมากที่สุด ความเสี่ยงเกี่ยวกับคุณภาพสินทรัพย์ต่ำที่สุด และ Valuation ถูกที่สุดในกลุ่ม ขณะเดียวกัน ยังจัดเป็นหุ้นปันผลคุณภาพดี โดยจะมีการจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 6.50 บาท (XD 23 เม.ย.) คิดเป็น Div. Yield 4.4%

Thailand Web Stat