posttoday

เทียบความมั่งคั่ง "สารัชถ์" ยุค "ประยุทธ์ vs อุ๊งอิ๊งค์" แชมป์ 6 ปี

18 มีนาคม 2568

"สารัชถ์ รัตนาวะดี" เศรษฐีหุ้นไทยไร้เทียมทาน ครองเบอร์หนึ่ง 6 ปีซ้อน พร้อมเทียบฟอร์มความมั่งคั่งระหว่างยุครัฐบาล "ประยุทธ์ vs อุ๊งอิ๊งค์" ยุคไหนกราฟมั่งคั่งพีคสุด

KEY

POINTS

  • "สารัชถ์ รัตนาวะดี" เศรษฐีหุ้นไทยไร้เทียมทาน ครองเบอร์หนึ่ง 6 ปีซ้อน
  • เทียบฟอร์มความมั่งคั่งระหว่างยุครัฐบาล "ประยุทธ์ vs อุ๊งอิ๊งค์" ยุคไหนกราฟมั่งคั่งพีคสุด

"สารัชถ์ รัตนาวะดี" หนึ่งในนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของประเทศไทย สามารถครองตำแหน่งเศรษฐีหุ้นไทยอันดับหนึ่งติดต่อกัน 6 ปีซ้อน ด้วยมูลค่าทรัพย์สินที่เติบโตไม่ต่ำกว่าแสนล้านบาท โดยในปี 2567 มีมูลค่าหุ้นรวม 240,341.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49,513.84 ล้านบาท หรือ 25.95% จากปีก่อนหน้า

ปัจจัยอะไรที่ทำให้ "สารัชถ์" ร่ำรวยมหาศาล แซงหน้าเจ้าสัวของประเทศได้และจะสามารถรักษาความมั่งคั่งนี้ได้อย่างไรในอนาคต ?

เทียบความมั่งคั่ง \"สารัชถ์\" ยุค \"ประยุทธ์ vs อุ๊งอิ๊งค์\" แชมป์ 6 ปี

จากตารางข้างต้นเห็นได้ชัดว่า มูลค่าความมั่งคั่งของ "สารัชถ์ รัตนาวะดี" ที่เคยพุ่งสูงในปี 2565 ถึง 26.51% ก่อนจะปรับตัวลดลง 12.86% ในปี 2566 อย่างไรก็ตาม ปี 2567 ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถในการฟื้นตัวของพอร์ตการลงทุน กลับมามีมูลค่าทรัพย์สินที่เติบโต 25.95% ได้ในที่สุด

ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น!!

ในปี 2566 เกิดการเปลี่ยนผ่านทางการเมืองครั้งสำคัญ จากยุคของรัฐบาล "พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา" อดีตนายกรัฐมนตรีไทย คนที่ 29 ที่ครองตำแหน่งเป็นระยะเวลา 8 ปี 11 เดือน 29 วัน นับตั้งแต่ 24 สิงหาคม 2557-22 สิงหาคม 2566

สู่การเลือกตั้งครั้งแรกของประเทศหลังร้างมานาน โดยมี "เศรษฐา ทวีสิน" ดำรงตำแหน่งนายกฯ คนที่ 30 ดำรงตำแหน่งเป็นระยะเวลา 11 เดือน 23 วัน ตั้งแต่ 22 สิงหาคม 2566 – 14 สิงหาคม 2567

ถามว่า ความมั่งคั่งของ "สารัชถ์" ในช่วงรัฐบาลพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เฟื่องฟูหรือไม่ ? ต้องยอมรับว่า เป็นยุคที่รุ่งเรืองและเฟื่องฟูอย่างต่อเนื่อง! หากไม่นับช่วงวิกฤติโควิด-19 ในปี 2563 ที่ความมั่งคั่งลดลง -4.69% ก่อนกลับขึ้นมาบวกต่อเนื่อง 2 ปีติดต่อกัน 

จนกระทั่งเข้าสู่การเปลี่ยนผ่านทางการเมืองในปี 2566 ความมั่งคั่งลดลง -12.86% ก่อนฟื้นคืนมาอีกครั้งในปี 2567 ซึ่งอยู่ในช่วงของรัฐบาล "นายกฯอุ๊งอิ๊งค์ - แพทองธาร ชินวัตร" ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกฯ คนที่ 31 ระยะเวลาราว 7 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม 2567 จนถึงปัจจุบัน แม้จะยังคงเป็นเพียงช่วงเวลาอันสั้นที่จะนำมาเปรียบเทียบกับรัฐบาลชุดเก่าได้

เทียบความมั่งคั่ง \"สารัชถ์\" ยุค \"ประยุทธ์ vs อุ๊งอิ๊งค์\" แชมป์ 6 ปี

หากแต่พอร์ตลงทุนของ "สารัชถ์" ที่ลงทุนหุ้นหลักอย่าง "บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF" ถือหุ้นในสัดส่วน 35.81% รวมถึงหุ้นของ "บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ITC" ผู้ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงที่เป็นบริษัทลูกของ TU โดยถือหุ้นสัดส่วน 0.67%

การถือครองหุ้นเหล่านี้ รวมถึงหุ้นที่ซื้อมาขายไปในช่วงระยะเวลาหนึ่งช่วยผลักดันมูลค่าทรัพย์สินความมั่งคั่งจากการลงทุนเพิ่มขึ้นและทำให้ "สารัชถ์ รัตนาวะดี" ครองตำแหน่งแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง

เทียบความมั่งคั่ง \"สารัชถ์\" ยุค \"ประยุทธ์ vs อุ๊งอิ๊งค์\" แชมป์ 6 ปี

ภาพธุรกิจ "บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF" ในปี 2568 ยังคงวางเป้ารายได้จะเติบโต 20-25% จากปี 2567 ทำได้ 124,585 ล้านบาท ผลจากเปิดโครงการโรงไฟฟ้าหินกอง(HKP)หน่วยที่ 2 ขนาดกำลังการผลิต 770 เมกะวัตต์ (MW) เปิดดำเนินการตั้งแต่ 25 ม.ค.68 , โครงการโซลาร์ฟาร์ม 7 โครงการ ขนาดรวมเกือบ 600 MW และโครงการโซลาร์รูฟท็อปอีก 110 MW ส่งผลให้ปี 2568 มีกำลังการผลิตใหม่ 1,500 MW ทำให้กำลังการผลิตรวมเพิ่มขึ้นเป็น 16,577 MW จากปีก่อนอยู่ที่ 15,100 MW

พร้อมรับรู้รายได้เต็มปีจาก "โซลาร์ฟาร์มและโซลาร์แบตเตอรี่ในประเทศ" จำนวน 5 โครงการที่เปิด COD เดือน ธ.ค.67 ประกอบกับเป็นปีแรกที่รับรู้รายได้และกำไรเต็มปีของโรงไฟฟ้า GPD กำลังผลิตรวม 2,650 MW

ส่วน ธุรกิจนำเข้า LNG มีแผนนำเข้าทางเรืออีก 70 ลำ ราว 4-5 ล้านตันต่อปี เพื่อนำมาใช้ในโรงไฟฟ้าไอพีพี 5,000 MWและโรงไฟฟ้าหินกองช่วยให้ GULF รับรู้รายได้ไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท

ธุรกิจดิจิทัล คาดว่าจะเปิดให้บริการศูนย์ข้อมูล (Data center) ภายในวันที่ 25 เม.ย.68 เบื้องต้นมีลูกค้าเฟสแรก 25 เมกะวัตต์ พร้อมขยายเฟส 2 อีกไม่ต่ำกว่า 50 เมกะวัตต์ ส่วนธุรกิจคลาวด์ในไทยที่ได้พันธมิตร Google คาดเปิดให้บริการภายในกลางปีนี้

ภายหลังควบรวมระหว่าง GULF กับ INTUCH เป็นบริษัทใหม่ "Gulf Development Public Company Limited" ซึ่งถือหุ้นโดยตรงใน ADVANC สัดส่วน 40% รับรู้ส่วนแบ่งกำไรไม่ต่ำกว่า 3,500 ล้านบาทต่อปี โดย GULF และ INTUCH จะหยุดการซื้อขาย วันที่ 21 มี.ค.- 2 เม.ย.68 พร้อมเปิดซื้อขายในนามบริษัทใหม่ วันที่ 3 เม.ย.68 โดยใช้ชื่อย่อ "GULFI" 

เทียบความมั่งคั่ง \"สารัชถ์\" ยุค \"ประยุทธ์ vs อุ๊งอิ๊งค์\" แชมป์ 6 ปี

แม้ภาพรวมยังสดใส แต่ถึงกระนั้นการมองภาพไกลยังคงต้องจับตาอย่างใกล้ชิด เนื่องจากความผันผวนของตลาดหุ้นและปัจจัยทางเศรษฐกิจที่เผชิญความท้าทายในเบื้องหน้า 

ความสำเร็จของ "สารัชถ์ รัตนาวะดี" ไม่ได้มาจากโชคช่วย แต่เกิดจากกลยุทธ์การลงทุนที่ชาญฉลาดและการบริหารธุรกิจอย่างมีวิสัยทัศน์ การครองตำแหน่งเศรษฐีหุ้นไทยอันดับหนึ่งติดต่อกันหลายปีสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของพอร์ตการลงทุนและความสามารถในการปรับตัวท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของธุรกิจและการแข่งขัน

ในปี 2568 และปีต่อๆไปจะเป็นบททดสอบสำคัญว่า บิ๊กบอสที่ชื่อ "สารัชถ์" จะสามารถรักษาสถานะการลงทุนในฐานะเจ้าพ่อแห่งวงการพลังงานและเทคโนโลยีของประเทศได้หรือไม่ ?