SET ลุ้นฟื้นตัว 1,165-1,200 จุด เชียร์ “CPALL” กำไรดี - พี/อีถูก

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุนฝ่ายวิจัย บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า วันนี้คาดตลาดให้น้ำหนักไปที่การประชุมธนาคารกลางสำคัญ 2 แห่ง คือ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) โดยทางด้านการประชุม FED คาดรอบนี้มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 4.25-4.50% ตามเดิม เนื่องจากยังคงมีความไม่แน่นอนต่อการดำเนินนโยบายต่างๆของทรัมป์

ดังนั้นในระยะสั้นอาจยังไม่รีบปรับลดดอกเบี้ย แต่เชื่อว่าในปีนี้ยังมีโอกาสที่ FED จะลดดอกเบี้ยลงอีก 2 ครั้ง (ครั้งละ 0.25%) ซึ่งน่าจะสอดคล้องกับการรายงาน Dot Plot ในรอบนี้ที่คาดยังใกล้เคียงกับ Dot Plot ที่ประกาศออกมาในช่วงปลายปีที่แล้ว

ทางด้านการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น คาด BOJ จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.5% ตามเดิมเช่นกัน เนื่องจากอาจรอดูท่าทีการกำหนดนโยบายที่ชัดเจนของทรัมป์ก่อน รวมถึงการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยถือว่าสอดคล้องกับในระยะสั้นที่ค่าเงินเยนอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ

แต่อย่างไรก็ดีภาพระยะกลางคาดแนวโน้มเงินเฟ้อญี่ปุ่นยังมีทิศทางที่เพิ่มขึ้น ดังนั้นมีโอกาสที่ BOJ จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในช่วงถัดไป โดยอาจเกิด Yen carry trade ในช่วงถัดไป เป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องจับตา

ส่วนปัจจัยในประเทศ คาด SET มีลุ้นฟื้นตัว เนื่องจากปัจจุบันเทรดในระดับที่ไม่แพง โดยคิดเป็น PE เพียง 12.3 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวถึง -2.0SD ถือเป็นระดับที่น่าทยอยสะสม เน้นหุ้นพื้นฐานดี กำไรเติบโตเด่น ราคายังอยู่โซนล่าง และมี Valuation น่าสนใจ 

คาด SET วันนี้ “ลุ้นฟื้นตัว” ในกรอบ 1,165-1,200 จุด จับตาการประชุม BOJ และ FED วันนี้ คาดทั้งคู่ยังคงดอกเบี้ยที่ระดับเดิม หลังนโยบายทรัมป์ยังไม่แน่นอน ส่วนในประเทศ SET Valuation อยู่ในระดับที่ไม่แพง น่าทยอยสะสม เน้นหุ้น Big Cap โซนล่าง ที่แนวโน้มกำไรเติบโตดี และมี PE ไม่แพง 

โดยวันนี้แนะนำ “CPALL” ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 75 บาท แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/68 คาดได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นการบริโภคของภาครัฐฯ ทั้ง Easy e-Receipt และ Digital wallet โดยยอดขายต่อสาขาคาดยังคงแข็งแกร่งกว่ากลุ่ม
 
ขณะที่ Valuation ปัจจุบันเทรดเพียง PE 16.2 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย Forward PE ระยะยาวที่ 20 เท่า ถือว่าราคาปัจจุบันอยู่ในระดับที่น่าทยอยสะสม