
"ORI" เดินเกมดันลูกเข้าตลาดหุ้น-รายได้ปี 68 แตะ 14,000 ล้าน
นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI เปิดเผยว่า ในปี 2568 เดินหน้าขับเคลื่อนองค์กรภายใต้กลยุทธ์ “Resilience Leads To Sustainable Growth” สร้างความยืดหยุ่นในการบริหารองค์กร พร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลง สู่การเป็นผู้นำและการเติบโตอย่างยั่งยืนบนโอกาสใหม่ เพื่อสร้างความสมดุลในระยะยาว
ในปีนี้เตรียมเปิดโครงการใหม่ทั้งในพื้นที่กรุงเทพและต่างจังหวัด จำนวน 11 โครงการ มูลค่ารวม 20,000 ล้านบาท เป็นคอนโดจาก ORIGIN VERTICAL จำนวน 5 โครงการ มูลค่ารวม 12,500 ล้านบาท และบ้าน BRITANIA จำนวน 6 โครงการ มูลค่า 7,500 ล้านบาท
พร้อมวางเป้ายอดขายรวมปีนี้ 30,000 ล้านบาท เป้ารายได้รวม 14,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 11,900 ล้านบาทในปี 2567 จากการโอนแนวราบและคอนโดมิเนียมที่บริษัทลงทุนเองราว 10,500 ล้านบาท ส่วนที่เหลือมาจากรายได้ธุรกิจอื่นๆ โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรมและคลังสินค้าให้เช่าที่เติบโตต่อเนื่อง
นอกจากนี้ เตรียมเปิดโรงแรมใหม่อีก 3 แห่ง โดย 1 แห่งในกรุงเทพฯ ภายใต้รูปแบบ Dual Brand และ 2 แห่งเป็นการ Re-opening จากที่ acquire มาในปี 2566 ซึ่งเป็นโรงแรมในแหล่งท่องเที่ยวหลักอย่างภูเก็ตและเชียงใหม่ส่งผลให้พอร์ตโฟลิโอขยายตัวมากขึ้น ทั้งในแง่ของจำนวนห้องพักและโอกาสในการเติบโตของรายได้จากการดำเนินงานโรงแรมในทำเลที่มีศักยภาพสูง
และอีกหนึ่งเครื่องยนต์สำคัญในการขับเคลื่อน คือ บริษัท แอลฟา อินดัสเทรียล โซลูชั่น ประกอบธุรกิจด้านคลังสินค้า ปัจจุบันอัตราเช่าสูงถึง 97.6% โดยในช่วงสิ้นปี 2567 พื้นที่กว่า 400,000 ตารางเมตร พร้อมเตรียมผลักดันเข้าเทรดในตลาดหุ้นไทยปี 2570
"คลังสินค้าทั้ง 9 แห่งที่อยู่ในทำเลยุทธศาสตร์สำคัญ ได้แก่ รังสิต, บางนา กม.22, บางนา กม.19, บางนา กม.23, แหลมฉบัง, พานทอง และเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) รวมพื้นที่กว่า 400,000 ตารางเมตร ตั้งเป้าขยายเพิ่มเป็น 1 ล้านตารางเมตรในอีก 5 ปี ข้างหน้า"
อย่างไรก็ดี บริษัทตั้งเป้าอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ลดเหลือ 1 เท่าภายในปี 2570 จากปีก่อนอยู่ที่ 1.58 เท่า และปีนี้จะลดเหลือ 1.4 เท่า เพื่อให้ภาระค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยลดลง โดยเตรียมทยอยคืนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดอายุ เพื่อที่ในปี 2570 สัดส่วนเงินกู้ยืมที่มาจากหุ้นกู้จะลดเหลือ 40% จากปัจจุบันอยู่ที่ 55% ซึ่งเงินจะมาจากการขายโรงแรมเข้ากองรีท รวมถึงการนำบริษัทในเครือที่ทำธุรกิจคลังสินค้าเข้าตลาดหลักทรัพย์ในปี 2570 และเงินจากการดำเนินธุรกิจ