คิดแบบ "โด่ง-พีระพงศ์" เจาะความสำเร็จ กับ 7 ธง ORI ฝ่าวิกฤต!

"โด่ง - พีระพงศ์ จรูญเอก" ในวัย 50 ปีกับการขับเคลื่อนกลุ่มธุรกิจ "บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI" ก้าวเข้าสู่ปีที่ 16 เปรียบ ORI อยู่ในช่วงวัยรุ่นที่มีพลังเปี่ยมล้น แต่กลับระเบิดพลังไม่ได้มาก ด้วยภาวะเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจของประเทศที่ไม่เอื้อจึงต้องออมแรงและวางเกมธุรกิจครบทุกมิติ

ถามว่า.. "ออริจิ้น" ปรับตัวอย่างไรในวันที่ทุกสิ่งไม่เหมือนเดิม ?

"ในปี 2568 ถือเป็นอีกปีที่ท้าทาย เศรษฐกิจบ้านเรา หรือการเปลี่ยนแปลงของโลก โลกที่คาดเดาไม่ได้ว่าวันพรุ่งนี้จะเจอเรื่องอะไรกับนโยบายคุณโดนัลด์ ทรัมป์ที่จะทําให้โลกนี้ต้องสั่นคลอนและเปลี่ยนไป ฉะนั้นเราคงต้องตั้งรับ มีความคล่องแคล่วในการบริหารงานและเงิน ดังนั้นหัวใจสำคัญในวันนี้ คือ "ความยืดหยุ่น ปรับตัว รีคัฟเวอร์จากปัญหาอุปสรรคต่างๆ และก้าวไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็วและมั่นคง" 

"กลุ่มออริจิ้นฯ" เป็นมากกว่าอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มของเรามี 3 บริษัทมหาชนที่น่าสนใจ ทั้ง "บมจ.พรีโม่ เซอร์วิส โซลูชั่น (PRI)" ธุรกิจบริการที่เพิ่งเข้าตลาด เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา กิจการเซอร์วิสเติบโต รับงานบริการหลากหลายทั้งในเครือและนอกเครือ ทั้ง งานโรงพยาบาล โรงงานเดลต้าเล็คทรอนิกส์ รวมถึงงานสนามบิน โดยดูแลเรื่องรักษาความสะอาด การบริหารระบบ Infrastructure

ต่อมาคือ "ออริจิ้น โฮเทล" กลุ่มธุรกิจ Hospitality and Tourism & Service ส่วนตัวเชื่อว่าจุดขายของไทย คือ "wealthness and tourism" ซึ่งเรื่อง wealthness คือการดูแลรักษาพยาบาลขึ้นชื่อว่าประเทศไทยมีบริการที่ดี หมอเก่งแล้วก็มีการดูแลการรักษาจากพยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ที่เป็นอันดับต้นๆของโลก ในราคาที่ไม่แพง เพราะฉะนั้นจะเป็นตัวดึงดูดชาวต่างชาติมาใช้ชีวิตและเข้ามาลงทุนในไทย

"ท่ามกลางโลกที่มีความขัดแย้ง เรามองว่าเรื่องนี้จะเป็นทางรอดหรือเป็นทางรุ่งของประเทศไทย คนที่อยากขยายการลงทุนมาประเทศที่เป็นกลางก็จะเข้ามาในไทยหรือเซาท์อีสเอเชียที่เศรษฐกิจเจริญเติบโต การอยู่บนความขัดแย้ง จีน อเมริกา หรือในสหภาพยุโรป ผมว่าเป็นโอกาส คนหนีร้อนมาพึ่งเย็น แคปปิตอลฟันด์โฟลว์หนีจากประเทศที่เสี่ยงมาประเทศที่ผันผวนเรื่องเคอร์เรนซีต่ำ อานิสงส์ธุรกิจโฮเทล รีสอร์ท เรสซิเดนท์ที่มีบริการโรงแรมสร้างโอกาสใหม่ให้กับกลุ่มธุรกิจของเรา"

อีกหนึ่งธุรกิจที่กําลังมาแรงก็คือ "บริษัท แอลฟา อินดัสเทรียล โซลูชั่น" กลุ่มธุรกิจ Logistics and Warehouse ทํากิจการร่วมค้า (Joint Venture) กับ "เอสซีจีเจดับเบิ้ลยูดี" ซึ่งความต้องการแวร์เฮ้าส์มีเข้ามามากในไทย ด้วยเรื่องย้ายฐานผลิตจากจีนที่ถูกกีดกันการค้าเป็นโอกาสแอลฟาฯที่ทํา Buit to suit ดีมานด์เพิ่มขึ้น อัตราการเช่า 97% การทํา ready build พื้นที่ 200,000 ตารางเมตรเต็มหมด ตอนนี้สร้างไม่ทัน มีคนมารอเช่า รอให้สร้างแวร์เฮ้าส์มากมาย

"ความครบเครื่องของกลุ่มธุรกิจออริจิ้นฯ เราอยู่ใน Growth Business ทั้งโรงแรม, เซอร์วิส, แอลฟาฯ เรายังมีรายได้หลักจากบ้านและคอนโดที่มีโครงการในมือกว่า 45,000 ล้านบาท สามารถรับรู้รายได้ไปอีก 4 ปีข้างหน้า ฉะนั้นในเรื่องของวิกฤติเศรษฐกิจ วิกฤติตลาดหุ้น ตลาดเงินต่างๆ เรามีความพร้อมที่จะเติบโตและก้าวไปอย่างมั่นคง"

7 ยุทธศาสตร์สำคัญ

ธีมหลักปีนี้ คือ “Resilience Leads To Sustainable Growth” สร้างความยืดหยุ่นในการบริหารองค์กร พร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลง สู่การเป็นผู้นำและการเติบโตอย่างยั่งยืนบนโอกาสใหม่ ผ่าน  7 กลยุทธ์ที่จะมุ่งเน้นทําให้สําเร็จ เรื่องแรกคือ "FOCUS ON MAINSTREAM REVENUE" เราสนใจ ใส่ใจ เจาะลึก 5 ธุรกิจหลักให้เติบโตมั่นคงแข็งแรง นอกเหนือจาก 5 ธุรกิจหลักๆจะให้ความสำคัญน้อยลง

ต่อมาคือ "UNIQUE VALUE PROPOSITION" สร้างจุดขาย ดึงดูดลูกค้า รับเทรนด์คนยุคใหม่ชอบเลี้ยงสัตว์ ทำคอนโดที่เลี้ยงสัตว์ได้ รวมถึงผู้สูงวัยเพิ่มขึ้น โฟกัสคลินิกส่งเสริมสุขภาพ (Wellness Clinic), Home Medicine, พรีไบโอติกเมดดิซีน ฯลฯ เชื่อมโยงโพรดักส์และบริการในเครือ

เรื่องที่สามคือ "MARKET EXPANSION" ออริจิ้นพยายามขยายน่านน้ำ ขยายตลาด เราสามารถทำให้ลูกค้าที่มา "เช่า" เป็น "ซื้อ" เพิ่มขึ้น ออริจิ้นเจาะลึกทั้งเรื่องสังคมที่ใส่ใจสุขภาพ สังคมสูงวัย เทรนด์เลี้ยงสัตว์ รวมถึงคอนโดที่มีบริการพิเศษระดับโรงแรม หรือคอนโดเพื่อการลงทุน 

ต่อที่เรื่องที่สี่ "DIGITAL TRANSFORMATION" ผมเชื่อว่า AI จะผลักดันให้เราดูแลลูกค้าได้มากขึ้น เข้าใจลูกค้ามากขึ้น ตั้งแต่โอนบ้านหลังจากอยู่บ้าน ย้ายเข้าไปอยู่แล้วมีพฤติกรรมอย่างไร เราจะดูแลลูกค้ากลุ่มนั้นอย่างไร เราจะคอนเวิร์ทลูกค้าคอนโดที่เริ่มใช้แพมเพิสให้เป็นลูกค้าบ้านเดี่ยว บ้านแฝด หรือบ้านหลังใหญ่ขึ้นได้อย่างไร

เรื่องที่ห้า คือ "FINANCIAL STRUCTURE MANAGEMENT" การจัดการโครงสร้างทางการเงิน ท่ามกลางธุรกิจต่างๆ สิ่งที่ต้องเตรียมพร้อมคือ "เรื่องสุขภาพ"ต้องแข็งแรง เรื่องหนี้ และ Finance Ratio เป็นเรื่องสําคัญเป็นอันดับต้นๆในเรื่องของหลังบ้าน การทําเรื่อง Strong Balance sheet ต้องโฟกัส

ตั้งเป้าลดหนี้สินต่อทุนจาก 1.5 เท่าในปีที่ผ่านมา ลดเหลือ 1.4 ในปีนี้ และลดเหลือ 1.2 ในปี 69 เรียกว่าเรายังมีโปรอยู่ภายใน 3 ปีจากนี้ไปจะลดให้เหลือต่ำกว่า 1 เท่า

ยุทธศาสตร์ที่หก คือ "CUSTOMER FINANCIAL SUPPORT" การดูแลลูกค้าให้เข้าถึงบริการสินเชื่อให้กู้ผ่านได้มากขึ้น เราทํา debt consolution หรือการแก้ไขหนี้ร่วมกับ TTB โดยลูกค้าที่มีบัตรเครดิต หนี้รถ สามารถรวมกับหนี้บ้านและคอนโดแล้วผ่อนยาวได้ ทําให้สภาพคล่องดีขึ้น

ท้ายที่สุด ยุทธศาสตร์ที่เจ็ด "ESG & GREEN REVOLUTION" เรื่องวัสดุก่อสร้างกระบวนการที่นำมาทําใน process การก่อสร้างในการส่งมอบหรือบริการให้กับลูกค้า ออริจิ้นได้ ESG ระดับ AAA เป็นหนึ่งใน 50 บริษัทในตลาดที่มีกว่า 600 เรามุ่งมั่นทำอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเรื่อง Corporate Governance ที่ได้คะแนน 5 ดาวมากว่า 5 ปี

"ตลาดอสังหาฯในปีนี้คงเป็นตลาดที่คล้ายปีที่แล้ว อาจจะมีการเร่งตัวขึ้นในช่วงปลายปีหลังจากการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่มีอายุการทํางานของรัฐบาลในชุดนี้มากขึ้น โครงการต่างๆที่ผลักดันตัวเศรษฐกิจที่ดีขึ้นก็คงพอไปได้ แต่คงจะพื้นจริงประมาณช่วงกลางปี 2569" 

เป้าหมาย 3 ปี

ผลงานในเชิงตัวเลขทางด้านการเงิน ในปีที่ผ่านมา มีรายได้ 12,000 ล้านบาท อีก 3 ปี (2568-2570) รายได้แตะระดับ 15,500 ล้านบาท ยอดโอนเพิ่มขึ้นจาก 14,000 ล้านบาท เป็น 28,000 ล้านบาท แบ็กล็อกที่มีอยู่ประมาณ 45,000 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ภายใน 3-4 ปีข้างหน้า 

ไฮไลท์ในปี 2568 พรีเซล หรือ ยอดขาย พยายามทําให้ได้ 30,000 ล้านบาท ตั้งแบบคอนเซอเวทีฟเพราะปกติจะทำได้ปีละ 35,000 ล้านบาท ทั้งนี้อาจรอดูภาพรวมตลาดในช่วงกลางปีและปลายปีนี้ว่าจะเป็นอย่างไร

ยอดโอนรวมคาดทำได้ 22,000 ล้านบาท รายได้ประมาณ 14,000 ล้านบาท รวมถึงเปิดตัวโครงการบ้าน 6 โครงการ คอนโด 5 โครงการ รวมทั้งหมด 11 โครงการ มูลค่า 20,000 ล้านบาท บน 7 KEYS TO SUCCESS สําหรับเรื่อง Resilience Leads To Sustainable Growth

"วันนี้เราไม่ได้ดูแลแค่เรื่องพร็อพเพอตี้ แต่ดูแลคน ดูแลสัตว์เลี้ยง ไลฟ์สไตล์ ลิฟวิ่งโซลูชั่น ใช้โรบอทในธุรกิจบริการเพื่อลดค่าใช้จ่ายมากขึ้น และเรามุ่งมั่นที่จะลดหนี้สินต่อทุนลงจาก 1.58 เท่าให้เหลือ 1 เท่าในปี 2570 เป็นไฟแนนซ์เชียลทาร์เก็ตของเรา"