เจน 3 ลุยพลิกโฉม “โรงแรมเอเชีย” โจทย์ท้าทาย "มาตรฐานสูง" คนรุ่น 2

เจน 3 ลุยพลิกโฉม “โรงแรมเอเชีย” โจทย์ท้าทาย "มาตรฐานสูง" คนรุ่น 2

23 มีนาคม 2568

ทายาทรุ่นที่ 3 เดินเกมยกระดับ “โรงแรมเอเชีย” โจทย์ท้าทาย “มาตรฐานสูง” ของคนรุ่นที่ 2 ชูดีไซน์ทันสมัย ตอบรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ตอกย้ำมาตรฐานโรงแรมชั้นนำ ระดับ 4 ดาว

KEY

POINTS

  • ทายาทรุ่นที่ 3 เดินเกมยกระดับ “โรงแรมเอเชีย” ชูดีไซน์ทันสมัย ตอบรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ตอกย้ำมาตรฐานโรงแรมชั้นนำ ระดับ 4 ดาว
  • ทุ่มงบ 500-600 ล้านบาท ในช่วง 3 ปีจากนี้ พ

เมื่อพูดถึงธุรกิจโรงแรมในประเทศไทยที่อยู่มายาวนาน และถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น “โรงแรมเอเชีย” นับว่าเป็นชื่อที่โดดเด่นและมีชื่อเสียงอย่างกว้างขวาง จากจุดเริ่มต้นเมื่อปี 2509 หรือเมื่อ 59 ปีก่อน โดยคุณปู่ และคุณย่า (คุณสุวิมล เตชะหรูวิจิตร) ซึ่งเป็นเจเนอเรชั่นที่ 1 ที่เป็นผู้วางรากฐาน “โรงแรมเอเชีย กรุงเทพฯ” จากนั้นในช่วงระยะเวลาภายใน 10 ปีต่อมา ได้ขยายไปยัง “โรงแรมเอเชีย พัทยา” 

เข้าสู่เจเนอเรชั่นที่ 2 ภายใต้การนำของคุณพ่อ (คุณสุรพล เตชะหรูวิจิตร) และน้องๆ อีก 3 คน ธุรกิจเติบโตอย่างก้าวกระโดด และได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เมื่อปี 2532 ในชื่อ บริษัท เอเชียโฮเต็ล จำกัด (มหาชน) หรือ ASIA 

โดยเจเนอเรชั่นที่ 2 ได้ขยายจาก 2 โรงแรมแรก เป็น 7 โรงแรม กระจายทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ อย่าง สหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ ยังมีการต่อยอดสู่ธุรกิจศูนย์การค้า ด้วยการสร้าง “ศูนย์การค้าไอที เซียร์รังสิต” ที่กลายเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของกลุ่มธุรกิจนี้ โดยเฉพาะด้านไอทีและสินค้าเฉพาะกลุ่มที่ยังครองใจลูกค้าอยู่จนถึงปัจจุบัน

ปัจจุบัน เจเนอเรชั่นที่ 3 เข้ามาช่วยดูแลธุรกิจ โดย “คุณไมตี้-พัชรพล เตชะหรูวิจิตร” หนึ่งในทายาทรุ่นที่ 3 ดีกรีปริญญาโท M.S. Financial Analysis, University of San Francisco, California, U.S.A. เข้ามารับผิดชอบธุรกิจเต็มตัวตั้งแต่ต้นปี 2561 

โปรเจกต์แรกที่รับผิดชอบ คือ การเข้าลงทุนซื้อกิจการโรงแรมในประเทศสหรัฐอเมริกา Quality Inn Long Beach-Signal Hill, Signal Hill, CA. U.S.A. นับเป็นการทดสอบครั้งสำคัญและเป็นการดำเนินงานที่ต้องบริหารจัดการด้วยตนเองอย่างเต็มรูปแบบ เขายอมรับว่าช่วงแรกเต็มไปด้วยความท้าทาย แต่ก็สามารถเรียนรู้และพัฒนาทักษะบริหารงานได้อย่างรวดเร็ว

เจน 3 ลุยพลิกโฉม “โรงแรมเอเชีย” โจทย์ท้าทาย \"มาตรฐานสูง\" คนรุ่น 2

ทำให้ปัจจุบัน ASIA เป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ ครอบคลุมธุรกิจหลัก 2 กลุ่ม ได้แก่ ธุรกิจโรงแรมและภัตตาคาร ประกอบด้วย โรงแรมเอเชียกรุงเทพ, โรงแรมเอเชียพัทยา, โรงแรมเอเชียแอร์พอร์ท, โรงแรมเอเชียชะอำ, โรงแรมดาร์เลย์ เชียงใหม่, โรงแรมราชพฤกษ์ ลานนา บูทีค และ Quality Inn Long Beach-Signal Hill ตั้งอยู่ที่ Signal Hill, CA. U.S.A. 

ธุรกิจศูนย์การค้า (ให้เช่าพื้นที่) ประกอบด้วย ศูนย์การค้าไอที เซียร์รังสิต, ศูนย์ค้าส่ง The Hub และศูนย์การค้าขนาดเล็ก ที่เมือง Grendale, Los Angeles, U.S.A. 

คุณไมตี้ เล่าย้อนกลับไปก่อนที่จะเข้ามาช่วยธุรกิจครอบครัว หลังจากจบการศึกษาปริญญาตรี Bachelor of Economics International Program, Thammasat University ได้ไปฝึกงานที่ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทาลิส จำกัด เป็นเวลา 3 เดือน จากนั้นได้เป็นพนักงานประจำ ตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการกองทุน วิเคราะห์หุ้น หลักๆ ดูกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค, กลุ่มท่องเที่ยว และกลุ่มโรงพยาบาล 

เมื่อทำงานครบ 2 ปี ตามที่ได้แจ้งไว้ ทาง บลจ.ทาลิส ก็ถามว่าจะทำงานต่อไป หรือต้องกลับไปช่วยงานที่บ้าน จึงได้กลับมาปรึกษาที่บ้าน ซึ่งก็ได้รับคำตอบจากคุณพ่อว่าให้กลับมาช่วยงานที่บ้าน ทำให้ได้เข้ามารับผิดชอบธุรกิจเต็มตัวกับ ASIA ตั้งแต่ต้นปี 2561 ด้วยตำแหน่ง “ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ” ดูในเรื่อง M&A โรงแรม, เจรจากับธนาคารในการกู้ยืมเงิน และ Operation ในบางพร็อพเพอร์ตี้

ในปี 2561 เป็นปีเดียวกับที่ ASIA เข้าไปลงทุนโรงแรมในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นดีลที่ได้รับผิดชอบ โดยใช้เวลาเพียง 3 เดือน ก็ได้ทำการซื้อโรงแรมในประเทศสหรัฐอเมริกา Quality Inn Long Beach-Signal Hill, Signal Hill, CA. U.S.A. เป็นที่เรียบร้อย

จนกระทั่งในปี 2567 ได้รับตำแหน่ง “ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร” เป็นผู้ช่วยคุณสุรพล เตชะหรูวิจิตร (คุณพ่อ) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชียโฮเต็ล จำกัด (มหาชน) หรือ ASIA โดยการทำงานยังใกล้เคียงเดิม แต่ที่แตกต่างคืองานที่ได้รับมอบหมายมีมากขึ้น และฉายเดี่ยวมากขึ้น 

“เจเนอเรชั่นที่ 3 เข้ามาทำงานจริงจังประมาณ 5-6 คน ทุกคนมีหน้าที่ชัดเจน แบ่งสัดส่วนกันดูแลไป สำหรับผมเข้ามาดูแลรับผิดชอบด้านการเงิน และดูด้าน Operation บ้าง พอดูด้านการเงินป็นหลัก ทำให้ได้ดูภาพรวมของธุรกิจองค์กรในทุกส่วน ขณะที่พี่ๆ คนอื่นก็จะดูแลในแต่ละส่วน” คุณไมตี้ บุตรชายคนที่ 3 ของคุณสุรพล กล่าว 

เจน 3 ลุยพลิกโฉม “โรงแรมเอเชีย” โจทย์ท้าทาย \"มาตรฐานสูง\" คนรุ่น 2 โรงแรมดาร์เลย์ เชียงใหม่

คุณไมตี้ ยังกล่าวเสริมว่า การบริหารธุรกิจในยุคนี้ต่างจากรุ่นก่อน เพราะมีเทคโนโลยีและเครื่องมือทันสมัย เช่น AI และระบบออโตเมชัน ที่ช่วยให้ธุรกิจดำเนินงานได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และแม่นยำมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าแม้จะมีเครื่องมือที่ทันสมัย แต่แรงกดดันในการสานต่อธุรกิจครอบครัวยังถือว่าสูงมาก เพราะเจเนอเรชั่นก่อนทำไว้ในระดับมาตรฐานที่สูง การก้าวเข้ามาเพื่อยกระดับให้สูงขึ้นไปอีกจึงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่สิ่งที่ทำให้เจเนอเรชั่นที่ 3 โชคดี คือยังมีเจเนอเรชั่นที่ 2 คอยเป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำสำคัญตลอดเวลา ซึ่งถือเป็นประโยชน์อย่างมากในการบริหารจัดการและแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น

สำหรับแนวคิดในการบริหารงานให้ประสบความสำเร็จ คือการตั้งเป้าหมายในแต่ละปีว่าจะทำอะไรบ้าง และพยายามติดตามเป้าหมายในทุกวัน ซึ่งตอนนี้เป้าหมายหลักของ ASIA คือ การปรับปรุงพร็อพเพอตี้ทั้งหมด ซึ่งในปีที่แล้วได้มีการปรับปรุงล็อบบี้ของโรงแรมเอเชียกรุงเทพ ซึ่งเจเนอเรชั่นที่ 3 ได้เข้ามาดูในเรื่องดีไซน์ ลงรายละเอียดของงาน ขณะที่เจเนอเรชั่นที่ 2 จะดูภาพกว้างมากขึ้น และปีนี้วางแผนปรับปรุงห้องพักโรงแรมเอเชียกรุงเทพ และโรงแรมเอเชียพัทยา ดังนั้นโดยรวมเรามองเป้าหมายระยะสั้น-ระยะกลาง และก็ติดตามเป้าหมายให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ 

ทางด้านเป้าหมายในปี 2568 ธุรกิจโรงแรมและภัตตาคาร ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตประมาณ 10-15% จากปีก่อน ด้วยแรงหนุนจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและยังคงสดใส หลังจากในปี 2567 ธุรกิจโรงแรมและภัตตาคาร รายได้กลับไปสูงกว่าปี 2562 หรือก่อนโควิด-19 แล้ว โดยปัจจุบันกลุ่มลูกค้าจากเอเชีย คิดเป็นสัดส่วน 40% ซึ่งในปีที่แล้ว กลุ่มลูกค้าจากญี่ปุ่นมีสัดส่วนเกือบ 10% เพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านี้ ที่มีสัดส่วนเพียง 2-52% กลุ่มลูกค้าในไทย 30% และกลุ่มลูกค้าจากยุโรป 30%  

เจน 3 ลุยพลิกโฉม “โรงแรมเอเชีย” โจทย์ท้าทาย \"มาตรฐานสูง\" คนรุ่น 2

โรงแรมเอเชียกรุงเทพ

ขณะที่ธุรกิจศูนย์การค้าในปี 2568 ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 3-7% จากปีก่อน เนื่องจากยังเผชิญกับความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจ แต่ก็ยังคงมีแผนปรับโฉมพื้นที่ให้ตรงใจกลุ่มลูกค้ามากขึ้น ทำให้โดยรวมรายได้ในปี 2568 ตั้งเป้าหมายเติบโต 5-10% จากปีก่อน แบ่งเป็นสัดส่วนรายได้จากกลุ่มธุรกิจโรงแรมและภัตตาคาร 65% และธุรกิจศูนย์การค้า 35% ผลักดันให้ในปี 2568 น่าจะได้เห็น ASIA พลิกกลับมามีกำไรสุทธิ 

ส่วนแผนงานในช่วง 3-5 ปีจากนี้ คุณไมตี้ เปิดเผยว่า กลยุทธ์สำคัญคือการลงทุนปรับปรุงโรงแรมที่มีอยู่ ตอกย้ำมาตรฐานโรงแรมชั้นนำ ระดับ 4 ดาว โดยใช้งบลงทุนกว่า 500-600 ล้านบาท แบ่งเป็นงบลงทุน 300-400 ล้านบาท เพื่อรีโนเวทโรงแรมเอเชีย กรุงเทพ และงบลงทุน 100-200 ล้านบาท สำหรับรีโนเวทเอเชีย พัทยา โดยเฉพาะส่วนของห้องพัก ห้องประชุม และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้มีความทันสมัย ตอบโจทย์ลูกค้ารุ่นใหม่ ซึ่งเน้นความสะดวกสบาย และต้องการสถานที่จัดงานที่มีมาตรฐานสูง ทั้งหมดนี้ก็เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิมและขยายฐานลูกค้าใหม่ไปพร้อมกัน

“ถามว่าเราจะขยับขึ้นเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว หรือไม่ น่าจะไม่ใช่ปัจจัยนั้น เรา Fix Asset เดิม ลงทุนเพิ่มเข้าไป อาจคุ้มค่ากว่าลงทุนใหม่ เพราะทุกโรงแรมของเราอยู่ในโลเคชั่นที่ดีทั้งหมด ดังนั้นเราลงทุนปรับปรุงโรงแรมที่มีอยู่ เพื่อตอกย้ำมาตรฐานโรงแรมชั้นนำ ระดับ 4 ดาว”   

คุณไมตี้ ย้ำว่าการทำธุรกิจในยุคปัจจุบันนี้ไม่ได้อยู่แค่การสานต่อธุรกิจจากรุ่นก่อน แต่คือการยกระดับอย่างต่อเนื่อง และต้องสร้างสรรค์สิ่งใหม่ที่ตอบสนองยุคสมัยและความต้องการของตลาด โดยมุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจโรงแรมที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน พร้อมก้าวเข้าสู่อนาคตอย่างมั่นคงและยั่งยืน

เจน 3 ลุยพลิกโฉม “โรงแรมเอเชีย” โจทย์ท้าทาย \"มาตรฐานสูง\" คนรุ่น 2 โรงแรมเอเชียพัทยา

Thailand Web Stat