รอปัจจัยใหม่! SET ไซด์เวย์ 1,180-1,200 จุด จังหวะย่อตั้งรับ BBIK

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุนฝ่ายวิจัย บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า วานนี้สหรัฐฯรายงานยอดขายบ้านใหม่ เดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 1.8% จากเดือนก่อน ฟื้นจากเดือนมกราคมที่ -6.9%จากเดือนก่อน แต่ยังต่ำกว่าตลาดคาดที่ 3.5%

ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก Conference Board เดือนมีนาคม ลดลงสู่ระดับ 92.9 จาก 100.1 ต่ำกว่าคาดที่ 94 เป็นระดับที่ต่ำสุดในรอบ 4 ปี เนื่องจากผู้บริโภคกังวลว่านโยบายของทรัมป์จะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐฯเข้าสู่ภาวะถดถอย และทำให้เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น

อย่างไรก็ดีตลาดยังคงรอการรายงานตัวเลขสำคัญในช่วงปลายสัปดาห์ทั้งไตรมาส 4/67 ตัวเลข GDP สหรัฐฯ และ Core PCE ถือเป็นตัวเลที่ FED ใช้ประกอบการพิจารณาเกี่ยวกับนโยบายทางการเงินในช่วงถัดไป

ด้านราคาน้ำมันดิบยังคงแกว่งแคบ ท่ามกลางข่าวพลังงานที่ผสมผสาน เช่น ข่าวรัสเซียและยูเครนตกลงที่จะยุติการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน, การขู่ขึ้นภาษีประเทศที่นำเข้าน้ำมันจากเวเนซุเอล่าและรายงานสต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์จาก API ลดลง 4.6 ล้านบาร์เรล แต่คืนนี้ตลาดคาดตัวเลขสต๊อกน้ำมันจาก EIA เพิ่มขึ้นราว 1.2 ล้านบาร์เรล

ส่วนปัจจัยในประเทศ พบว่าปริมาณการซื้อขายยังคงเบาบาง ท่ามกลางกระแสเงินทุนต่างชาติที่ยังไหลออก สอดคล้องค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ล่าสุดทดสอบระดับ 34 บาทต่อดอลลาร์ ดังนั้น SET ยังอยู่ในช่วงการย่ำฐาน ในกรอบ 1,180-1,200 จุด โดยแนะย่อสะสมหุ้นโซนล่าง ที่แนวโน้มกำไรฟื้นตัว และมี Valuation ไม่แพง

คาดหุ้นไทยวันนี้ “Sideways” ในกรอบ 1,180-1,200 จุด ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯส่วนใหญ่ยังต่ำกว่าคาด เป็นแรงกดดันระยะสั้น ผสานในประเทศ กระแสเงินทุนยังไหลออก สอดคล้องค่าเงินบาทอ่อนค่า ดังนั้นอาจรอจังหวะย่อตั้งรับ เน้นหุ้นโซนล่างที่แนวโน้มกำไรยังฟื้นตัวดี 

โดยวันนี้แนะนำ “BBIK” ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 47.50 บาท คาดรายได้ปีนี้เติบโตแกร่งราว 20-30% ตามอุตสาหกรรม Digital transformation ที่ขยายตัวดี ผสานธุรกิจ AI, cloud, virtual bank , data center ที่ยังเป็นปัจจัยเสริม หนุน Backlog ยังอยู่ในระดับสูง

ปัจจุบันราคาหุ้นเทรดเพียง PE2025 ที่ 15.7 เท่า ขณะที่ค่าเฉลี่ยการเติบโตยังแข็งแกร่งราว 30% จากปีก่อน คิดเป็น PEG Ratio เพียง 0.5 เท่า เป็นระดับที่น่าทยอยสะสม