HMPRO พุ่ง 9.09% ตอบรับซื้อหุ้นคืน หนุน EPS เพิ่ม 6% ROE เพิ่ม 0.3%
ราคาหุ้น HMPRO พุ่ง 9.09% ตอบรับประกาศซื้อหุ้นคืน 800 ล้านหุ้น วงเงินไม่เกิน 7,000 ล้านบาท ตั้งแต่ 1 เม.ย.-30 ก.ย.68 โบรกฯ ประเมิน EPS ปี 68 เพิ่มขึ้น 6% และ ROE เพิ่มขึ้น 0.3%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO วันนี้ (26 มี.ค.2568) ล่าสุด เวลา 15.16 น. เพิ่มขึ้น 0.70 บาท หรือเพิ่มขึ้น 9.09% มาอยู่ที่ 8.40 บาท ปรับตัวขึ้นไปสูงสุดที่ 8.75 บาท และลงไปต่ำสุดที่ 8.30 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 739.86 ล้านบาท
หลังจาก ที่ประชุมคณะกรรมการ HMPRO ครั้งที่ 3/2568 เมื่อวันที่ 25 มี.ค.2568 ได้มีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน (Treasury Stock) ภายในวงเงินสูงสุดไม่เกิน 7,000 ล้านบาท จำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนไม่เกิน 800 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นไม่เกิน 6.00% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด โดยวิธีจับคู่อัตโนมัติผ่านระบบการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ฯ และมีกำหนดระยะเวลาซื้อหุ้นคืนตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.-30 ก.ย.2568
สำหรับเหตุผลในการซื้อหุ้นคืน เพื่อเป็นการบริหารสภาพคล่องส่วนเกินของบริษัทให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเพื่อเพิ่มอัตราผลตอบแทนให้แก่ส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) รวมถึงเพิ่มอัตรากำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ซึ่งจะทำให้ราคาหุ้นในอนาคตสามารถสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงของบริษัท
บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า การประกาศซื้อหุ้นคืนของ HMPRO เป็นปัจจัยบวกต่อราคาหุ้นในช่วงที่มีการซื้อหุ้นคืน เนื่องจากตามหลักเกณฑ์ในการกำหนดราคาในการซื้อหุ้นคืนนั้น จะต้องนำราคาหุ้นเฉลี่ยย้อนหลัง 30 วันก่อนวันที่บริษัทจะประกาศซื้อหุ้น (25 มี.ค.2568) มาประกอบการพิจารณา ซึ่งราคาเฉลี่ยย้อนหลัง 30 วัน เท่ากับ 8.16 บาท อีกทั้งหากใช้เงินเต็มวงเงิน 7,000 ล้านบาท ในการซื้อหุ้นคืน 800 ล้านหุ้น จะคิดเป็นราคา 8.75 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาตลาดปัจจุบัน
โดยสิ้นปี 2567 บริษัทมีเงินสดอยู่แล้วราว 5,100 ล้านบาท บวกกับกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน (OCF) ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 ที่บริษัทคาดไว้อีก 9,000 ล้านบาท ขณะที่มีหนี้สินที่ต้องชำระใน 6 เดือน ข้างหน้า (ช่วงซื้อหุ้นคืน) ราว 6,000 ล้านบาท ฐานะการเงินของบริษัทจึงแข็งแกร่งพอจะซื้อหุ้นคืนได้
หากซื้อหุ้นคืนครบ 800 ล้านหุ้น และไม่ได้ขายหุ้นที่ซื้อคืนออกมาเมื่อครบเวลา (3 เดือน-3ปี) จะทำให้ EPS ปี 2568 เพิ่มขึ้น 6% และ ROE เพิ่มขึ้น 0.3%
แม้เรายังคงประมาณการกำไรปี 2568 ไว้ตามเดิมที่ 6,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% จากปีก่อน และคงราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 11.60 บาท (อิง PER 22.4 เท่า, -2.0 S.D) ซึ่งมี upsideสูง และคาดหวังปันผลปี 2568 ที่ 5.4% อีกทั้งมีปัจจัยบวกต่อราคาหุ้นจากการซื้อหุ้นคืนครั้งนี้ จึงปรับเพิ่มคำแนะนำ จากเดิม “Neutral” เป็น “Outperform”