
ลุ้นเงินเฟ้อสหรัฐฯ-มาตรการกระตุ้นไทย SET แกว่ง 1,180-1,200 จุด
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุนฝ่ายวิจัย บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯยังคงได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนต่อการดำเนินนโยบายทางภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ ซึ่งทรัมป์จะประกาศในวันที่ 2 เมษายนนี้ เข้ามาบดบังตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯวานนี้ที่ออกมาแกร่งกว่าตลาดคาด ทั้งไตรมาส 4/67 GDP (ครั้งสุดท้าย) ที่ขยายตัว 2.4%จากไตรมาสก่อน ดีกว่าตลาดคาดที่ 2.3%จากไตรมาสก่อน
และในไตรมาส 4/67 US Core PCE อยู่ที่ระดับ 2.6%จากไตรมาสก่อน ต่ำกว่าคาดที่ +2.7%จากไตรมาสก่อน บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯยังอยู่ในระดับที่ดี รวมถึงเงินเฟ้อก็อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าที่ตลาดประเมินไว้
อย่างไรก็ดี คืนนี้จะมีการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อ PCE เดือน ก.พ. ถือเป็นตัวเลขสำคัญที่จะสะท้อนแนวโน้มการดำเนินนโยบายทางการเงินของ FED ในช่วงถัดไป โดยตลาดคาด US PCE ก.พ.จะทรงตัวที่ระดับ 2.5%จากปีก่อน ด้าน US Core PCE จะปรับขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ 2.7% จากปีก่อนเป็นตัวเลขที่น่าติดตาม
ปัจจัยในประเทศ ระยะสั้นยังคงพยายามแกว่งตัวในกรอบ 1,180-1,200 จุด ท่ามกลางความคาดหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่คาดจะค่อยๆทยอยออกมา เช่น มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว, กระตุ้นการบริโภค รวมถึงมาตรการแก้ปัญหาหนี้ เป็นต้น
กลยุทธ์การลงทุน ยังคงแนะจังหวะย่อทยอยสะสม หุ้น Big Cap ที่อยู่โซนล่าง ที่คาดกำไรยังขยายตัวดี และมี Valuation อยู่ในระดับที่น่าสนใจ
วันนี้แนะนำ “CPF” ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 30 บาท แนวโน้มราคาหมูฟื้นต่อเนื่อง โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 2.5%จากสัปดาห์ก่อนส่งผลให้ตั้งแต่ต้นปี เพิ่มขึ้น 13.6%YTD ผสานกับราคาไก่ในสัปดาห์ที่ผ่านมาที่เริ่มฟื้นตัว 2.5%จากสัปดาห์ที่ผ่านมาเช่นกัน คาดจะส่งผลบวกต่อภาพแนวโน้มกำไรในไตรมาส 1/2568 เติบโตดี
ขณะที่ต้นทุนอาหารสัตว์ยังมีแนวโน้มชะลอตัว ผสานกำไรบริษัทลูกที่ยังอยู่ในเกณฑ์ดีเป็นแรงหนุนเพิ่มเติม
คาด SET วันนี้ “Sideways” ในกรอบ 1,180-1,200 จุด ความกังวลต่อนโยบายภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ บดบังตัวเลขเศรษฐกิจที่ดีกว่าคาด ขณะที่คืนนี้แนะเกาะติดรายงาน US Core PCE คาดปรับขึ้นเล็กน้อยสู่ 2.7%จากปีก่อน ส่วนด้านกลยุทธ์ยังเน้นย่อสะสมหุ้นที่แนวโน้มกำไรเติบโต และมี Valuation อยู่ในระดับที่น่าสนใจ